‘ฝ่ายกฎหมายเพื่อไทย‘ไม่กังวล กกต.เดินหน้าสอบคดียุบพรรค บอกถ้าแจ้งข้อกล่าวหามาก็พร้อมชี้แจง เผยคุยกันในพรรคตลอด ด้าน'นพดล'หวังองค์กรอิสระยึดมั่น หลักนิติธรรม
เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2567 นายกฤช เอื้อวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (น.ส.จิราพร สินธุไพร) ในฐานะฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เดินหน้าสอบกรณียุบพรรค พท. โดยอ้างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองเกี่ยวกับการครอบงำ ว่า เรื่องที่ กกต.จะสอบเป็นเรื่องเกี่ยวกับการครอบงำ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 28 และมาตรา 29 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ก็เป็นหน้าที่ของเขา และเขามีกระบวนการอยู่ ซึ่งหากทาง กกต. แจ้งข้อกล่าวหามา เราก็มีหน้าที่ชี้แจงข้อกล่าวหา ไม่ได้กังวลอะไร
เมื่อถามว่า พรรค พท. จะเดินหน้าทำงานต่อ โดยไม่หวั่นไหวใช่หรือไม่ นายกฤช กล่าวว่า ไม่ได้หวั่นไหว และก็ทำหน้าที่ไป แต่ต้องระมัดระวังเรื่องกฎหมาย และข้อห้ามต่างๆ
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกันภายในพรรคบ้างหรือไม่ นายกฤช กล่าวว่า ข้อกล่าวหาเรื่องของการครอบงำเป็นข้อกล่าวหาแบบกว้าง อยู่ที่การตีความ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกพรรคหากมีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้อง
ถามต่อว่า เรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายเป็นคนดูโดยตรง หรือมีการตั้งใครขึ้นมาเป็นหัวหน้าทีมเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฤช กล่าวว่า จริงๆ ก็มีหลายคนที่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย แต่ต้องมานั่งดูเรื่องการแจ้งข้อกล่าวหาของ กกต.ก่อนว่าเขาแจ้งข้อกล่าวหามาว่าอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พท. ได้มีการพูดคุยอะไรกับฝ่ายกฎหมายถึงเรื่องนี้บ้างหรือไม่ นายกฤช กล่าวว่า มีการพูดคุยกันตลอดในพรรคอยู่แล้ว ซึ่งท่านก็ไม่ได้มีความเป็นห่วงหรือกังวลอะไร ทุกคนทำหน้าที่ไปตามปกติ เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหามาฝ่ายกฎหมายก็มีหน้าที่ต้องมาประชุมว่าจะชี้แจงข้อกล่าวหาอย่างไร และต้องว่าไปตามกระบวนการ
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีดังกล่าวว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.ที่จะพิจารณา ตามคำร้องของนักร้องที่ไปยื่นเรื่องไว้ แต่พรรคเพื่อไทย เรามั่นใจในชุดข้อมูลของเราว่าไม่มีพฤติกรรมให้คนนอกพรรคมาครอบงำแต่อย่างใด เพราะพรรคเพื่อไทยมีกรรมการบริหารพรรคเหมือนพรรคอื่นๆ ที่การดำเนินการอะไรต้องผ่านการตัดสินใจ และมีมติของกรรมการบริหารพรรค และเราเชื่อมั่นกกต.ในการรวมพยานหลักฐาน และวินิจฉัยประเด็นต่างๆ ตามข้อเท็จจริง จึงไม่มีอะไรที่ต้องกังวลไปก่อน
เมื่อถามว่าหลายฝ่ายมองว่าการออกมาแสดงความคิดเห็นของกกต.มักเป็นไปในทางลบต่อพรรคเพื่อไทย นายนพดล กล่าวว่า เราจะไปสรุปเช่นนั้นก็อาจจะยังไม่ถึงขั้นนั้น เราคิดว่าไม่ถึงขั้นนั้น เรามั่นใจองค์กรอิสระจะปฏิบัติตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย โดยคำวินิจฉัยจะอยู่บนพยานหลักฐาน และต้องสามารถตอบคำถามแก่สังคมได้ เชื่อว่าองค์กรอิสระจะพิจารณาคำร้องตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ตามหลักนิติธรรม ซึ่งจะไม่ใช่เป็นผลดีแก่พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง แต่จะเป็นการสร้างความมั่นคงให้ระบบการเมืองของประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างประเทศให้เชื่อว่าเราเป็นประเทศที่มีนิติรัฐนิติธรรมแข็งแรง เขาจะได้กล้าเข้ามาลงทุน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี