"ไอซ์ รักชนก"รอดคุก!!! ศาลอาญาสั่งยกคำร้องเพิกถอนประกันตัว ยังไม่เข้าข่ายผิดเงื่อนไข ศาลยังกำชับปฏิบัติตามเงื่อนไขประกันอย่างเคร่งครัด
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว คดีดูหมิ่นสถาบันหมายเลขดำ อ.683/2565 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.รักชนก ศรีนอก หรือ ไอซ์ รักชนก สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) เป็นจำเลย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
โดยคดีนี้ศาลอาญา พิพากษาจำคุก น.ส.รักชนก จำนวน 2 กระทงๆ ละ 3 ปี รวมจำคุก 6 ปี ไม่รอลงอาญา ซึ่งศาลอาญาอนุญาตให้ น.ส.รักชนก มีประกันตัวไประหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกัน 5 แสนบาท พร้อมกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำผิดในลักษณะเดียวกันนี้อีก
ต่อมาวันที่ 28 ต.ค.67 นายทันกวินท์ รัฐวัฒก์อังกูร ที่ปรึกษาธุรกิจและนักวิชาการอิสระ ได้ยื่นคำร้องขอตรวจสอบหลักทรัพย์ และคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการประกันตัว น.ส.รักชนก เนื่องจาก ระหว่างการประกันตัว น.ส.รักชนก ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวพาดพิงสถาบัน ซึ่งผิดเงื่อนไขการประกันตัว
ศาลได้มีการไต่สวนแล้วนัดฟังคำสั่งในวันนี้ ซึ่ง น.ส.รักชนก ได้เดินทางมาฟังคำสั่งศาล
ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งยกคำร้องขอเพิกถอนการประกันตัวจำเลยของผู้ร้องดังกล่าว เนื่องจากพฤติการณ์ของจำเลยที่มีการโพสต์ข้อความนั้นไม่เกี่ยวกับเรื่องในคดีที่ถูกฟ้อง แต่ทั้งนี้ศาลกำชับให้จำเลยปฏิบัติตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวอย่างเคร่งครัดด้วย
ภายหลังฟังคำสั่ง น.ส.รักชนก เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ศาลมีคำสั่งยกคําร้อง ไม่เพิกถอนประกันตัว โดยเรื่องนี้ผู้ร้องยกเหตุผลมามีสองข้อคือ หลังจากที่ นายชัยธวัช ตุลาธน หลุดจากการเป็น สส.ทําให้มีปัญหาเรื่องหลักประกันซึ่งทางตนได้เปลี่ยนเป็นหลักประกันเป็นเงินสดแล้ว จํานวนเท่าที่ศาลแจ้งเอาไว้
ข้อต่อมาคือ ตนได้ละเมิดข้อกำหนดของศาล โดยเอาโพสต์ในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการตั้งคําถามกับกองทัพ เรื่องพลทหารไปซักกางเกงในให้เมียนายทหาร เรื่องเกี่ยวกับรณรงค์การยกเลิกเกณฑ์ทหาร เป็นการด้อยค่ากองทัพ ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นจอมทัพไทย ดังนั้น การด้อยค่าพลทหาร เป็นการด้อยค่ากองทัพก็คือกระทบกระเทือน เชื่อมโยงถึงคดี ม.112 แต่ศาลได้มีคำสั่งว่า เรื่องหลักทรัพย์มีการไปเปลี่ยนหลักทรัพย์แล้วเรียบร้อย ส่วนเรื่องที่โพสต์เกี่ยวกับกองทัพก็เป็นการแสดงความคิดเห็นทั่วไป จึงให้ยกคำร้อง
วันนี้ศาลไม่ได้เพิ่มข้อกําหนดใดๆ ดังนั้น ตนคิดว่าในฐานะผู้แทนราษฎรที่ประชาชนเลือกมา ตนไม่ควรที่จะเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะว่าตนมีหน้าที่พูดเพื่อคนอื่นหลายๆ เรื่องที่เราได้วิพากษ์วิจารณ์ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่เป็นผลประโยชน์สาธารณะ แล้วทุกอย่างที่เราพูดไป คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชนทุกคน การที่ตนพูดถึงเรื่องการใช้งบประมาณ ภาษีให้มันคุ้มค่า วิญญูชนประชาชนทั่วไป ที่รักในสิทธิเสรีภาพ รักในความถูกต้องก็น่าจะเข้าใจว่าสิ่งที่ตนพยายามสื่อสาร
ทั้งนี้ ตนมองว่าการฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องไร้สาระ และกระทบกับเวลาในการทํางานในฐานะที่เป็นผู้แทนราษฎร การที่ต้องออกจากประชุมมา หรือว่าจะต้องเลื่อนการประชุม มาทําคดีเหล่านี้ เดี๋ยวจะมีคําสั่งศาลอุทธรณ์ออกแน่อยู่แล้ว คือคุณก็ให้เราทํางานให้เต็มที่ไปก่อน เพราะว่าใครๆ ก็รู้ว่าถ้าอยู่พรรคนี้ มันชัวร์อยู่แล้ว คุณจะทำไปทำไมให้เสียเวลาทางสังคม แทนที่สื่อจะไปงานข่าวที่สําคัญมากกว่านี้
ขอเชิญสังคมให้ตั้งคำถามว่า ทำไมมีเพียงแค่พรรคประชาชนที่ต้องเผชิญกับกระบวนการแบบนี้ จึงคาดว่าอาจจะมีผลประโยชน์ทับซ้อนที่อยู่เบื้องหลังของขบวนการบุคคลเหล่านี้หรือไม่ในการจ้องจะเล่นงานพรรคประชาชน
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปอีกว่า มองยังไงกับการที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ถูกต้องคำพิพากษาในศาลชั้นต้น จะเข้าข่ายเป็นการขัดจริยธรรมนักการเมืองหรือไม่ น.ส.รักชนก ตอบว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่พูดยาก แต่ก็คาดหวังว่าในชั้นอุทธรณ์ ตนจะได้รับความเป็นธรรม เพราะตนก็ได้ต่อสู้ในทุกสิ่งทุกอย่างที่จะสามารถต่อสู้ได้ โดยตนได้ยื่นอุทธรณ์ไปเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ แต่ไม่ทราบว่าจะมีคำตัดสินเมื่อใด
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี