แสดงบัญชีทรัพย์สินตามก.ม.

‘อิ๊งค์’ยื่นปปช.แล้ว

อุบไต๋รายละเอียดหุ้น16บริษัท

ฝ่ายค้านขอถกลับMOU

โยนเป็นเรื่องของสภาฯ

“นายกฯอิ๊งค์”ยื่นป.ป.ช.แสดงบัญชีทรัพย์สินแล้ว บอกรอดูรายละเอียดหุ้น16 บริษัท พร้อมโยนเป็นเรื่องสภา ปมฝ่ายค้าน ขอถกลับ MOU 44แจงเหตุยังตั้งกก.JTCไม่สำเร็จ“ภูมิธรรม”ชี้ฝ่ายค้านขอถกลับ MOU44เป็นเรื่องสภาฯ ย้อน ยังไม่ตั้งกก.JTCจะคุยได้หรือ

เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 3 ธันวาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ว่า “ยื่นวันนี้คะ”

เมื่อถามในส่วนของรายละเอียดหุ้น 16 บริษัท จัดการอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอให้รอดูรายละเอียดวันนี้เข้าส่งไปแล้วอีกสักพักสื่อคงได้ถามกันเยอะ

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านจะขอเปิดสภาเพื่อนำเรื่องเอ็มโอยู 44 เข้าไปพิจารณาลับในสภาฯ ว่า ก็ต้องคุยกัน เรื่องนี้ต้องคุยกันเพราะเรื่องนี้ยังอยู่ในขั้นตอนที่ยังไม่เรียบร้อย ยังมีรายละเอียดอื่นๆอีก เราเปิดรับฟังทุกความคิดเห็นอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าใจของนายกฯอยากให้เปิดหรือไม่เปิด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ให้เป็นเรื่องของสภาฯ แต่ในพรรคเองเราเปิดรับฟังทุกความเห็นเพื่อเอา

เมื่อถามว่าตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค หรือเจทีซี (JTC) จะแล้วเสร็จเมื่อใด น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กำลังทำเรื่องกรรมการอยู่ เราเร่งดำเนินการอยู่จริงๆ แต่อันนี้ต้องขอ เพราะระบุวันยังไม่ได้ แต่พยายามจะเร่งให้เร็วที่สุดจะได้พูดคุยกันได้เพื่อให้เกิดความราบรื่น

เมื่อถามว่าการตั้งคณะกรรมการที่ยังไม่เสร็จเพราะติดตรงไหน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ติดที่ฝั่งเราในเรื่องเนื้อความในส่วนที่เกี่ยวกับกฎหมาย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ขอเปิดประชุมสภาพิจารณาเรื่องเอ็มโอยู 44 ตามมาตรา 155 ของรัฐธรรมนูญว่า แล้วแต่ผู้นำฝ่ายค้านที่เขาจะยื่นอะไร ว่ากันไปตามกระบวนการสภาฯ เป็นเรื่องของสภาฯ รัฐบาลไม่เกี่ยวอะไร

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่อง MOU เป็นเรื่องที่พูดมาเยอะมาก และเรายังไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง ที่พูดมาทั้งหมดยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการด้านเทคนิค (JTC) ซึ่งเวลานี้ได้แต่ฟังตัวแทนฝ่ายกฎหมายที่ไปศึกษา อย่าเพิ่งคิดอะไรไปก่อน รอให้เกิดแล้วค่อยมาตั้ง ตอนนี้ไม่มีเรื่องใดน่าสนใจ เวลานี้ยังไม่รู้ใครเป็นประธานและกรรมการ จะไปประชุมเรื่อง MOU ได้อย่างไรส่วนการตั้งกรรมการ จะจบเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าไม่ทราบเพราะไม่ใช่คนตั้ง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีรายงานข่าวว่าจะมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับว้าแดงจะส่งผลกระทบหรือไม่ว่า เป็นเรื่องภายในของเมียนมา เราไม่เกี่ยว แต่ในเรื่องการป้องกันชายแดนเราก็เตรียมพร้อมอยู่แล้ว แม้ไม่มีเรื่องนี้แต่กองทัพภาคที่ 3 ก็ดูแลอย่างเต็มที่

“ขออย่าไปติดตามข่าวให้มากเพราะเราก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ขออย่ากังวลใจ ขอให้เชื่อมั่นในกองทัพไทยและทหารไทย มีกำลังและยุทโธปกรณ์พร้อมปกป้องชายแดนไทย ส่วนจุดบ้านนอแล อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ที่มีกองกำลังของว้าแดง เมียนมา และไทย ถือว่าน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ในช่วง ครม.สัญจรเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบว่าไม่มีอะไรน่าห่วง ขณะที่กำลังพลก็มีการรายงานสถานการณ์ปกติ และย้ำว่าอย่าฟังข่าวมาก ไม่เช่นนั้นก็จะมีเรื่องให้คิดทุกวัน”นายภูมืธรรม ย้ำ

ด้านนายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่นายแพทย์เชิดชัย ตันติศิรินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อระบุว่า “ พรรคเพื่อไทยจ่อหารือภูมิใจไทย ปมเกณฑ์การทำประชามิติ หากพรรคภูมิใจไทยงอแงมากเจอยุบสภาสั่งสอน“ นั้น ตนงในฐานะเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีหน้าที่ทำงานให้รัฐบาลและตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาคือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แม้จะมาจากสัดส่วนพรรคภูมิใจไทยก็ตาม ซึ่งเมื่อเช้าวันที่ 2ธันวาคม2567 นายกรัฐมนตรีได้เปิดโอกาสให้ทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าพบพร้อมรับนโยบายการทำงาน ของรัฐบาล และของนายกรัฐมนตรี ทำให้ตนเองเห็นถึงความตั้งใจ และความมุ่งมั่นของนายกรัฐมนตรี ในการทำงานเพื่อคนไทยทุกคน ทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นคนที่เลือกพรรคเพื่อไทยหรือไม่ก็ตาม ตนเองรู้สึกชื่นชมท่านและได้ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยอยู่พรรคไทยรักไทย พรคเพื่อไทยมาก่อน นายกรัฐมนตรีเป็นคนรุ่นใหม่ที่น่าชื่นชม รักชาติ รักสถาบัน อยากเห็นคนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดี สังคมมีความสงบสุขอยากเห็นบ้านเมืองเจริญก้าวหน้า

“ผมจำเป็นต้องออกมาพูดถึงท่านนายแพทย์เชิดชัย ฯ เพราะผมเคยเป็นคนเสื้อแดง และเคยต่อสู้ในแนวทางเดียวกันมากับท่าน และอยากแนะนำนายแพทย์เชิดชัย ฯ ว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสม เราจึงต้องอยู่ร่วมกันแบบให้เกียรติซึ่งกันและกัน ต้องรู้จักแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง ผมจำเป็นต้องออกมาปกป้องพรรคภูมิใจไทย และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้ยกมือสนับสนุน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้ได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหาบ้านเมือง และผมจำเป็นต้องใช้สิทธิในฐานะสมาชิกพรรคภูมิใจไทยปกป้องนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ที่ท่านนายกรัฐมนตรีก็ให้ความเคารพ ซึ่งนายอนุทิน เป็นผู้มีประสบการณ์ทางการเมือง ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายครั้ง มีวุฒิภาวะ การที่นายแพทย์เชิดชัย ออกมาบอกว่า ” จะเจอยุบสภาสั่งสอนนั้น “ ผมรู้สึกเสียใจต่อคำพูด แสดงให้เห็นขาดวุฒิภาวะทางความคิด” นายคารม ระบุ

นายคารม กล่าวต่อว่า อำนาจยุบสภา ตามรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ของนายแพทย์เชิดชัย อย่าสร้างปัญหา สร้างความร้าวฉานให้รัฐบาล ซึ่งจากการที่ตนเองเข้าร่วมการประชุมพรรคภูมิใจไทยทุกครั้ง พรรคภูมิใจไทย มีจุดยืนในการแก้รัฐธรรมนูญชัดเจน โดยจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับโดยผ่าน สสร. เพื่อให้สังคมยอมรับในกติกาที่อยู่ร่วมกันในสังคมได้ และตนเองเชื่อว่าในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล ซึ่งเป็นผูนำพรรคภูมิใจไทยภูมิใจไทยได้เห็นถึงความสำคัญในเรื่องนี้ และเชื่อว่าในระดับแกนนำรัฐบาลมีการพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด และให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรื่องสำคัญแบบนี้ ถ้าเปรียบเป็นทีมฟุตบอลแล้ว เรื่องใหญ่แบบนี้เป็นเรื่องระดับเจ้าของทีมบอลที่จะพูดคุย คุณหมอเชิดชัย เป็นเพียงนักบอล มีหน้าที่เล่นบอล อย่าหลงคิดไปไกลว่าตัวเองเป็นเจ้าของทีมบอลแล้วเที่ยวมาบอกว่าให้ใครเลิกเล่นบอลลีกไหน เกมไหน ขอฝากให้ทบทวนหน้าที่ตัวเอง กลับไปประมวลความคิดให้ดี

“พรรคภูมิใจไทยเห็นความสำคัญในการทำรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย โดยให้ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นการแก้หมวด 1 และหมวด 2 และแม้การแก้รัฐธรรมนูญสามารถทำควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ก็ตาม แต่ขณะนี้ประชาชนกำลังประสบปัญหาหลายอย่างเช่น ปัญหาน้ำท่วมพี่น้องชาวภาคใต้ และปัญหาปากท้อง นักการเมืองที่เข้าใจสถานการณ์ จึงไม่ควรเอานำเอาเรื่องอื่น ๆ มาบดบังการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ”นายคารม ยืนยัน