‘นฤมล’แจง‘ก.เกษตรฯ’ไม่มีอำนาจสอบปมรุกป่า‘ส.ป.ก.’ ชี้แค่ดูเรื่องเอกสารสิทธิ์-ชื่อผู้ครอบครองเท่านั้น เผยให้‘เลขาฯ ส.ป.ก.’ตรวจสอบข้าราชการเอี่ยวทุจริตหรือไม่ พบผิดลงโทษถึงที่สุด
3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ (กษ.) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี ที่บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก.โดยพบเส้นเงิน 10 ล้านบาท ไปถึงคนใกล้ชิดคนการเมืองระดับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องตรวจสอบทั้งหมดส่วนใหญ่จะเป็นคณะกรรมการที่มาจากหลายหน่วยงาน ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เกี่ยวข้องเฉพาะเรื่องเอกสารสิทธิ์ ซึ่งต้องไปดูว่าผู้ที่เข้ามีชื่อครอบครองถูกต้องหรือไม่ ถ้าไม่ถูกต้องก็ต้องทวนคืนมาและจัดสรรให้กับเกษตรกร แต่ถ้าเป็นส่วนอื่นๆก็เป็นหน่วยงานอื่นดำเนินการ
เมื่อถามว่ามีการตั้งคำถามว่ารอบนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะสามารถทวงคืนที่ดิน ส.ป.ก.ได้จริงหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่ใช่เฉพาะแปลงนี้ แต่ทุกๆ แปลงทั่วประเทศไทย เราจะทำตามนโยบายที่ประกาศไว้ และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่อยากจะแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้เกษตรกร หลายๆ ครั้งที่เราเห็นเป็นข่าวว่า ที่ดินที่เราจัดสรรให้กับเกษตรกร ปรากฏว่ามีนายทุนเอาไปใช้ทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร เราก็จะทวงคืน เพื่อนำมาจัดสรรให้กับเกษตรกร
เมื่อถามว่า แต่ไร่ภูนับดาวมีอักษรย่อ ช. เข้าไปเกี่ยว นางนฤมล กล่าวว่า เห็นในข่าวแต่เขาไม่ได้รายงานเข้ามาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะส.ป.ก. และกระทรวงเกษตรสหกรณ์ไม่ได้เป็นคนสอบ เราดูแค่เอกสารสิทธิ์และชื่อผู้ที่ครอบครองเรามีอำนาจแค่นั้น
เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะมีข้าราชการเข้าไปเอี่ยวด้วยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ถ้าตามที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์ ก็มีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องในการทุจริตด้วย ซึ่งถ้ายังรับราชการอยู่ก็จะดำเนินการสอบอย่างแน่นอน และจะลงโทษให้ถึงที่สุด แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 57-58 ก็ต้องไล่ดูว่าข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ที่ไปออกเอกสารสิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง ชื่อคนที่เข้าไปครอบครองไม่ถูกต้องยังรับราชการอยู่หรือไม่ ซึ่งได้สั่งให้เลขาธิการ ส.ป.ก. ไปดำเนินการแล้ว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรว่าถูกโยงเป็นการแก้แค้นทางการเมือง นางนฤมล กล่าวว่า ตนเข้ามารับตำแหน่งช่วงเดือน ก.ย. เรื่องนี้มีการจับกันตั้งแต่เดือน พ.ค. และเหตุจริงๆเกิดจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ออกมาเปิดประเด็นว่ามี ส.ป.ก. หลายแปลงไม่ควรจะออกเป็น ส.ป.ก. ได้ เพราะว่าเป็นที่ของกระทรวง ทส. เป็นของพื้นที่อุทยาน เป็นของพื้นที่กรมป่าไม้ จึงเป็นเหตุให้ ร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า อดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งให้มีการตรวจสอบทั่วประเทศไทย ซึ่งตอนนั้น ร.อ.ธรรมมนัส ให้ทั้ง 2 กระทรวงมาสรุปว่าพื้นที่ไหนเป็นของใคร จนกระทั่งให้กรมแผนที่ทหารมาคุยกันเรื่องวันแมป เพื่อที่จะเคลียร์ให้จบ ไม่ใช่เรื่องของการเมืองอะไรเลย แต่เป็นเรื่องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เมื่อถามว่า แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าอำนาจมาอยู่ในมือของเรา ในฐานะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นางนฤมล กล่าวว่า อำนาจของเราดูแล ส.ป.ก. คือที่ดินที่ให้เอกสารสิทธิ์ให้กับเกษตรกร ถ้าใครมาใช้ที่ดินนี้โดยไม่ถูกต้องก็จะดำเนินการให้ถึงที่สุด แต่อำนาจที่เหนือไปกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเงิน หรือการดำเนินการอื่นๆก็เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งเขาตั้งคณะกรรมการนี้มาตั้งแต่รัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และเขาก็ดำเนินการต่อเนื่องมา
เมื่อถามว่า จะสาวถึงตัวนายทุนใหญ่หรือผู้มีอิทธิพลหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ก็คงต้องถามฝ่ายตำรวจ เจ้าหน้าที่ที่เขาตรวจสอบ เท่าที่ตนได้รับรายงานมามีเพียงว่า ที่ดินแปลงนี้มีการทุจริตมาตั้งแต่ปีไหน ตอนนี้สวมชื่อใครเข้าไปเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งไม่ใช่เกษตรกร ตอนนี้เราก็กำลังเร่งจัดการ แต่ก็ต้องขอความร่วมมือจากฝ่ายความมั่นคงเข้าไป เพราะ ส.ป.ก. เราก็ไม่มีอำนาจรื้อถอน
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้ให้คำปรึกษาหรือชี้แนะอะไรหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่มี แต่ก็ยึดตามนโยบายของร.อ.ธรรมนัส เหมือนเดิมว่า เราจะเอาที่ดินทำกินกลับคืนให้กับพี่น้องเกษตรกร ใครก็ตามที่ใช้ที่ดินของพี่น้องเกษตรกร เราจะเอากลับคืนมาให้หมด ขอให้พี่น้องเกษตรกรมั่นใจได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี