‘กมธ.การเมือง’พบ‘วันนอร์’ 27 พ.ย. ขอทบทวนเดินหน้า‘แก้รัฐธรรมนูญ’ตั้ง‘สสร.’ ประเมินเร่งเกมได้ ธ.ค.นี้ ได้ฉบับใหม่ก่อนเลือกตั้ง70
25 พฤศจิกายน 2567 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่าในวันที่ 27 พ.ย. เวลา 10.00 น. กมธ.พัฒนาการเมืองจะเข้าพบกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ฐานะประธานรัฐสภาเพื่อหารือเกี่ยวกับการตัดสินใจของประธานรัฐสภาเรื่องการบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่มหมวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ที่พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลในอดีตได้ยื่นร่างแก้ไขเมื่อต้นปี2567 ซึ่งขณะนั้นประธานรัฐสภาตัดสินใจไม่บรรจุเข้าสู่วาระเพราะตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 4/2564 ว่า ต้องทำประชามติก่อนถึงบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวได้ ขณะที่ตนและพรรคเพื่อไทยมองว่าสามารถบรรจุร่างแก้ไขได้โดยไม่ต้องทำประชามติก่อน อีกทั้งในคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวย่อหน้าสุดท้ายไม่ได้ระบุถึงจำนวนประชามติ
นายพริษฐ์ กล่าวต่อว่าในการหารือกับประธานรัฐสภา จะนำประเด็นและรายละเอียดที่ได้หารือกับนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเข้าพูดคุยด้วย ซึ่งตนหวังว่าประธานรัฐสภาจะทบทวนการตัดสินใจ และสามารถเดินหน้ากระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชนได้ ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาฯ เดือน ธ.ค.นี้
“หากประธานรัฐสภาทบทวนและบรรจุเรื่องเข้าสู่วาระพิจารณา ตามไทม์ไลน์แล้วสามารถเดินหน้าได้ในเดือนธ.ค. นี้ เบื้องต้นในการพิจารณาของรัฐสภาในการแก้ไขมาตรา 256 กำหนดให้มี สสร. อาจใช้เวลา 3-6 เดือน เมื่อทำเสร็จแล้วจะเข้าสู่กระบวนการทำประชามติรอบแรก และหากประชามติผ่าน จะเข้าสู่กระบวนการมี สสร. เพื่อทำรัฐธรรมนูญที่อาจใช้เวลา 6 - 12 เดือน ดังนั้นตามกลไกทำประชามติ 2 ครั้ง มีโอกาสได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใช้ก่อนการเลือกตั้งปี2570” นายพริษฐ์ กล่าว
เมื่อถามว่าประเด็นความเห็นต่างของร่างพ.ร.บ.ประชามติจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง เพราะหากความเห็นต่างระหว่าง สองสภา ในร่างพ.ร.บ.ประชามติ จนต้องพักร่างกฎหมายไว้ ไม่เป็นปัญหากับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพราะในระหว่างนั้นสามารถเดินหน้าได้ และไม่เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความล่าช้าหรือกระทบไทม์ไลน์ที่ระบุไว้ ส่วนกรณีที่มีประเด็นตีความว่า ร่างพ.ร.บ.ประชามติเป็นร่างกฎหมายการเงินเพื่อย่อเวลาพักร่างกฎหมายที่เห็นแย้งระหว่างสองสภานั้น ตนมองว่า ร่างพ.ร.บ.ประชามติไม่ใช่กฎหมายเกี่ยวกับการเงิน
เมื่อถามว่าในไทม์ไลน์แก้รัฐธรรมนูญกังวลต่อเสียงสนับสนุนของสว.หรือไม่ นายพริษฐ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องได้เสียง สว. 1 ใน 3 หรือ 67 เสียง ทั้งนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมายอมรับว่า ยุคสว.250 คนนั้นเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยุคนี้มีการวิเคราะห์จุดยืนของสว.ผ่านการแก้ไขพ.ร.บ.ประชามติ แต่เมื่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเข้าสู่กระบวนการของรัฐสภา เชื่อว่าจะเป็นประเด็นที่แสดงให้เห็นว่า สว.มีจุดยืนอย่างไร
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี