‘อิ๊งค์’ชิงแถลงผลงาน90วัน12ธ.ค.
ตัดหน้าศึกซักฟอก
ชู‘2568โอกาสไทยทำได้จริง’
ตีปี๊บแจกเงินเฟส3ตามมาแน่
พท.พร้อมฉะกลับฝ่ายค้าน
โต้ทุกเม็ดในศึกไม่ไว้วางใจ
โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ “อิ๊งค์” เตรียมแถลงผลงานรอบ 90 วัน 12 ธันวาคมนี้ ภายใต้ชื่อ “2568 โอกาสไทยทำได้จริง” แจงรัฐบาลทำอะไรบ้าง ปัจจุบันทำอะไรอยู่ ในอนาคตประเทศไทยจะเดินไปทิศทางไหน ขอโทษแจกเงินเฟส 2 ล่าช้า ทั้งตีปี๊บ
เฟส 3 ตามมาแน่แต่ไม่รู้ช่วงไหน “วิสุทธิ์” ปธ.วิป ลั่นรัฐบาลพร้อมตอบศึกซักฟอกทุกเรื่องแต่ต้องชัดอภิปรายเรื่องอะไร หวั่นพูดเรื่อง MOU44 กระทบเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านรายการเสียงจากใจไทยคู่ฟ้า ว่า ในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 จะมีการแถลงผลงานของรัฐบาล ภายใต้ชื่อ“2568 โอกาสไทยทำได้จริง”โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้นำแถลง ในเวลา10.00น.เพื่อบอกว่าในช่วงเวลา 90 วัน รัฐบาลทำอะไรบ้าง และปัจจุบันทำอะไรอยู่ และในอนาคตประเทศไทยจะเดินไปทิศทางไหน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งในรายการ“เสียงจากใจไทยคู่ฟ้า”ว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้มีการสำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่า 31,500 คนทั่วประเทศ ที่ได้รับเงิน 10,000 บาท เฟสแรก ถึงผลการดำเนิน โครงการเงิน 10,000 บาท เฟสแรก ระหว่างวันที่ 4-22 พ.ย. ที่ผ่านมา พบว่า 87.7% พึงพอใจโครงการในภาพรวม พึงพอใจมาก 47.8% และมี 3.7% ระบุว่ามีความพึงพอใจน้อย ส่วนเรื่องการนำไปใช้จ่ายนั้น พบว่า 78% นำไปใช้จ่ายทั่วไป อีก 12.8% นำไปชำระหนี้สิน และ 11.4% เก็บออม เมื่อจำแนกเรื่องของการนำไปใช้จ่าย พบว่า 95.1 นำไปซื้ออาหารและเครื่องดื่ม เช่น ข้าวสาร หมูสด รองลงมาซื้อของใช้ในครัวเรือน อาทิ สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน คิดเป็น 89.1% ที่เหลือ 57.2% จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และอีก 26.7% นำไปจ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิง แก๊สหุงต้ม
“ก่อนหน้าที่จะเดินหน้าโครงการ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เงินในโครงการนี้จะไปเข้ากระเป๋าเศรษฐี ร้านค้าใหญ่ๆ แต่ผลสำรวจพบว่า 96.3% ประชาชนนำเงินไปใช้จ่ายที่ร้านค้าในชุมชน และร้านขายของชำ รองลงมาคือ ไปใช้จ่ายกับร้านหาบเร่ แผงลอยในตลาด คิดเป็น 70.9% ที่เหลือประมาณ 18.4% นำไปใช้ในร้านสะดวกซื้อ ดังนั้นโดยสรุป ประชาชนมีความมั่นอกมั่นใจ ว่าโครงการนี้จะดีขึ้น”นายจิรายุ ย้ำ
ตีปี๊บแจกเฟส3ตามมาแน่
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับคำถามที่ว่า โครงการเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ผู้สูงอายุ 60 ปี จะได้เมื่อไหร่นั้น จริงๆ แล้ว สัปดาห์ที่แล้ว มีเรื่องเข้ามาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีข้อสังเกตบางอย่างช้าไปสัปดาห์หนึ่ง แต่ชัวร์ แต่คาดว่าไม่น่าจะเกินไปกว่าเดือน ก.พ. 2568 ดังนั้นฝากบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าเฟส 2 มาแน่ แต่ขอปรับอะไรอีกนิดๆ หน่อยๆ เพื่อที่จะได้นำพาและแจกให้กับประชาชนคุณพ่อคุณแม่ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป ยังไงก็ชัดเจน
ส่วนโครงการเงินหมื่นเฟส 3 ยังต้องรอติดตามต่อไป แต่ไม่ต้องกังวล เพราะเฟส 1 มีแล้ว เฟส 2 มีแล้ว แล้วเฟส 3 จะไม่มีได้อย่างไร
ทั้งนี้ ระหว่างการกล่าวถึงความล่าช้าของโครงการเงิน 10,000 บาท เฟส 2 นี้ นายจิรายุ ได้ยกมือไหว้ เพื่อเป็นการแสดงความขอโทษ ขออภัยที่โครงการล่าช้า
พท.ลั่นรบ.พร้อมตอบศึกซักฟอก
ขณะที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานวานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายรัฐบาลช่วงต้นปี 2568 ว่ายังไม่ทราบว่าอภิปรายอะไรก่อน เพราะมีข่าวทั้งจะให้เปิดสภา พูดเรื่องMOU44 เขากระโดง หรืออะไรต่างๆ เขามีสิทธิจะทำ แต่ต้องมาเจรจากันกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)ว่าจะพูดอะไรอย่างไร ตอนแรกบอกจะพูดเรื่องMOU44และอีกสองอาทิตย์เรื่องอภิปรายรัฐบาลซึ่งก็ไม่รู้จะอภิปรายอะไรก่อนกันแน่ ตอนนี้ยังไม่มีการเจรจาว่าจะพูดอะไร
“ทุกเรื่องรัฐบาลพร้อมไม่มีอะไรเป็นข้อกังวลแต่ต้องทราบก่อนว่าจะขอเปิดอภิปรายอะไรหลังเปิดสภาวันที่ 12 ธ.ค.น่าจะได้เจอแล้วพูดกันอย่างเป็นทางการ ยืนยันเราพร้อมรับทุกเรื่องรัฐบาลตอบได้หมด แต่การจะพูดอะไรไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน ก็อยากให้ระมัดระวังสิ่งที่พูดว่าจะกระทบความสัมพันธ์หรือไม่ เรื่องอื่นไม่มีปัญหา รัฐบาลพร้อมตอบทุกเรื่อง ส่วนจะเร็วไปหรือไม่นั้น เราไม่ไปคิดแทนเขา เพราะรัฐบาลพร้อมตลอดเวลา ไม่มีอะไรน่ากังวล” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นัด‘วันนอร์’เลื่อนถกวิป3ฝ่าย12ธ.ค.
เมื่อถามถึงกรณีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เตรียมเรียกประชุมวิป3ฝ่าย หารือถึงการพิจารณาร่างกฎหมายเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา17 ฉบับนายวิสุทธิ์กล่าวว่าในวันที่ 9 ธันวาคมนี้ ตนและนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะไปพบนายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อ ขอเลื่อนการประชุมวิป3ฝ่ายมา เป็นวันที่12ธันวาคม ที่เป็นวันเปิดสมัยประชุมสภาเลย เนื่องจากวันที่13 ธันวาคม พรรคเพื่อไทย มีกำหนดการสัมมนาพรรคที่กำหนดมาก่อนหน้านี้แล้ว ถึงอย่างไรวันที่12 ธันวาคม ทุกคนอยู่สภาอยู่แล้ว
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรนั้น เห็นด้วยกับที่ประธานรัฐสภาให้ความเห็นว่าต้องเอาแต่ละเรื่องมาดูกันก่อนว่าจะพิจารณาเรื่องใดบ้าง เราไม่ขัดข้อง แต่ต้องดูรายละเอียดก่อนว่าเรื่องไหนพอเป็นไปได้ ไม่ใช่จะแก้แบบสุดโต่งจะทำไม่ได้ จึงขอดูรายละเอียดก่อน
เปิดซักฟอกต้นปี68เหมาะสม
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคประชาชนและฝ่ายค้าน เตรียมการยื่นอภิปรายทั่วไป อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล โดยจะชัดเจนและยื่นเสนอต่อสภาช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้เพื่อให้ทันเปิดอภิปรายช่วงต้นปี 2568 ว่า ถือเป็นสิทธิ์ที่ผู้นำฝ่ายค้านจะหารือพรรคร่วมฝ่ายค้านว่ามีประเด็นใดที่การทำงานของรัฐบาลไม่ชัดเจน สามารถสอบถามและเชิญให้รัฐบาลมาชี้แจงเหตุผล ข้อมูลข้อเท็จจริงได้ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่รัฐบาลก็จะได้ชี้แจงประชาชนผ่านสภาว่าได้ทำงานอะไรไปแล้วบ้าง ส่วนจะเป็นการยื่นขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ หรือจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลก็สามารถทำได้
ตนมองว่า หากเป็นช่วงต้นปี 2568 รัฐบาลได้ทำงานมาประมาณ 5-6 เดือนแล้ว ก็ถือว่าเหมาะสม แต่ถ้าจะให้ดีกว่า มองว่า รัฐบาลทำงานผ่านไป 1 ปี นโยบายและโครงการต่างๆที่ได้แถลงต่อรัฐสภาไว้ ทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาหนี้สิน การลดภาระค่าของชีพ ต่างๆ เชื่อว่าจะค่อนข้างเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจนขึ้น ก็จะเหมาะสมกว่า
ขอใช้เวทีสภาคุ้มค่าอย่างสร้างสรรค์
นายธนกรกล่าวว่าเนื่องจากในช่วงนี้เกิดวิกฤตอุทกภัยขึ้นตั้งแต่ภาคเหนือลงมาถึงภาคใต้พี่น้องประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบอย่างหนักในหลายจังหวัดโดยรัฐบาลและกองทัพ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชน ผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วนและขณะนี้สถานการณ์ยังไม่จบ ภาคใต้ยังคงมีพายุระลอก 2 เข้ามาอีก ซึ่งบรรดารัฐมนตรีสส.ทุกพรรค ยังคงเดินทางลงพื้นที่เข้าไปช่วยผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
“เมื่อรัฐบาลทำงานได้ 6 เดือนถึง1ปีก็เหมาะสม ที่ฝ่ายค้านจะขอเปิดอภิปรายทั่วไปหรือจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เพื่อให้เวลารัฐบาลทำงานให้เห็นผลเป็นรูปธรรมก่อนเพื่อจะมีข้อมูล ข้อบกพร่อง หรือข้อสงสัยที่ฝ่ายค้านสามารถยื่นญัตติขอคำตอบจากนายกฯและรัฐบาลให้ชี้แจงได้ แต่ขอให้ใช้เวทีสภาอย่างสร้างสรรค์ คุ้มค่าและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน ควรจะให้ความสำคัญกับการพิจารณาออกกฎหมายที่จะลดความเหลื่อมล้ำ แก้ปัญหารายได้ ช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่ ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนก่อน ไม่ควรใช้เวลาในการอภิปราย จ้องแต่โจมตีรัฐบาล หรือหวังจะใช้ช่วงชิงจังหวะเล่นเกมการเมืองเท่านั้น” นายธนกร ย้ำ
เตือนปลุกระดมเลิกMOU44
นายวรชัย เหมะ อดีต สส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ยกเลิกMOU44 ในวันที่ 9 ธ.ค. นี้ว่านายสนธิ คือ คนที่ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาส จากการปลุกระดมชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯจนนำไปสู่การยึดอำนาจ 2549 เศรษฐกิจถดถอย สังคมเกิดปัญหา พี่น้องประชาชนทราบดีว่าในอดีตนายสนธิได้ทำอะไรไว้ ในขณะที่ประเทศไทยกำลังเดินหน้าสู่อนาคต เศรษฐกิจกำลังเติบโต จนกลายเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของคนไทย การที่คุณสนธิกับพวกกลับมาปลุกระดมเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ จึงเป็นคำถามสำคัญว่ามีเป้าหมายอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ถามใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่
“เรื่องMOU44 ที่คุณสนธิเรียกร้องให้ยกเลิกนั้น คุณสนธิทราบบ้างไหมว่า อาจเป็นการทำให้เข้าทางกัมพูชาในท้ายที่สุด เพราะทั้งกัมพูชาและไทย ต่างอ้างสิทธิครอบครองพื้นที่ 200 ไมล์ทะเลเหมือนกัน ซึ่งการอ้างสิทธิของแต่ละประเทศจึงมีบางส่วนทับซ้อนซึ่งกันและกัน และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเกาะกูดเลยเพราะเกาะกูดเป็นของไทย 100% แต่เป็นเรื่องที่จงใจเอามาปลุกปั่นให้เข้าใจผิดเท่านั้น”นายวรชัย กล่าว
‘โหรวันชัย’ชี้รบ.เผชิญธาตุไฟร้อนแรง
นายวันชัย สอนศิริ ทนายความชื่อดัง และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื้อหาดังนี้ งูไฟ...กับรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง จะไม่พูดถึงตัวเลขและดวงดาวต่างๆเพราะหมอดูหลายคนออกมาพูดกันมากแล้ว... มะโรงงูใหญ่ก็เร่ง มะเส็งงูเล็กก็กำลังจะมา เรียกว่าทั้งมังกรใหญ่มังกรเล็กอยู่คู่กับรัฐบาลเพื่อไทยเกือบ 2 ปี มีพญามังกรทักษิณเป็นหัวแรง... ทั้งพ่อทั้งลูกคือมังกรเล็กมังกรใหญ่ในรัฐบาล และปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ นักษัตรปีงูเป็นธาตุไฟ ทั้งเร่าร้อน ร้อนแรง ทั้งมีแสงสว่างไสวและพร้อมที่จะลุกไหม้ได้ตลอดเวลา... ธาตุไฟปีมะเส็งนี้มีทั้งคุณและโทษ รัฐบาลถ้าบริหารจัดการดีก็สว่างไสวรุ่งโรจน์โชติช่วง ถ้าไม่ดี..ไฟก็พร้อมที่จะลุกไหม้เป็นไฟบรรลัยกัลป์ เผาไหม้ทั้งนายกและรัฐบาล จะเกิดการปะทุประท้วง ชุมนุมขับไล่ ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ลุกขึ้นมาปะทะกัน สุมไฟแห่งความขัดแย้ง จะเกิดการเผาไหม้เร่าร้อนรุนแรงอีกครั้ง...
แนะรัฐบาล เร่งทำผลงานเถิด
ดวงชะตาฟ้าลิขิต ทั้งดวงดาวของประเทศ นายกอุ๊งอิ๊งและคุณทักษิณบรรจงลงตัวเดินหน้ามาตั้งแต่ปลายเดือนพ.ย.67 ถึงกลางเดือนมิ.ย.68 หกเดือนต่อแต่นี้ เป็นการชี้ชะตา วัดพลังแห่งธาตุไฟ จะสว่างไสว หรือเผาไหม้ก็อยู่ที่ช่วงนี้แหละ... ผลงานและการแก้ปัญหาเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ การกินดีอยู่ดี เหมือนไฟสุมขอนที่พร้อมจะปะทุให้สว่างไสวรุ่งโรจน์รุ่งเรืองหรือเผาไหม้เป็นไฟบรรลัยกัลป์ก็ได้...ดวงชะตาของประเทศและผู้นำมาถึงกาลนี้แล้วต้องเร่งเครื่องสร้างผลงาน แก้ปัญหาให้สำเร็จให้ได้โดยเร็ว จึงจะทำให้อยู่ได้ไปตลอดรอดฝั่งทั้งประชาชนและรัฐบาล... แต่ถ้ายังเหมือนเดิม อิหลุกขลุกขลักเหมือนที่ผ่านมา ความยุ่งเหยิงวุ่นวายโกลาหลก็จะบังเกิด เมื่อถึงตอนนั้น..จะงูเล็กงูใหญ่หรือบริวารว่านเครือก็จะแตกกระสานซ่านเซ็นกระจุยกระจายมอดไหม้กันไปหมด... ปีมะเส็งแห่งธาตุไฟนี้ จะเป็นธาตุไฟแตก หรือธาตุไฟที่รุ่งเรืองสว่างไสว คอยดูกันต่อไป
อดีตบิ๊กพท.ฉะรบ.เห็นทีจะลำบาก
ด้านนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์วิจารณ์นโยบายรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ผ่านเฟซบุ๊กว่า“ติดตามนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้ ยังไม่เห็นมีอะไรที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญก้าวหน้า ประชาชนอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน เห็นมีแต่นโยบายแจกเงิน วางแผนขึ้นภาษี ถ้าเป็นอยู่เช่นนี้ เห็นทีจะลำบาก”
พิธาหาเสียงนายกฯอบจ.อุบล
ายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายสิทธิพล เลาหะวนิช ผู้สมัครนายก อบจ. อุบลราชธานี พรรคประชาชน หาเสียงที่ อ.สำโรง นายพิธา เรียกเสียงกรี๊สด้วย วลี “สำโรง ไม่ใช่ตัวสำรอง” ถ้าไม่ห้ามรื่นเริง จะร้อง “เพลงไม่เป็นรอง” ไปแล้ว เพราะที่ อ.สำรอง คะแนนไม่เป็นรองใคร อีกทั้ง อ.สำโรง เป็นอีกหนึ่งฐานที่มั่นของพรรคประชาชน และทำให้ตนเองนึกถึงอดีต สมัยเป็นอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกลที่ถูยุบไปแล้ว ทำให้ตนถูกตัดสิทธิทางการเมือง ยืนยันว่า ตัดสิทธิได้ แต่ตัดใจตนจากประชาชนไม่ได้ เรียกเสียงเฮ เสียงปรบมือ จากแฟนคลับได้สนั่นหอประชุม
นายพิธา มั่นใจว่า ผู้สมัครของพรรคประชาชน จะได้รับการตอบรับจากคนอุบลฯแน่นอน เพราะแม้พรรคประชาชนจะไม่มี สส.เขต เลย แต่ 5 ปีที่ผ่านมา ความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จาก 1 แสน กลายเป็น 3 แสน และเชื่อจะดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมย้ำว่าพิธามาเพื่อเปลี่ยน เปลี่ยนจากขั้วใหญ่ ทางการเมืองเป็นขั้วใหม่ โดยคนใหม่ แต่ถือว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์อยู่กับปัญหาของประชาชนมานาน เพราะเคยเป็นรองนายกอบจ มาก่อน พร้อมทำงานเพื่อแก้ไขปัญหากับประชาชนได้ทันที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี