พักโทษ-ติดกำไลEMคุมประพฤติ3ปี5เดือน
ปล่อยตัว‘บญทรง’
คดีฉาวทุจริตจำนำข้าว
เผยติดคุกมาแล้ว7ปีเต็ม
เข้าหลักเกณฑ์ผู้สูงอายุ
ขอเดินทางไปเชียงใหม
“ทวี” ยันปล่อยตัว “บุญทรง” พ้นเรือนจำแล้ว คดีทุจริตรับจำนำข้าว ได้รับการ “พักโทษ-ติดกำไล EM”คุมประพฤติ เป็น 1 ในพันกว่ารายชื่อ ที่มีคุณสมบัติได้รับการพิจารณาพักโทษ ชี้ได้รับอภัยโทษต่อเนื่อง รับโทษมาแล้ว 7 ปี ด้านอดีตทนายความบุญทรง เผยเจ้าตัว ขอกลับไปคุมประพฤติที่บ้านพักใน จ.เชียงใหม่
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ผู้ต้องขังในคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งต้องโทษจำคุก รวม 48 ปี แต่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษในโอกาสต่างๆ หลายครั้ง กระทั่งเข้าเกณฑ์ได้รับการพิจารณาพักการลงโทษ ว่าได้ทราบข่าวแล้ว โดยสอบถามไปยังนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งการพักการลงโทษถือเป็นเรื่องการบริหารของราชทัณฑ์ ไม่ต้องรายงานมายัง รมว.ยุติธรรม แต่ทราบเบื้องต้นว่านายบุญทรง มีระยะเวลาต้องโทษรวม 40 กว่าปี ได้อภัยโทษ 4 ครั้ง จึงเหลือโทษประมาณ 10 ปี อีกทั้งนายบุญทรง ยังรับโทษจำคุกมาแล้ว 7 ปี จึงเข้าเกณฑ์การพักการลงโทษ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การพักการลงโทษในทางกฎหมายยังถือเป็นโทษอยู่ แต่ได้รับการพักโทษที่มีเงื่อนไข อีกทั้งในการพักโทษ ไม่ใช่อำนาจของใครคนใดคนหนึ่ง เพราะกฎหมายระบุว่าเป็นอำนาจของคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักการลงโทษ ประกอบด้วย บุคคลหลายฝ่าย อาทิ ผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ตำรวจ แพทย์ อัยการ บุคคลที่เกี่ยวข้องรวมประมาณ 20 ราย เป็นต้น และโดยปกติจะมีปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธาน แต่เพียงครั้งนี้มีรองปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานแทน ส่วนรายละเอียดต่างๆ ของการพักโทษ ตนยังไม่เห็นเอกสาร แต่ทราบว่านายบุญทรง อยู่ในเกณฑ์พักโทษทั่วไป เพราะเป็นผู้สูงอายุ และเหลือโทษน้อย ส่วนถ้าจะมีรายละเอียดนอกเหนือจากนี้อาจจะต้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มอบหมายกรมราชทัณฑ์ เผยแพร่ข่าวแจกสื่อมวลชนต่อไป
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการติดกำไล EM นั้น เนื่องด้วยนายบุญทรง อายุน้อยกว่า 70 ปี จึงต้องติดกำไล EM แต่ถ้ามีเหตุเจ็บป่วยจะได้รับการยกเว้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการฯ ที่จะพิจารณา แต่เรื่องการบริหารงานภายใน ปกติแล้วจะไม่ต้องรายงานมายัง รมว.ยุติธรรม รับทราบ ทั้งนี้ นอกจากนายบุญทรง ยังมีบุคคลอื่นที่ได้รับการพิจารณาพักการลงโทษด้วย โดยแต่ละครั้งจะมีประมาณ 1,000 กว่าราย ไม่ใช่เพียงนายบุญทรง เท่านั้น และการพักโทษก็ยังลงโทษอยู่ แม้ระหว่างนั้นผู้ที่ถูกพักโทษไปแล้ว อาจจะกลับมารับโทษเหมือนเดิมได้
รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงเรื่องการรายงานตัวของนายบุญทรง เมื่อถูกคุมประพฤติ ว่าต้องมีการรายงานตัว แต่รายละเอียดตนไม่ทราบ ขอให้ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงแทน ทั้งนี้ กรณีว่าระหว่างการพักโทษ บุคคลจะสามารถเขียนทูลเกล้าฯ ขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะ ซึ่ง ใครจะเขียนขอพระราชทานอภัยโทษก็ได้ แต่อำนาจไม่ได้อยู่ที่กระทรวงยุติธรรม ยกตัวอย่างกรณีของนายบุญทรง ที่มีโทษเยอะ แต่ก็ได้รับการอภัยโทษมา 4 ครั้ง อีกทั้งการอภัยโทษไม่ใช่กฎหมายราชทัณฑ์
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ ปรากฏภาพนายบุญทรง ไปร่วมงานศพนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ไม่มั่นใจในส่วนนี้เพราะยังไม่เห็น แต่กรณีนักโทษเด็ดขาด หากพ่อแม่เสียชีวิต ก็สามารถลาไปงานศพได้ เพราะในกฎหมายให้ลาได้ อย่างตอนที่ตนอยู่ภาคใต้ มีผู้ต้องขังที่เป็นชาวไทย-พุทธ แล้วพ่อแม่เสียชีวิต ก็ลาไปร่วมงานศพได้ เป็นสิทธิ์เขา ทั้งนี้ กรณีที่นายบุญทรง ได้รับการพักโทษแล้วกลับไปอยู่บ้านใน จ.เชียงใหม่ หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบจริงๆ เพราะติดภารกิจงานทั้งวัน แต่ผู้พักโทษจะไปอยู่ที่ไหน อย่างไร ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการพักโทษ เช่น สถานที่นั้นต้องมีผู้ปกครอง ผู้ดูแล และที่สำคัญคืออยู่ในการดูแลของกรมคุมประพฤติ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ปกติการคุมประพฤติ ขณะนี้มีกว่า 400,000 ราย ที่ต้องดูแล ซึ่งเป็นระบบสากลอยู่แล้ว ทั้งนี้ หากผู้นั้นถูกดำเนินคดีในพื้นที่ใดก็ต้องคุมประพฤติในพื้นที่นั้น เช่น บางคนถูกดำเนินคดีใน กทม.ก็ต้องคุมประพฤติที่ กทม.ส่วนถ้าจะออกนอกพื้นที่ก็ต้องแจ้ง หรือกรณีของนายเทพไท เสนพงศ์ ที่มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ แต่ก็ต้องมาพักโทษที่ กทม.เพราะถูกดำเนินคดีที่ กทม.
ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงกรณีการพิจารณาพักการลงโทษนายบุญทรง ว่าเรื่องการพักการลงโทษผู้ต้องขัง เป็นการดูแลของกรมราชทัณฑ์ และการพักการลงโทษดังกล่าวเป็นเรื่องของวาระการประชุมของคณะกรรมการพักการลงโทษ ซึ่งมีการเสนอรายชื่อหลายบุคคล เข้ามาพิจารณาตามเงื่อนไข ระเบียบการพักการลงโทษ และคณะกรรมการที่มีหน้าที่พิจารณาโดยตรง จะเป็นในส่วนของกรมราชทัณฑ์
พ.ต.ต.สุริยา กล่าวต่อว่า เรื่องการติดหรือไม่ติดกำไล EM กับผู้ได้รับการพักโทษนั้น เป็นเรื่องที่มีการเสนอขอเข้ามา แต่คณะกรรมการฯ ก็จะใช้ดุลพินิจว่าจะอนุญาตให้บุคคลนั้นติดกำไล EM หรือไม่ เพราะเหตุใด นอกจากนี้หากว่ากันตามหลักการ ผู้ต้องขังป่วยแล้วได้รับการพักการโทษ มีเหตุจำเป็นต้องติดกำไล EM หรือไม่ ตนนำเรียนว่าคงไม่เสมอไปทุกราย เพราะกรรมการฯ จะต้องดูรายละเอียดให้ครบถ้วน รอบด้าน ก่อนจะมีความเห็นอย่างใดอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ ยังไม่ได้รับรายงานว่าบุคคลดังกล่าวได้รับการพักการลงโทษด้วยเหตุใด อย่างไร ทราบเพียงว่ามีการประชุมไปแล้ว แต่ถ้าข้อมูลรายละเอียดต้องประสานไปยังกรมราชทัณฑ์
ขณะที่นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงถึงกรณีการปล่อยตัวนายบุญทรง ว่าได้ถูกปล่อยตัวพักโทษออกจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่ยังอยู่ในความดูแลของกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่านายบุญทรง เข้าข่ายได้รับการพักการลงโทษจริง เนื่องจากต้องโทษจำคุกมาแล้ว 2 ใน 3 ตามปกติเมื่อนักโทษหรือผู้ต้องขังรายใดเข้าข่ายการพักโทษ หรือการปล่อยตัวชั่วคราว ก็จะต้องเสนอรายชื่อเข้าสู่ผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ในการพิจารณาพักโทษ ถือเป็นระเบียบตามปกติของกรมราชทัณฑ์ อยู่แล้ว
นายสหการณ์ กล่าวอีกว่า กรณีการถูกพักโทษไม่ได้หมายความว่าสิ้นสุดระยะเวลาจำคุก แต่เป็นการพักโทษชั่วคราว ส่วนการปล่อยตัวก็คือต้องดูว่า ผู้ต้องขังเข้ากฎระเบียบของราชทัณฑ์ข้อไหน เช่น ต้องโทษมาแล้ว 2 ใน 3 หรือเป็นผู้สูงอายุตามที่กำหนด
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีการถูกพักโทษ จะต้องมีการใส่กำไล EM ก่อนออกจากเรือนจำหรือไม่ นายสหการณ์ กล่าวว่า การพิจารณาว่าจะต้องใส่กำไล EM นั้น มีข้อพิจารณา เช่น เจ็บป่วย มีเหตุจำเป็นด้านสุขภาพหรืออื่นๆ ผู้ต้องขังไม่หลบหนีระหว่างการพักโทษปล่อยตัว สำหรับการปล่อยตัวผู้ต้องขัง ถ้าได้รับการพิจารณาการพักโทษปล่อยตัวแล้ว ก็จะดำเนินการปล่อยตัวผู้ต้องขังให้เร็วที่สุด
วันเดียวกัน นายนรินทร์ สมนึก อดีตทนายความของนายบุญทรง เปิดเผยว่า ได้พูดคุยกับญาติของนายบุญทรง แล้ว ทราบว่าขณะนี้นายบุญทรง กำลังพักผ่อนอยู่ในที่พัก หลังจากติดกำไล EM เสร็จแล้ว อยู่ระหว่างเดินทางไปยัง จ.เชียงใหม่
สำหรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อายุ 64 ปี เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ศาลพิพากษา ปี 2560 กำหนดโทษ 48 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 2564 ในรอบแรก เหลือวันต้องโทษจำคุก 16 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 2564 ในรอบสอง เหลือวันต้องโทษ 10 ปี จะพ้นโทษในวันที่ 21 เมษายน 2571 จากคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน ผู้ต้องขังในคดีนี้ที่เป็นนักการเมือง ยังมีนายภูมิ สาระผล อายุ 65 ปี เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ศาลพิพากษา ปี 2560 กำหนดโทษ 36 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 2564 ในรอบแรก เหลือวันต้องโทษจำคุก 12 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 2564 ในรอบสอง เหลือวันต้องโทษ 8 ปี จะพ้นโทษ 25 สิงหาคม 2568
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี