ลุ้นนายกอบจ.3จังหวัด24พ.ย.
อุดรฯแข่งดุเดือด
‘เพื่อไทย-ปชน.’ใส่กันไม่ยั้ง
‘แสวง’แย้มมีร้องเรียน2เรื่อง
‘เทพไท’แฉแหลกเมืองคอน
ยิงกระสุนปูพรมหัวละ200บาท
ลุ้นระทึกชิงเก้าอี้นายก อบจ. 3 จังหวัด “แสวง” รุดตรวจอุดรฯระบุแข่งดุแต่มีร้องเรียนใส่ร้ายกันของผู้สมัครแค่ 2 เรื่อง ด้าน “เทพไท” แฉเลือกตั้งเมืองคอน ยิงกระสุนหัวละ 200 บาท
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งให้สัมภาษณ์ระหว่างไปตรวจเยี่ยมการรับมอบวัสดุอุปกรณ์ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ที่หอประชุมบริบาลภูมิเขตต์ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ถึงความพร้อมการเลือกตั้งในวันที่ 24 พย. ว่าจะมีการเลือกตั้งนายก อบจ. 3 แห่ง คือที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งทั้ง 3 จังหวัด มีการแจกอุปกรณ์เลือกตั้งแล้ว
นายแสวง กล่าวว่า ที่จังหวัดอุดรธานี ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากฝ่ายปกครอง โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ปลัด อบจ. และนายกอำเภอ พบว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พร้อมในการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งใน 2,243 หน่วย ของจังหวัดอุดรธานี ที่มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 1,230,000 คน จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มากที่สุด
อุดรฯร้องเรียนแค่2เรื่อง
เมื่อถามถึงการเลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี ที่มีการแข่งขันกันสูง และคืนนี้เป็นคืนหมาหอน กกต. จะจับตาอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า แม้ว่าในพื้นที่จะมีการแข่งขันกันสูง ก็ไม่ใช่ว่าสิ่งนี้จะทำให้เกิดการทำผิดกติกา แต่เป็นข้อดีที่จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิให้มาก และเท่าที่ได้ฟังข้อมูลจากฝ่ายสืบสวนสอบสวนของสำนักงาน กกต. จังหวัดอุดรธานี คู่แข่งยังอยู่ในกติกา เบื้องต้นมีข้อร้องเรียน 2 เรื่อง คือเรื่องใส่ร้ายและอยู่ในระหว่างดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องกล่าวหากันจึงต้องไปตรวจสอบ
เพชรบุรีร้องกำนันไม่เป็นกลาว
ด้าน ร้อยตำรวจเอกหญิง ฐาปนีย์ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเพชรบุรี พร้อมคณะ เตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี ในวันที่ 24 พ.ย. 67 เขตอำเภอเมือง 8 อำเภอ ซึ่งหน่วยเลือกตั้งใหญ่อยู่ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งคาดว่าในวันพรุงนี้ ประชาชนจะออกมาใช้สิทธิลงคะแนนเสียงกันเป็นจำนวนมาก
ขณะเดียวกันมีประชาชนร้องเรียนขอความยุติธรรมไปยังศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดเพชรบุรี หลังจากพบว่า ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน เจ้าหน้าที่รัฐ บางรายวางตัวไม่เป็นกลางทางการเมือง ในกรณีเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี ครั้งนี้
เมืองคอนยิงกระสุน200
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่าวันนี้ขออนุญาตพูดถึงเรื่องการเมืองท้องถิ่น คือการเลือกตั้งนายกอบจ. นครศรีธรรมราช ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 มีการหาเสียงแข่งขันกันอย่างรุนแรง มีกระแสการหาการซื้อเสียงกันเปิดเผย เป็นที่รับรู้ในหมู่ประชาชน เป็นข่าวโด่งดังมากที่สุด
ผู้สมัครบางคนใช้เงินซื้อเสียงผ่านผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. ผู้กว้างขวางในพื้นที่ เดินซื้อเสียงหัวละ 200 บาท บางพื้นที่ไม่ยอมรับเห็นว่าราคาน้อยเกินไป ต่อรองปรับเป็นหัวละ 300 บาทก็มี ซึ่งเป็นมูลค่าที่ต่ำมาก ไม่สามารถซื้อหมูสดได้สัก 1 กิโลกรัม หรือซื้อกะปิได้ไม่ถึงครึ่งกิโลกรัม
ยกผลวิจัยรับเงินแล้วไม่กา
มีชาวบ้านบางคนยอมรับเงินแต่ไม่เลือก บางคนรับแล้วเลือก ซึ่งผลการวิจัยพบว่าคนที่รับเงินซื้อเสียงจำนวน 80% จะเลือกคนซื้อเสียง มีเพียง 20% เท่านั้นที่เบี้ยวไม่ลงคะแนนให้ ส่วนคนที่ไม่เลือกก็จะไม่รับเงินเลย เพราะฉะนั้นการรณรงค์ให้ประชาชนกินเหยื่อไม่กินเบ็ด รับเงินแล้วไม่เลือก เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
การชื่อเสียงในครั้งนี้ เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวาง มีแต่คณะกรรมการเลือกตั้งหรือ กกต. ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเท่านั้น ไม่รับรู้เรื่องการซื้อเสียงเลย ถือว่าล้มเหลวในการทำหน้าที่จัดการเลือกตั้ง ให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการตรวจสอบ หรือสืบสวนหาข้อมูลในทางลับเลย ปล่อยให้มีการชื่อเสียงกันอย่างเปิดเผย ยิ่งกว่าการซื้อหวยใต้ดินเสียอีก
ถ้าเป็นอย่างนี้ต้องตั้งคำถามว่า เราจะมีกกต. ไปเพื่ออะไร ให้สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดิน ถ้าไร้ประสิทธิภาพ ทำงานไม่ได้ ควบคุมการซื้อเสียงไม่ได้ ก็ยุบทิ้งเสียดีกว่า มอบให้กระทรวงมหาดไทยเป็นผู้จัดการเลือกตั้งเหมือนในอดีต เพราะองค์กรไหนการเลือกตั้งก็ยังมีการซื้อเสียงกันเหมือนเดิมไม่สามารถควบคุมได้ ก็ปล่อยให้การเลือกตั้งเป็นไปตามธรรมชาติเสียเลย
รทสช.ขออย่ารุนแรง
นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในหลายพื้นที่ ตนขอฝากคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยบริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส พร้อมคุมเข้มตรวจสอบเรื่องการซื้อสิทธิ์ขายเสียงด้วย หลังมีพี่น้องประชาชนแจ้งเข้ามาต่อเนื่องในหลายจังหวัด
ทั้งนี้เรื่องการหาเสียง ไม่ว่าจะรูปแบบปกติและแบบออนไลน์ นายธนกร ระบุว่า ขอทุกพรรคการเมือง และผู้สมัครทุกจังหวัด เน้นการประชาสัมพันธ์นโยบายที่จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนมากกว่าการใช้วาทกรรมกล่าวหาโจมตีให้ร้ายคู่แข่ง ตนมองว่า ในยุคสมัยนี้ควรทำการเมืองใหม่ใช้วิธีการหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ นำเสนอนโยบายและความรู้ความสามารถว่าจะพัฒนาพื้นที่และพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไรดีกว่า
“การแข่งขันเป็นเรื่องปกติที่มีแพ้ มีชนะ แต่ก็พบว่าบางพรรค หวังเอาชนะการเลือกตั้งด้วยการกล่าวหาให้ร้ายโจมตีคู่แข่งอย่างไม่สร้างสรรค์ จึงมองว่า จะทำการเมืองใหม่ให้ดี ไม่ควรใช้วาทกรรมป้ายสีกันแบบเดิมๆ ประเทศจะพัฒนาไปข้างหน้าได้ ต้องเริ่มจากนักการเมืองก่อน แข่งกันที่นโยบาย ผลงานความรู้ความสามารถ จะเป็นการเมืองรุ่นใหม่ ที่สร้างสรรค์จริงๆ“ นายธนกร กล่าว
“หนู”ชี้อบจ.ไม่ได้เป็นพื้นที่ใคร
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีการเลือกตั้งนายก อบจ. หลายจังหวัดในสัปดาห์นี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคเพื่อไทยมีความพยายามที่จะเจาะพื้นที่อีสานใต้ ซึ่งเป็นของพรรคภูมิใจไทยว่า ไม่มีพื้นที่ของใครทั้งนั้น ทุกพื้นที่เป็นของประชาชน ประเทศไทยเป็นของประชาชน คนไหนที่มีความสามารถที่ทำให้ประชาชนเชื่อว่า จะสามารถทำประโยชน์ และพัฒนาบ้านของเขาได้ ในการเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกสภาเทศบาล หรือ สมาชิก อบต. ซึ่งไม่มีเป็นพื้นที่ของใคร เพราะคนที่จะอาสาสมัครเข้าไปทำหน้าที่รับใช้บ้านเมืองต้องฮาร์ดเซลล์ (Hard Sell) ว่าจะทำอะไรให้ประชาชนได้บ้าง ถ้าประชาชนเชื่อใจก็เลือก ก็เป็นรอบๆ ไป การเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเป็นของคนโน้น ซึ่งก็ไม่มีการตีว่า จะเป็นตลอดกาลสบาย ๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี