‘จตุพร’คาดสถานการณ์ข้างหน้าอยู่ที่‘เพื่อไทย’กล้าอวดเบ่งศักดาหรือไม่ ท้าแน่จริงฝ่าด่านแรกตั้ง‘ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ’ พิสูจน์แรงต้านจากประชาชนเลย ลั่น‘ป.ป.ช.-กกต.’จะไต่สวนหรือปล่อยปละละเลยกรณีชั้น 14 และครอบงำ แนะคนรักชาติอย่าตั้งความหวัง ขออดทนรอเป็นตอนๆ
26 พฤศจิกายน 2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 25 พ.ย.67 ว่า เมื่อทักษิณ ชินวัตร-พรรคเพื่อไทย ประกาศศักดายิ่งใหญ่คับประเทศแล้ว ต้องกล้าแต่งตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติในการประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่เลย เพื่อพิสูจน์แรงต้านด่านแรกจากประชาชน
นายจตุพร ระบุว่า ด่านแรกที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องแสดงความกล้าหลังจากรอดจากศาล รัฐธรรมนูญไม่รับคำร้องแล้ว อยู่ที่ รมว.คลัง จะเสนอชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ที่ผ่านการสรรหา นำเข้า ครม.ให้อนุมัติหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้ารัฐบาลคิดว่ามีไฟเขียวอยู่ข้างตัวเองแล้ว ขอให้เสนอเข้า ครม.เลย
“เรื่องนี้ขอให้ ครม.อนุมัติเป็นกรณีแรก ในการประชุม ครม.สัญจรที่เชียงใหม่เลย รัฐบาลกล้าหรือไม่ ส่วนเจรจาผลประโยชน์กับกัมพูชา เป็นเรื่องอยากได้สมบัติ แต่เสี่ยงที่จะถูกปลุกมวลชนออกมาต้านรัฐบาลเพื่อไทยได้เร็วที่สุด”
นายจตุพร กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไต่สวนกรณีชั้น 14 และที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ รวมถึงการครอบงำที่อยู่ในการตรวจสอบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สิ่งนี้จะพิสูจน์การทำหน้าที่ขององค์กรอิสระว่า จะปล่อยปละละเลยบ้านเมืองกันหรือไม่ และเรื่องสำคัญอีกอย่างคือ บ่อนคาสิโนที่ประกาศขออนุมัติ ครม.ในปลายปีนี้รัฐบาลจะกล้าเสนอหรือไม่ ดังนั้นสถานการณ์การเมืองจึงต้องดูกันเป็นตอนๆ ไป
นายจตุพร เชื่อว่า สถานการณ์ข้างหน้าอยู่ที่ความกล้าของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะดำเนินโครงการที่ประกาศไว้ ทั้งเรื่องบ่อน กรณีขายคอนโด และเช่าที่ดิน 3 แสนไร่แลนด์บริดจ์ 99 ปี ดังนั้น เมื่อทักษิณ ประกาศศักดาใหญ่คับเมืองแล้ว ก็รีบตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติก่อนเลย
“สถานการณ์ข้างหน้าไม่มีใครรู้ว่า ความกล้าของรัฐบาลที่จะประกาศต่อจากนี้ไป เพราะเรื่องรอดกับไม่รอดจากการตรวจสอบขององค์กรอิสระเป็นของคู่กัน หากรอดทุกอย่างได้ก็ต้องยอมกัน แต่ทั้งหมดนั้นขึ้นอยู่กับประชาชนจะทนกับการรอด ไม่ว่าเรื่องดินแดน เรื่องบ่อน เรื่องตั้งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ หรือเรื่องอื่นๆ ซึ่งมีมากเหลือเกิน ซึ่งประชาชนจะรับได้หรือไม่”
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนผลการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี จะชี้ถึงอนาคตการเลือกตั้งสนามใหญ่ของพรรคเพื่อไทย อาจไม่แตกต่างจากการเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่ ปี 2563 พรรคเพื่อไทยชนะ ได้เสียงกว่า 4.2 แสนเสียง ส่วนนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครอิสระกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ได้เสียงมากกว่า 3.5 แสนเสียง จึงแพ้เพียง 5 หมื่นกว่าเสียง ซึ่งสะท้อนถึงความไม่พอใจมีมากขึ้น
นายจตุพร ระบุว่า สิ่งสำคัญเมื่อเลือกตั้งทั่วไป ปี 2566 พรรคเพื่อไทยตกต่ำลงจากฐานเสียง สส.เชียงใหม่ 10 คน ก็เหลือแค่ 2 คน อีก 8 ถูกพรรคก้าวไกล (ปชน.) แย่งไป 7 อย่างไรก็ตาม บทเรียนการเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี แม้พรรคเพื่อไทยชนะ แต่คะแนนเพิ่มไม่มากเมื่อเทียบกับพรรคประชาชนที่แพ้กลับได้เสียงเพิ่มอีกกว่า 8 หมื่นเสียง ดังนั้นเชื่อว่า สส.อุดรของพรรคเพื่อไทย เมื่อถึงเลือกตั้งใหญ่จะถูกตีแตกอีกจังหวัด
นายจตุพร กล่าวถึงผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ว่า การต่อสู้อย่างตรงไปตรงมาของพรรคประชาชนจึงจะชนะ และอย่าคิดรอฮั้วกับการจัดตั้งรัฐบาลในวันข้างหน้า ถ้ามุ่งมั่นกันจริงแล้ว ความนิยมย่อมเติบโตอย่างพรวดพราดได้ ดังนั้น การเลือกตั้ง นายก อบจ.ครั้งถัดไปถ้าคัดเลือกคนคุณภาพมีเสียงของตัวเอง 20-30% แล้วเอาเสียงนิยมพรรคมาบวกจะได้เสียงเกินครึ่ง คงประสบความสำเร็จได้บ้าง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี