“ฝ่ายค้าน” แย้มได้ความชัดเจนยื่นซักฟอกรัฐบาลกลางเดือนธันวาคมนี้ ยันอภิปรายรบ.ต้นปี’68 แน่นอนพุ่งเป้า“เขากระโดง” ด้าน “พท.ชงแก้กฎหมายกลาโหม ตัดท่ออำนาจผู้บัญชาการเหล่าทัพ” ตั้งคนตามเส้นสาย ขีดกรอบขวางทหาร “ยึดอำนาจ-ก่อกบฏ” ปรับแก้ “สภากลาโหม” ให้อำนาจครม.ประทับตราตั้งนายพล
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการยื่นอภิปรายรัฐบาล ว่า เราเห็นแล้วว่ารัฐบาลเริ่มดำเนินงานมาระยะหนึ่งนั้น มีข้อมูลอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องมีการมาพูดคุยและสอบถามรัฐบาล เช่น โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ สถานการณ์ภัยพิบัติ เขากระโดง และอีกมายมาย อย่างที่ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เคยบอกว่าจะให้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นัดหมายหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านทั้งหมด มาพูดคุยกันอย่างเป็นทางการว่าเราจะใช้ช่องทางใดยื่นอภิปราย โดยช่วงกลางเดือนธ.ค.นี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะมีคำตอบที่ชัดเจน
“ยืนยันว่าไม่ว่าจะอภิปรายทั่วไป อภิปรายไม่ไว้วางใจ แม้กระทั่งการประชุมลับนั้น จะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2568 อย่างแน่นอน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่ในส่วนของการรับฟังความเห็นร่างพ.ร.บ.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา77 ระบุว่า นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และคณะได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมแสดงความคิดเห็น เบื้องต้นได้รับคำวินิจฉัยจากประธานสภาฯ ว่าไม่เป็นร่างการเงิน และได้เปิดรับฟังความเห็น ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. ถึงวันที่ 1 ม.ค. 2568 ทั้งนี้จากการเปิดรับฟังความเห็นมาแล้ว 4วัน พบว่า มีผู้ให้ความสนใจ 11,230 คน เห็นด้วย 88.89% และไม่เห็นด้วย 11.11% สำหรับหลักการและเหตุผลของการแก้ไขร่างกฎหมายดังกล่าว ระบุว่า ให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลที่ผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้น เพราะมองว่า การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล ตาม พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ.2551 แม้จะมีการแต่งตั้งกรรมการ ที่มี รมว.กลาโหม และ ผู้บัญชาการเหล่าทัพเป็นกรรมการ แต่การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลมีการวางตัวบุคคลที่เป็นพวกพ้องของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ให้สืบสายเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพต่อไป ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับนายทหารที่มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่ใช่พวกพ้องของผู้บัญชาการเหล่าทัพ
“คนที่ไม่ใช่พวกพ้องเสียโอกาสได้ก้าวหน้าในชีวิตราชการทหารและทำให้การแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลขาดความโปร่งใส ดังนั้นจึงควรให้อำนาจ ครม.เป็นผู้พิจารณา อีกทั้งควรปรับองค์ประกอบของกรรมการให้เหมาะสม รวมถึงองค์ประกอบของสภากลาโหม ให้หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นสมาชิกสภากลาโหม ให้นายกฯ เป็นประธานสภากลาโหม แทน รมว.กลาโหม และตัดกองทัพอออกจากสภากลาโหมบางส่วน ให้เหลือเพียง 1-2คน ก็เพียงพอ” ข้อมูลประกอบการพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ระบุ ขณะที่ตัวร่างพ.ร.บ.ฉบับแก้ไขนั้น ยังได้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณสมบัติของนายทหารชั้นนายพล มาตรา 25 ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นอย่างน้อยด้วย คือ 1.ไม่เคยมีพฤติกรรม เป็นผู้อิทธิพลหรือพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด การค้ามนุษย์ การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม 2.ต้องไม่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหม หรือประกอบธุรกิจหรือกิจการอันเกี่ยวข้องกับราชการกระทรวงกลาโหม3.ไม่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนทางวินัยหรือถูกดำเนินคดีอาญา เว้นแต่ความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หมิ่นประมาท หรือ ลหุโทษ
นอกจากนั้น ยังเพิ่มเติมการจัดระเบียบปฏิบัติราชการทหาร ในมาตรา 35 ซึ่งเดิมกำหนดหน้าที่ทหารเพื่อปราบปรามจลาจล พบว่าร่างแก้ไขได้เพิ่มข้อห้ามใช้กำลังทหารหรือข้าราชการทหาร ในกรณีของการยึดหรือควบคุมอำนาจการบริหารราชการแผ่นดินจากรัฐบาลหรือเพื่อก่อการกบฏ รวมถึงขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ราชการส่วนราชการต่างๆ ห้ามใช้เพื่อธุรกิจหรือกิจการอันเป็นประโยชน์ส่วนตัวของผู้บังคับบัญชา และกระทำการอันมิชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ ทั้งนี้ ได้กำหนดด้วยว่า ข้าราชการทหารที่ได้รับคำสั่งให้ทำ ย่อมมีสิทธิไม่ปฏิบัติตามและไม่ถือว่า ผิดวินัยทหาร หรือกฎหมายอาญาทหาร นอกจากนั้นยังเพิ่มบทลงโทษนายทหารที่ฝ่าฝืนหรือพบการเตรียมการผิดมาตรา 35 ด้วยการหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ชั่วคราวตามคำสั่งของนายกฯ เพื่อให้เกิดการสอบสวนโดยไม่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการพักราชการตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ในสาระสำคัญของมาตรา 35 ที่เสนอแก้ไขนั้น ย้ำความสำคัญคือ เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารได้ใช้อำนาจในทางที่ผิดและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี