ที่ประชุมยูเนสโก ที่ปารากวัย มีมติประกาศรับรอง“ต้มยำกุ้ง” ขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” นายกฯ เป็นปลื้ม ยินดีที่อาหารไทยได้รับการรับรองเป็นเมนูอร่อยระดับโลก สะท้อนเอกลักษณ์วัฒนธรรมด้านอาหารของไทย
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเพื่อการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ครั้งที่ 19 (The nineteenth session of the Intergovernmental Committee for the Safeguarding of the Intangible Cultural Heritage: IGC-ICH) ขององค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เวลา 16.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ที่นครอซุนซิออน (Asuncion) สาธารณรัฐปารากวัย หรือตรงกับ วันที่ 4 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 02.10 น. ตามเวลาในประเทศไทย มีมติรับรองให้ “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) ขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity : RL) ประจำปี 2567 ต่อจากรายการ โขน นวดไทย โนราและ สงกรานต์ ในปี 2566 ที่ผ่านมา
รมว.วัฒนธรรมเผยว่า การเสนอต้มยำกุ้ง ขึ้นทะเบียนมรดกฯ กับยูเนสโกครั้งนี้ คณะรัฐมนตรี มีมติเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 เห็นชอบให้ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เสนอขอขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” (Tomyum Kung) เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003ของยูเนสโก หลังจากที่ ต้มยำกุ้ง ได้รับการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติเมื่อปี พ.ศ. 2554 ในสาขาความรู้และการปฏิบัติเกี่ยวกับธรรมชาติและจักรวาล ประเภทอาหารและโภชนาการ ด้วยต้มยำกุ้ง เป็นมรดกภูมิปัญญา สะท้อนวิถีดำเนินชีวิตคนไทย พึ่งพาตนเองด้วยวิธีธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว เป็น “กับข้าว” ที่คนในชุมชนเกษตรกรรมริมแม่น้ำภาคกลาง นำวัตถุดิบที่มีอยู่ในชุมชนท้องถิ่นมาทำเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
นอกจากรายการต้มยำกุ้งแล้ว วันเดียวกันนี้ เวลา 09.30 - 12.30 น. (เวลาท้องถิ่น) สาธารณรัฐปารากวัย ซึ่งตรงกับเวลา 19.30 – 22.30 น. ตามเวลาประเทศไทย เตรียมลุ้น“เคบายา” รายการมรดกวัฒนธรรมที่เสนอขอขึ้นร่วม 5 ประเทศคือ มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย จะได้รับการรับรองให้ขึ้นทะเบียนในปีเดียวกันด้วย
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกฯเผยว่า หลังที่ประชุมยูเนสโกประกาศขึ้นทะเบียน “ต้มยำกุ้ง” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความยินดีผ่านระบบวีดิทัศน์ว่า ยินดีอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติในโอกาสพิเศษนี้ ในนามรัฐบาลไทยและคนไทยทั้งประเทศ ขอบคุณสาธารณรัฐปารากวัย เจ้าภาพจัดประชุม รวมถึงคณะกรรมการฯที่ขึ้นทะเบียนให้“ต้มยำกุ้ง”เป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี