‘ทวี’ยัน‘บุญทรง’เป็นหนึ่งในพันกว่ารายชื่อที่ได้‘พักโทษ’ เพราะคุณสมบัติอายุมากกว่า 60 ปี-รับโทษมาแล้ว 7 ปี ส่วนติดกำไล EM หรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการฯ ส่วนการขอพระ ราชทานอภัยโทษเฉพาะรายทำได้ แต่ไม่ใช่อำนาจกรมราชทัณฑ์ในการพิจารณา
จากกรณีมีข่าวว่านายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกจำคุกในคดีร่วมกันทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) เมื่อปี 2558 โดยมีโทษจำคุก 48 ปี ก่อนได้รับการพักการลงโทษ และปล่อยตัวชั่วคราวจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 2 ธ.ค.67 ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า สำหรับกรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ได้รับการพักการลงโทษนั้น ตนได้ทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และตนได้สอบ ถามไปยังนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งการพักการลงโทษ ถือเป็นเรื่องการบริหารของราชทัณฑ์ ซึ่งไม่ได้ต้องรายงานมายังรัฐมนตรี แต่ทราบเบื้องต้นว่านายบุญทรง มีระยะเวลาต้องโทษรวม 40 กว่าปี ได้อภัยโทษ 4 ครั้ง จึงเหลือโทษประมาณ 10 ปี อีกทั้งนายบุญทรง ยังรับโทษจำคุกมาแล้ว 7 ปี จึงเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษ
ทั้งนี้ การพักการลงโทษในทางกฎหมายยังถือเป็นโทษอยู่ แต่ได้รับการพักโทษที่มีเงื่อนไข อีกทั้งในการพักโทษ ไม่ใช่อำนาจของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะในกฎหมายระบุว่าเป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักการลงโทษ ประกอบด้วยบุคคลหลายฝ่าย อาทิ ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ อัยการ บุคคลที่เกี่ยวข้องรวมประมาณ 20 ราย เป็นต้น และโดยปกติจะมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน แต่เพียงครั้งนี้มีรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานแทน ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ของการพักโทษ ตนยังไม่เห็นเอกสาร แต่ทราบว่านายบุญทรง อยู่ในเกณฑ์พักโทษทั่วไป เพราะเป็นผู้สูงอายุ และเหลือโทษน้อย ส่วนถ้าจะมีรายละเอียดนอกเหนือจากนี้อาจต้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มอบหมายกรมราชทัณฑ์ เผยแพร่ข่าวแจกสื่อมวลชนต่อไป
พ.ต.อ.ทวี เผยอีกว่า ส่วนเรื่องการติดกำไล EM นั้น เนื่องด้วยนายบุญทรง อายุน้อยกว่า 70 ปี จึงต้องติดกำไล EM แต่ถ้ามีเหตุการเจ็บป่วย จะได้รับการยกเว้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ที่จะพิจารณา เเต่เรื่องการบริหารงานภายใน ปกติแล้วจะไม่ต้องรายงานมายังรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมรับทราบ ทั้งนี้ นอกจากนายบุญทรง ได้รับการพักโทษ ยังมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่ที่ได้รับการพักการลงโทษนั้น ทราบว่าแต่ละครั้งจะมีประมาณ 1,000 กว่าราย ไม่ใช่เพียงนายบุญทรง เท่านั้นที่ได้รับการพักโทษ และการพักโทษก็ยังลงโทษอยู่ แม้ระหว่างนั้นผู้ที่ถูกพักโทษไปแล้ว อาจกลับมารับโทษเหมือนเดิมได้
ส่วนเรื่องการรายงานตัวเมื่อถูกคุมประพฤติ นายบุญทรง ก็ต้องมีการรายงานตัว แต่รายละเอียดตนไม่ทราบ ขอให้ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ทำข่าวแจกสื่อ มวลชนชี้แจงแทน ทั้งนี้ กรณีว่าระหว่างการพักโทษ บุคคลจะสามารถเขียนทูลเกล้าฯ ขอพระ ราชทานอภัยโทษเฉพาะรายได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะของการเขียน ใครจะเขียนอภัย โทษก็ได้ แต่ว่าอำนาจไม่ได้อยู่ที่กระทรวงยุติธรรม ยกตัวอย่าง กรณีของนายบุญทรง ที่มีโทษเยอะ แต่ก็ได้รับการอภัยโทษมา 4 ครั้ง อีกทั้งการอภัยโทษไม่ใช่กฎหมายราชทัณฑ์
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ส่วนที่ก่อนหน้านี้ปรากฏภาพนายบุญทรง ไปร่วมงานศพนั้น ตนไม่มั่นใจในส่วนนี้เพราะยังไม่ได้เห็น แต่ว่ากรณีของนักโทษเด็ดขาด หากพ่อแม่เสียชีวิต ก็สามารถที่จะลาไปงานศพได้ เพราะในกฎหมายให้ลาได้ อย่างตอนที่ตนอยู่ภาคใต้ มีผู้ต้องขังที่เป็นไทย-พุทธ แล้วพ่อแม่เสียชีวิต ก็ลาไปร่วมงานศพได้ เป็นสิทธิ์เขา ทั้งนี้ กรณีที่นายบุญทรง ได้รับการพักโทษแล้วกลับไปอยู่บ้านใน จ.เชียงใหม่ หรือไม่นั้นตนไม่ทราบจริง ๆ เพราะตนติดภารกิจงานทั้งวัน แต่ผู้พักโทษจะไปอยู่ที่ไหนอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการพักโทษ เช่น สถานที่นั้นต้องมีผู้ปกครอง ผู้ดูแล และที่สำคัญคืออยู่ในการดูแลของกรมคุมประพฤติ
พ.ต.อ.ทวี ระบุด้วยว่า ปกติการคุมประพฤติตอนนี้มีจำนวนกว่า 400,000 รายที่ต้องดูแล ซึ่งเป็นระบบสากลอยู่แล้ว หากผู้นั้นถูกดำเนินคดีในพื้นที่ใดก็ต้องคุมประพฤติในพื้นที่นั้น เช่น บางคนถูกดำเนินคดีใน กทม. ก็ต้องคุมประพฤติที่ กทม. ส่วนถ้าจะออกนอกพื้นที่ก็ต้องแจ้ง หรือกรณีของนายเทพไท เสนพงศ์ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคใต้ แต่ก็ต้องมาพักโทษที่ กทม.เพราะถูกดำเนินคดีที่ กทม.
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี