"ประธานรัฐสภา"เป็นปธ.เปิดการประชุม"รัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก"ว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลกครั้งประวัติศาสตร์ของภูมิภาค ชี้เป็นก้าวแรกพัฒนาภาคีความร่วมมือ-เป็นหุ้นส่วนร่วมจัดการกับโอกาสความท้าทายต่างๆ ยันพร้อมมีบทบาทสร้างสรรค์ในการร่วมยกระดับระบบสาธารณสุขไทย ดึงประชาชนเป็นศูนย์กลางเข้มแข็ง

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ที่ห้องบอลรูม 1 ชั้น 2 โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน กทม. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมรัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพระดับโลกอย่างเป็นทางการ โอกาสนี้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม Mr.Tedrod Adhanom Ghebreyesus ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวสุนทรพจน์ นายมาร์ติน จุนกอง เลขาธิการสหภาพรัฐสภา กล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง พลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง นายบุณส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่สอง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นางสาวสรัสนันท์ อรรณพพร ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นายนิรัตน์ อยู่ภักดี ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา นายทศพร เสรีรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐสภาจากสาธารณรัฐอิสลามอัฟกานิสถาน ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สหพันธรัฐไมโครนีเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และไทย ผู้แทนจากบรูไนดารุสซาลาม ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศภายใต้ระบบสหประชาชาติ ที่เกี่ยวข้องกับด้านสาธารณสุขที่ประจำอยู่ในประเทศไทย 6 องค์กร ประกอบด้วย UNDP WHO FAO IOM UNEP และ UNICEF ในฐานะแขกพิเศษของประเทศไทย ตลอดจน คณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร คณะทูตานุทูต แขกผู้มีเกียรติ อาจารย์ นิสิต นักศึกษา และบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมพิธี

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต้อนรับผู้แทนรัฐสภาประเทศเอเชีย-แปซิฟิก ว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยความมั่นคงด้านสุขภาพครั้งแรกและครั้งประวัติศาสตร์ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยได้กล่าวขอบคุณสหภาพรัฐสภาที่ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งสำคัญนี้ด้วยความแข็งขัน รวมถึงการสนับสนุนที่เข้มแข็งขององค์การอนามัยโลก ความร่วมมือจากทั้งสององค์กรเป็นการกระชับหุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนวาระความมั่นคงด้านสุขภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืนของภูมิภาคนี้ รัฐสภาไทยขอแสดงความชื่นชมสหภาพรัฐสภาที่ได้มีบทบาทนำในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกรัฐสภาในกระบวนการสาธารณสุขระดับโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระบวนการเจรจาความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยโรคระบาด และการปรับปรุงแก้ไขกฎอนามัยระหว่างประเทศ พร้อมทั้ง เสริมสมรรถนะให้แก่สมาชิกรัฐสภาในการร่วมเสริมสร้างความพร้อมทั้งในด้านกฎหมายและงบประมาณ ไปจนถึงศักยภาพในการตอบสนองต่อความเสี่ยงจากโรคภัยต่างๆ เพื่อปกป้องประชาชนจากภัยคุกคามของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ นับว่าประเทศไทยได้รับเกียรติอย่างสูงในการเป็นส่วนสำคัญร่วมกับสหภาพรัฐสภาในการขับเคลื่อนวาระดังกล่าว การแพร่ระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ฝากบทเรียนเตือนใจเราว่าไม่มีประเทศใดสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดระหว่างประเทศได้โดยลำพัง และความร่วมมือพหุภาคีจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะประกันว่าทุกประเทศจะมีความพร้อมเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่อาจอุบัติขึ้นอีกในอนาคต ในห้วงเวลาของการระบาดใหญ่

"สมาชิกรัฐสภาที่เท่าทันต่อข้อมูลจะสามารถมีบทบาทในเชิงรุกผ่านการใช้อำนาจนิตินิติบัญญัติในการบูรณาการเชื่อมโยงพันธกรณีระหว่างประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการในระดับท้องที่ การผนึกกำลังระหว่างรัฐสภาประเทศสมาชิกกับเครือข่ายผู้มีส่วนได้ส่วนเสียซึ่งเป็นหัวใจในการขับเคลื่อนวาระด้านสุขภาพอย่างเป็นระบบให้มีความก้าวหน้าอย่างมีนัยสำคัญในทุกระดับ" ประธานรัฐสภา กล่าว

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมุ่งหมายจะใช้โอกาสที่สมาชิกรัฐสภาจากทั่วทั้งภูมิภาคได้มาร่วมประชุมกันในครั้งนี้ เป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งในการพัฒนาภาคีความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนของพวกเราผ่านการแลกเปลี่ยนทัศนะ ประสบการณ์ และแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อจัดการกับโอกาสและความท้าทายต่างๆ รวมถึงหาคำตอบสำหรับโจทย์ของความมั่นคงด้านสุขภาพที่ภูมิภาคของเราต้องเผชิญ ด้วยภูมิหลัง ความเชี่ยวชาญและมุมมองที่หลากหลายของท่านจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเอื้ออำนวยให้เราสามารถริเริ่มมาตรการต่างๆ ของภาครัฐสภาในการสร้างความมั่นคงของระบบสุขภาพในระดับภูมิภาคร่วมกัน ตลอดจนยกระดับระบบสาธารณสุขในประเทศของตนอย่างต่อเนื่องตนมีความมั่นใจว่าประสบการณ์และเรื่องราวแห่งความสำเร็จของไทยในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะเป็นหนึ่งในหลายบทเรียนที่ควรค่าแก่การแบ่งปัน ยิ่งไปกว่านั้นหากทำสำเร็จ อาจวางรากฐานสำคัญเพื่อต่อยอดไปสู่การออกแบบสถาปัตยกรรมด้านสุขภาพในระดับภูมิภาค ซึ่งจะประกันสิทธิขั้นพื้นฐานในการเข้าถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทุกคนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม

ประธานรัฐสภา กล่าวอีกว่า รัฐสภาไทยพร้อมที่จะมีบทบาทสร้างสรรค์ในการร่วมยกระดับระบบสาธารณสุขของไทยที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมถึงเสริมสร้างขีดความสามารถในเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทยที่รับใช้คนไทยมากว่าสองทศวรรษ ให้มีความมั่นคงและยั่งยืน เพื่อเป็นการยืนยันถึงความพร้อมของไทยในการมุ่งสู่ การเป็นศูนย์กลางด้านสุขภาพและการแพทย์ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พร้อมกันนั้น รัฐสภาไทยมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับรัฐสภาของมิตรประเทศในภูมิภาคอย่างใกล้ชิดเพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านสุขภาพของภูมิภาค ตลอดจนขยายความเป็นหุ้นส่วนให้ครอบคลุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชนทุกหมู่เหล่า

"หวังเป็นอย่างยิ่งว่างานนิทรรศการที่จัดแสดงในห้องข้างเคียง รวมถึงกำหนดการศึกษาดูงานที่รัฐสภาไทยจัดสำหรับคณะผู้แทนจากรัฐสภาประเทศสมาชิก จะมีสาระประโยชน์และสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ทุกท่านได้ไม่น้อย ตลอดจนงานเลี้ยงรับรองที่รัฐสภาไทยจัดเตรียมไว้อย่างประณีตจะสร้างความทรงจำที่นำที่น่าประทับใจให้แก่ทุกท่าน ขอให้ทุกท่านได้รับประสบการณ์อันทรงคุณค่าตลอดการประชุมและการศึกษาดูงานในช่วงสองวันนี้ พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้ทุกท่าน ได้ร่วมสานเสวนากันอย่างเข้มข้น เพื่อให้ทุกเสียงและทุกความต้องการของทุกประเทศเป็นที่รับรู้ โดยตนจะเฝ้าติดตามผลลัพธ์ของการประชุมที่คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนโดยไม่ละทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง" นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว

- 006