‘กมธ.ป.ป.ช.’ เรียก ‘กรมขนส่งทางบก’ บี้ถามปม ‘เพลิงไหม้บัสทัศนศึกษา’ ไล่ต้อนผลตรวจสภาพย้อนหลัง 10 ปี ข้องใจออกมาวิ่งได้ต้องอายุเท่าไหร่หรือใช้ได้ชั่วชีวิต - มีทุจริตหรือไม่ ติงวิศวกรให้ผ่าน ทำไม่สบายใจ ขณะที่ ‘รองอธิบดีฯ’ แจงกำลังยกเลิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ยันย้ายช่างเข้ากรุแล้ว ส่วน ‘ผอ.ฯยานยนต์’ รับอายุรถ ไม่มีเส้นกำหนดชัดเจน ขึ้นกับวิศวกรตรวจสภาพ
วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกมธ.ฯ เป็นหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาวาระจากเหตุเพลิงไหม้รถบัสนักเรียนและครูที่ไปทัศนศึกษาจากจังหวัดอุทัยธานี โดยเชิญตัวแทนจากอธิบดีกรมขนส่งทางบกหรือผู้แทน ขนส่งจังหวัดสิงห์บุรี และตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาร่วมประชุมด้วย
ช่วงหนึ่งพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษากมธ.ฯ กล่าวกับกรมขนส่งทางบก ว่า เหตุการณ์นี้มีคนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ต้องเข้าคุกเข้าตาราง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ อย่าไปเห็นกับเงินพันครึ่งพัน ก็ให้ผ่าน
ก่อนที่นายฉลาด จะขอเอกสารตรวจสภาพย้อนไป 10 ปี โดยระบุว่า ถ้าย้อนไป10ปี ตอนนั้นรถก็อายุ 43 ปี ตนไม่แน่ใจว่ารถโดยสารไม่ประจำทางคันนี้ ถ้าไม่เกิดเหตุ ก็มีอายุ 53 ปี ตนคิดว่าต้องทำสถิติโลก เพราะอายุมากกว่าคน บังเอิญเกิดเหตุขึ้นมาก่อน คงต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น กรณีนี้ ข้างนอกสวยงาม ข้างในมีถังแก๊ส เขาจดเพิ่มถังแก๊ส มันงอกมาด้วยวิธีใด เขาต่อเองโดยไม่แจ้งกรมขนส่ง ตรงนี้ต้องควบคุมด้วย เข้าใจว่าเป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างขนส่งและผู้ประกอบการ
ทำให้นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ชี้แจงว่า รถบรรทุกต่างๆ มาตรวจที่สำนักงาน ตัวถังแก๊สเราได้มีการยกเลิกแล้ว แจ้งไปทางสภาวิศวกรให้ทำตามกฎหมาย สำหรับในเรื่องการตรวจสอบรถในเรื่องมาตรการกฎระเบียบที่ออกมา ตอนนี้อยู่ระหว่างที่แก้ไข โดยหลักการก็คือยกเลิกรถพวกนี้ กำหนดให้มีอายุรถ และรถที่เป็นรถประจำทางก็ไม่สามารถเปลี่ยนรถโดยสารไม่ประจำทางได้
นายฉลาด จึงถามว่า รถต้องอายุเท่าไหร่ หรือจะให้วิ่งได้ชั่วชีวิต
ต่อมา นายชีพ น้อมเศียร ผู้อำนวยการสำนักวิศวกรรมยานยนต์ ชี้แจงเรื่องอายุรถโดยสารว่า ผลการศึกษาพบว่ารถตู้มีอายุการใช้งานสูงสุดอยู่ที่ 10 ปี รถสองแถวในซอยอายุการใช้งานอยู่ที่ 12 ปี ส่วนรถบัสขนาดใหญ่มีอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 15 ปี ซึ่งในผลการศึกษากำหนดว่ารถเมื่อครบอายุดังกล่าวแล้ว หากมีการซ่อมบำรุงจากโรงงานที่ได้มาตรฐานและถูกต้อง ก็สามารถใช้งานได้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบจากกรมขนส่งทางบก
“โดยส่วนใหญ่ที่ศึกษามา ไม่มีประเทศใดที่กำหนดอายุการใช้งานรถโดยตรง เขาจะใช้กลไกในการตรวจสภาพของรถ สแกนรถที่เก่าเจ้าของรถไม่สามารถที่จะสู้การซ่อมบำรุงรถเหล่านั้นได้ ยิ่งรถอายุมาก การซ่อมบำรุงรักษาก็จะยิ่งมีราคาสูง จึงตัดสินใจที่จะเปลี่ยนซื้อรถคันใหม่ โดยหลักจะใช้กลไกในการตรวจสภาพเป็นการสแกนรถจะออกจากระบบ” นายชีพ กล่าว
นายชีพ กล่าวด้วยว่า ประเทศไทยเราไม่สามารถผลิตได้เอง เราจึงมีการดัดแปลง โดยเอาโครงคัสซีรถเก่าทั้งแท่ง เช่นนำรถบรรทุกที่มีโครงคัสซีไปแท่งยาวมาทำเป็นรถโดยสาร พร้อมกับเน้นย้ำว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากการตรวจสภาพของกรมขนส่งทางบก หากตรวจสอบแล้วไม่มีความปลอดภัย ไม่ผ่านเครื่องทดสอบของเรา เราจะไม่ให้จดทะเบียนได้ เรื่องของโครงคัสซี ตอนนี้เราห้ามดัดแปลงแล้ว และยังกำหนดอายุการใช้งาน
ปัจจุบันกรมขนส่งทางบกมีการกำหนดอายุการใช้งานรถโดยสารประจำทาง เช่นเชียงใหม่-กทม. ไม่เกิน 30 ปีเป็นต้น หากเกินแล้ว จะถอนรถออกจากการประกอบการ แต่หากเป็นรถเช่าเหมา ถือว่ายังวิ่งไม่ไกลมาก แต่เมื่อเกิดกับปัญหา ก็จะออกเป็นมาตรการที่ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ กรมขนส่งยังจะกำหนดผู้ที่จะดูแลรถเช่าเหมาอีกด้วย เพื่อความรัดกุม
ทำให้นายฉลาด กล่าวว่า ตนอยู่ในพื้นที่ ยิ่งมีรถหลายคัน การตรวจสภาพผ่านอยู่แล้ว ไม่ได้ใส่ร้าย สิ่งที่กังวลคือขณะเกิดเหตุรถมีอายุมาก 53 ปี เจ้าหน้าที่มีการทุจริตมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ทางตำรวจก็ได้ข้อสันนิษฐานว่าน่าจะมี
"ผมไม่กลัวอะไรหรอก กลัวเจ้าหน้าที่ลูกเมียเจ้าหน้าที่ของเรานี่แหละไปเหมาขึ้นไปดูงานแล้วเกิดเหตุมาถ้าคนของกรมขนส่งทางบกไปรับอุบัติเหตุมายิ่งหนักเข้าไปอีกนะครับ" นายฉลาด กล่าว
นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ จึงกล่าวเสริมว่า ทำอย่างไรให้เป็นไปตามที่เราหวังมาตรการวางกฎเกณฑ์ไว้หรือแก้กฎหมายไว้ ตนใจแป้วนิดหนึ่งว่ามันไม่มีอายุกำหนด วิศวกรให้ผ่าน พอผ่านมันไม่สบายใจเท่าไหร่ สำหรับคนที่ต้องใช้รถสาธารณะหรือรถประจำทาง ถ้ามีมาตรการอื่นก็จะดี
นายเสกสม จึงกล่าวว่า รถที่เอามาต้องเป็นรถที่ผ่านมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ รวมทั้งที่จะต้องตรวจรอบภาษีต่างๆเราก็สแกนเก็บประวัติไว้ทุกอย่างหมด กำชับให้ทำโดยเคร่งครัด
นายเสกสม กล่าวด้วยว่า ต้องเรียนว่าข้อเท็จจริงว่า รถคันดังกล่าวที่ได้รับอนุญาตไว้ทั้งหมดมี 6 ถัง แต่ตัวรถมีทั้งหมด11 ถัง ก็มีการตั้งสอบวินัยร้ายแรง เอาช่างที่ตรวจสภาพมาประจำที่กรม เก็บไว้ที่กรม เพื่อรอผลของการสอบสวนอยู่ในขณะเดียวกันฝั่งทางวิศวกรที่ตรวจรับรอง ก็มีการไปแจ้งความเลย รวมถึงยกเลิกการรับรอง ให้สภาวิศวกรดำเนินการตามกฎหมายกับวิศวกรคนนั้นด้วย
นายเสกสม ย้ำว่า หลังเกิดเหตุ ทางกรมขนส่งทางบก ได้แจ้งกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่า ในกรณีที่มีการไปทัศนศึกษาของกลุ่มนักเรียนหรือผู้สูงอายุ จะต้องเอารถมาตรวจความพร้อมก่อนที่จะออกเดินทาง ต้องมาตรวจสภาพ ซึ่งมีผลจะได้ 30 วัน เราจะมีเอกสารรับรองวันที่มาตรวจสภาพให้
อย่างไรก็ตาม การสอบถามในวันนี้ กมธ.ส่วนใหญ่ สอบถามเรื่องการตรวจสภาพถังแก๊ส ให้กรมขนส่งทางบกรอบคอบ เน้นตรวจสภาพรถใหญ่ให้มากขึ้น เพราะต่างจังหวัดรถเข้าเยอะ อยากให้มีวิศวกรจริง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี