‘แม้ว’ติงภท.‘หล่อเร็วไป’ต้านก.ม.ปฏิวัติ

โวไม่มีรัฐประหาร

สับพรรคร่วมต้องทำงานร่วมกัน

ไม่รู้เด็กพท.เสนอแก้ก.ม.กลาโหม

สอนมวยไม่มีมติพรรคไม่ควรพูด

‘อิ๊งค์’ไม่รู้จะรอดถูกปฏิวัติหรือไม่

“นายกฯอิ๊งค์”ยันรัฐบาลไม่แทรกแซงกองทัพ ปม สส.ชงก.ม.สกัด ปฏิวัติ ปัดไม่รู้จะเป็นนายกฯตระกูล“ชินวัตร”ที่ไม่ถูกรัฐประหารหรือไม่วอนทุกฝ่ายคิดถึง ประเทศ-ประชาชน รักษาความสงบ-ข้ามขัดแย้ง ด้าน‘ทักษิณ’ไม่รู้‘หัวเขียง’เสนอแก้ พรบ.กลาโหม เบรก‘ภูมิใจไทย’หล่อเร็วไป 13ธ.ค.เตรียมสอนมวย‘เด็กเพื่อไทย’ยังไม่เป็นมติพรรคไม่ควรพูด มั่นใจไม่มีรัฐประหาร หลัง’อิ๊งค์’บอกตระกูลชินคนแรกไม่ถูกรัฐประหาร ด้าน‘ภูมิธรรม’ชี้‘ประยุทธ์’ถอนร่างกม.สกัดปฎิวัติไปปรับ เป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวยอม‘ภูมิใจไทย’เพราะไม่ใช่ร่างของพรรค ยังไม่ออกความเห็นให้อำนาจนายกฯสกัด‘รัฐประหาร’ขอรอข้อสังเกตจากทุกฝ่ายก่อน ยันไม่เป็นประเด็นขัดแย้งพรรคร่วม ขณะที่‘ประเสริฐ’มั่นใจไม่โดนรัฐประหารรอบ3 ชี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว รับร่างไม่ผ่านที่ประชุมพรรค’วิสุทธิ์’ลั่นมีปัญหาให้มาคุยทึ่สภาฯย้ำพรรคไหนก็ไม่เอารัฐประหาร

เมื่อเวลา 12.45น.วันที่ 11ธันวาคม2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ถอนร่างพรบ.จัดระเบียบข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่จะป้องกันการรัฐประหาร ซึ่ง น.ส.แพทองธาร เคยได้รับผลกระทบจากการรัฐประหาร ว่า เรื่องนี้มีความคิดเห็นต่างกันอยู่แล้ว ก็ต้องรับฟังทุกฝ่ายและในรัฐธรรมนูญจริงๆก็มีเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เราต้องแสดงจุดยืนนิดหนึ่งว่า จุดยืนวันนี้ พ.ศ.นี้ เราต้องคุยกันว่า รัฐบาลไม่มีเจตนาแทรกแซงงานของกองทัพ อันนี้คือเรื่องหนึ่งก่อน แต่ว่าอะไรที่ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประเทศ ก็ต้องร่วมมือกันคิด ร่วมมือกันทำ นั่นคือสิ่งที่ในวันนี้ในปีนี้ในรัฐบาลนี้ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน

ไม่รู้คนแรก’ตระกูลชิน’ไม่ถูกปฎิวัติ

เมื่อถามว่า การออกกฎหมายป้องกันปฏิวัติเท่ากับสุมเชื้อไฟให้มันเกิดขึ้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่มีความตั้งใจในนั้นเลย เพราะความจริงเท่าที่พูดคุยกับกองทัพทั้งหมดก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันเลยและรมว.กลาโหมอยู่ตรงนี้ ก็คิดว่าการทำงานของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหมเอง เวลาทำอะไรก็รวบรวมความคิดเห็นอยู่แล้ว ไม่มีการทำอะไรโดยไม่ปรึกษากัน เราเน้นว่า ทำอย่างไรให้ประเทศเราสงบสุข ประชาชนอยู่ได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่หาทุกมุมมองเพื่อหาความขัดแย้ง อันนั้นก็จะไม่เกิดประโยชน์กับใครเลย เมื่อถามอีกว่า น.ส.แพทองธาร จะเป็นนายกฯคนแรกในตระกูลชินวัตร ที่จะไม่ถูกรัฐประหารหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนย้อนคำถามผู้สื่อข่าวว่า“เมื่อกี้นักข่าวถามว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์จะเป็นคนแรกในตระกูลชินวัตรหรือเปล่าที่ไม่ถูกปฏิวัติ ทวนคำถามให้ เผื่อไม่ได้ยิน ก็ไม่ทราบคะ อันนี้สื่อช่วยตอบด้วยแล้วกัน”

เร่งทำศก.ให้ดี-มองข้ามความขัดแย้ง

“แต่คิดว่าจริงๆในตอนนี้ทางออกของประเทศคือ การช่วยกันทำให้เศรษฐกิจดี ให้ประชาชนมีกินมีใช้ ถูกมั้ยคะ อันนี้คือสิ่งที่รัฐบาลเน้นย้ำในการประชุมทุกอย่างเป็นเรื่องของเศรษฐกิจแทบจะ100%เพราะฉะนั้นอันนี้แหละมันไม่มีเวลาของความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นของระดับประชาชน ข้าราชการ รัฐมนตรี มันควรจะเกิดความขัดแย้ง เพราะมันจะหยุดประเทศไว้ ไปต่อไม่ได้ ในวันนี้ที่ตัวดิฉันอยู่ตรงนี้ก็พยายามทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เรามีรัฐมนตรีและทีมงานเก่งๆอีกมากมาย ที่จะช่วยกันผลักดันประเทศไปข้างหน้าก็ขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายรักษาความสงบเอาไว้เพื่อให้ประเทศไปต่อทุกคนอยากมาลงทุน เรายังแก้ปัญหาจากโควิดไม่หมดเลย เพราะฉะนั้นเรื่องความขัดแย้งบางเรื่องต้องมองข้ามไปเพื่อประเทศและประโยชน์ของประชาชน” น.ส.แพทองธาร กล่าว เมื่อถามอีกว่า การที่ ส.ส.เพื่อไทยถอยแบบนี้ เป็นเพราะไม่อยากสุมเชื้อไฟ หลังกระแสสังคมตีกลับหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มันเป็นสิทธิของสส.ในการยื่นกฎหมาย แต่ไม่ใช่มติของพรรค

‘ทักษิณ’ไม่รู้เสนอแก้พรบ.กลาโหม

วันเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ จ.อุบลราชธานี ถึงกรณีนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เสนอแก้ไขระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่า พรรคเพื่อไทยจะคุยกันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) เป็นความคิดริเริ่มของบางคน โดยไม่ผ่านการกลั่นกรอง แต่ถ้าผ่านแล้วต้องรู้ว่า อะไรควรไม่ควร แต่การที่มีคนบอกว่า นายใหญ่สั่งมา ตนไม่รู้เรื่อง ได้ยินยังตกใจ จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องแก้กฎหมาย แก้แค่ระเบียบการก็พอจะทำงานให้คล่องตัวมากขึ้น น.ส.แพทองธาร ก็ตกใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เข้ากระบวนการของพรรคเพื่อไทย ส่วนการที่พรรคภูมิใจไทย ออกตัวว่า ไม่สนับสนุนการแก้ไขระเบียบกระทรวงกลาโหม พรรคภูมิใจไทย อาจจะพูดเร็วไปหน่อย ยังไม่ได้ถามว่า เป็นมติของพรรคเพื่อไทยหรือไม่

เบรก’ภท.’รีบหล่อ-ร่างไม่ผ่านพท.

“ภูมิใจไทย รีบหล่อเร็วไปนิด ขอให้หล่อช้าๆหน่อย ยืนยันไม่ต้องมีอะไรต้องอธิบาย เพราะพรรคร่วมรัฐบาลต้องฝึกการทำงานร่วมกัน เมื่อถามย้ำว่าต้องโทร.ไปหาคนหล่อหรือไม่ นายทักษิณ บอกไม่จำเป็น คนที่หล่อเร็ว ขอให้หล่อช้านิดหนึ่ง ส่วนมองการแก้ไขกฎหมาย ฉบับนี้ป้องกันรัฐประหารได้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า มันไม่เกี่ยวเลย ตนเองยังไม่เห็นเนื้อเลยด้วยซ้ำ เขาไปยกร่างแล้วเขาก็ออกมาพูด โดยพรรคยังไม่รู้ มันต้องเข้าสู่กระบวนการของพรรคก่อน

ชี้ไม่ต้องรัฐประหาร-ยังมีวิธีการอื่น

เมื่อถามว่าวันสัมมนาพรรคเพื่อไทยจะคุยพูดเรื่องนี้หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า วันที่ 13 ธ.ค.นี้ จะไปบรรยายให้พรรคเพื่อไทยฟังเรื่องสถานการณ์โลกและสถานการณ์การเมืองประเทศไทย ตนเองในฐานะผู้เก่าแก่ในวงการการเมืองไทย คงจะสอนน้องว่าอะไรควรไม่ควร เมื่อถามว่า วันนี้นายกฯพูดว่า ไม่รู้ว่าจะเป็นนายกฯคนเดียวตระกูลชินวัตรที่ไม่ถูกรัฐประหาร หรือไม่ นายทักษิณ ระบุว่า อ๋อ ที่จริงแล้วมีอะไรที่เยอะกว่านั้น รับรองรัฐประหารไม่มีแล้ว เพราะมีวิธีการเปลี่ยนรัฐบาลหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องรัฐประหาร รัฐประหารแล้วมันช้ำ9 -10ปีที่ผ่านมา ช้ำหนักมาก ประเทศช้ำ ละทำให้การแก้ปัญหาต่างๆมันยากขึ้น

‘หัวเขียง’รอแก้ไข-ส่งกลับเข้าสภาแน่

นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 12ธ.ค.จะแจ้งเรื่องต่อที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อขอถอนร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่เสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎรกลับมาปรับปรุงแก้ไขใหม่ การถอนร่างครั้งนี้เพื่อป้องกันความสับสนของสมาชิกพรรค ไม่มีผู้ใหญ่ บ้านใหญ่ ไม่มีหนู ไม่มีราชสีห์ มาขอร้อง หรือบีบบังคับ ไม่มีใครมาขอได้ ขณะนี้สภาฯยังไม่บรรจุเป็นวาระ สามารถถอนมาปรับปรุงแก้ไขได้ เบื้องต้นคงแก้ประมาณ10กว่าจุด ทั้งในส่วนการปรับถ้อยคำและการปรับปรุงเนื้อหาที่จะต้องรอฟังความเห็นประชาชนตามมาตรา77 ของรัฐธรรมนูญ ต่อร่างกฎหมายดังกล่าวให้เสร็จสิ้นก่อนในวันที่ 1ม.ค.2568 จะแก้ไขส่วนใดบ้างก็ต้องรอดูความเห็นประชาชนตามมาตรา77ก่อน ยืนยันว่า หากปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาเสร็จแล้ว จะเสนอกลับไปยังสภาฯอีกรอบ หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะเสนอเข้าไปใหม่ ร่างกฎหมายที่ผมเสนอเป็นบวกมากกว่าที่กองทัพจะได้รับผลกระทบ เป็นการปฏิรูป พัฒนากองทัพ ใครจะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ไม่ว่ากัน” นายประยุทธ์ กล่าว

‘อ้วน’ชี้ถอนร่างกม.เพื่อฟังความเห็น

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ถอนร่างพรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่มีเนื้อหาให้อำนาจคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล เพื่อสกัดการรัฐประหาร จนทำให้มีกระแสตีกลับมายังพรรคเพื่อไทยว่า ยอมพรรคภูมิใจไทยมากเกินไป ว่า ร่างที่ถอนออกไป เป็นร่างส่วนตัวของ นายประยุทธ์ ที่ถอนไปปรับ ต้องดูว่าจะปรับอย่างไร จึงไม่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย และเรื่องนี้ไม่ได้เข้าที่ประชุม สส. รวมถึงที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย แต่ถือเป็นเรื่องที่ดีที่นายประยุทธ์ รับฟังเสียง แล้วนำไปปรับแก้ เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็น รมว.กลาโหม ได้ดูร่างของ นายประยุทธ์แล้ว ประเด็นไหนที่ควรนำออกไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า ให้นายประยุทธ์ตัดสินใจดีกว่า เพราะเป็นร่างของเขา บางเรื่องถูกคัดค้าน แต่บางเรื่องก็ได้รับการสนับสนุน ตนคิดว่าเรื่องนี้เราทำเพื่อแก้ปัญหาก็ควรให้แต่ละฝ่ายได้ช่วยกันพิจารณา เพื่อจะได้ตอบสนองความต้องการของประชาชน

เมื่อถามว่า ล่าสุดได้เห็นร่างของกระทรวงกลาโหม เรื่องเค้าโครงการให้อำนาจนายกฯสกัดการปฏิวัติ โดยให้อำนาจ รมว.กลาโหมพิจารณาว่า จะเอาหรือไม่เอาหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า เห็นร่างแล้ว แต่เป็นร่างที่ นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหมได้เสนอไว้ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนี้ ตนได้ประชุมคณะกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งเป็นคณะความมั่นคงและกระบวนการยุติธรรมทางกฎหมาย ก็มีความเห็นจากหลายส่วนอยากให้ปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสม ซึ่ง รมช.กลาโหม ได้รับเรื่องกลับไปทบทวน ตนก็ได้บอกว่าให้นำกลับเข้ามาเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้ประกบร่างกับของฝ่ายค้านที่ได้ยื่นไว้ ทุกอย่างให้รอความเหมาะสม

ไม่มีความขัดแย้ง-แค่มีความเห็นต่าง

เมื่อถามย้ำว่า ส่วนตัวเห็นด้วยหรือไม่กับการให้อำนาจนายกฯ สกัดการรัฐประหาร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอเอาข้อสังเกตของทุกฝ่ายไปดูเพื่อหาสิ่งที่ดีที่สุดดีกว่า เมื่อถามว่า การป้องกันรัฐประหารใช้แค่กฎหมายเพียงพอหรือไม่ หรือต้องพัฒนาวัฒนธรรมการเมืองของไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่จริงกฎหมายการป้องกันรัฐประหารมีอยู่แล้วมากกว่ากฎหมายสภากลาโหมอีก เพราะรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดได้บอกไปแล้วว่า การทำรัฐประหารเป็นเรื่องไม่ถูกต้องและเป็นกบฏ แต่ในความเหมาะสมและความเป็นจริงควรเป็นเรื่องที่ให้ทุกฝ่าย เห็นว่าอะไรเป็นสิ่งที่จะช่วยระงับการรัฐประหาร เช่น การสร้างวัฒนธรรมในการยอมรับระบอบประชาธิปไตย ซึ่งส่วนตัวก็เห็นว่าประชาธิปไตยไทยก็พัฒนามาอย่างต่อเนื่องแล้ว ทุกส่วนจึงน่าจะใช้กระบวนการทางประชาธิปไตยในการพูดคุยกัน และบรรยากาศขณะนี้ทุกฝ่ายคุยกันได้หมดไม่มีปัญหาอะไร กับพรรคร่วมก็ไม่มีปัญหา ตนคิดว่าเรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่มีการตัดสินใจอะไร และยังไม่ใช่เรื่องที่มีความขัดแย้งจนเป็นปัญหาเพียงแต่เป็นความเห็น ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค้างคาในสังคมมานานแล้ว

‘ประเสริฐ’ชี้สส.เสนอกม.ได้ทุกคน

ขณะที่ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกรณีที่นายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ยอมถอนร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ซึ่งทำให้พรรคเพื่อไทยเจอกระแสตีกลับว่ายอมมากเกินไป ว่า ที่จริง กระบวนการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรนั้น สส. เข้าชื่อกันและสามารถเสนอได้อยู่แล้ว แต่ต้องผ่านกระบวนการของพรรคเพื่อไทยด้วยซึ่งตนเข้าใจว่านายประยุทธ์ได้กลับไปทบทวนและรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้าน

“ทั้งนี้ การเสนอร่างกฎหมายจะต้องไปชี้แจงในที่ประชุมพรรค ให้รับทราบถึงความสำคัญของกฎหมายแต่ละฉบับและสาระสำคัญของร่างกฎหมาย แต่รอบนี้อยู่ระหว่างปิดสมัยประชุมสภา จึงไม่มีการประชุมพรรคและตามปกติการเสนอร่างกฎหมาย จะต้องผ่านคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) เป็นคนกลั่นกรองและนำเสนอตามกระบวนการขั้นตอน”นายประเสริฐ ย้ำ

มั่นใจไม่โดนรอบ3-โลกเปลี่ยนไปแล้ว

เมื่อถามว่ามองว่าจะมีการทำรัฐประหารจริงหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่ามี เมื่อถามอีกว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่โดนยึดอำนาจก่อการรัฐประหารเป็นครั้งที่ 3 หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าถ้าวันนี้ทุกฝ่ายเข้าใจ ว่าสังคมโลกเปลี่ยนไปหมดแล้ว เรื่องการปฏิวัติรัฐประหารไม่ควรเกิดขึ้นแล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆก็ตาม เมื่อถามอีกว่าการออกกฎหมายดังกล่าวจะสามารถสกัดรัฐประหารได้จริงหรือไม่ ถ้าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมาจริงๆ นายประเสริฐ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจ วันนี้ประเทศบอบช้ำมามากจากหลายๆ เรื่อง เพราะฉะนั้นถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก ก็อยากให้ทุกฝ่ายตระหนักและใช้สติในการทำเรื่องต่างๆ

‘วิสุทธิ์’ลั่นมีปัญหาให้มาคุยทึ่สภาฯ

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่ นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอ ซึ่งจะเข้าที่ประชุมพรรคเพื่อไทยพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) ว่า เรื่องนี้อยู่ในระยะเวลาที่ให้คนแสดงความเห็น มีหลายท่านเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคนบางกลุ่มก็มาพูดรายละเอียดข้อหนึ่ง ถ้าตนจำได้ คือการแต่งตั้งนายทหารระดับสูง นายพลทั้งหลายต้องผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งตำรวจยังไม่ให้ผ่านเลย ทำไมผ่านเฉพาะทหาร จะทำให้เกิดความลักลั่นในการปฏิบัติ จะมีการโต้แย้งได้ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้พูดคุยกับนายประยุทธ์ และ นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าทีมฝ่ายกฎหมายของพรรค

“สมาชิกหลายท่านก็มีความเห็นว่าอาจจะให้ท่านถอนมาปรับปรุง มันมีหลายข้อก็ปรับปรุงบางข้อ เป็นเรื่องปกติในการเสนอกฎหมาย ไม่ได้มีปัญหาอะไร เสนอเข้าไปมีคนติงเยอะ ก็จะมีปัญหาในทางปฏิบัติ หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือถอยออกมานิดหนึ่ง ก็ไม่เป็นไร ทราบว่าท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้ส่งเรื่องกลับไปให้สภากลาโหมพิจารณาใหม่ เข้ามาจะได้สอดคล้องกันบางเรื่อง จะได้ไปด้วยกันได้ ไม่มีอะไรสุดโต่งและไม่ได้มีปัญหาที่ต้องกังวลว่าถ้าหากจะต้องมาปฏิวัติอะไรอีก” นายวิสุทธิ์ กล่าว

ลั่นไม่เกี่ยวพรรค’ภท.’ไม่เอาด้วย

เมื่อถามว่า ไม่ได้เป็นเพราะพรรคร่วมรัฐบาลขย่มพรรคเพื่อไทยอยู่ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า พรรคการเมืองจะให้พูดเป็นเสียงเดียวกันทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ในระบอบประชาธิปไตย เห็นต่างเป็นเรื่องธรรมดา แม้แต่ในพรรคเพื่อไทยเอง บางทีที่ประชุมเราพูด ก็มีคนเห็นต่าง แต่ที่สุดท้ายมติพรรคเป็นอย่างไร เราก็เอาแบบนั้น อาจจะมีบางท่านไม่สบายใจก็ไม่เป็นไร เราจะไปบังคับให้พรรคอื่นเห็นด้วยทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ก็มีบางอย่างที่เห็นตรงกัน แต่อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมือง เราพร้อมที่จะทำ อย่าง พ.ร.บ.กลาโหม พูดกันว่าทุกสมัย ทางสภากลาโหมก็อยากแก้ไขแต่อันไหนที่มันมากไป รัฐมนตรีเขาก็ยังไม่เอาผ่าน ครม.มา ซึ่งตนทราบว่า รมว.กลาโหม ได้ส่งกลับไปแล้วให้พิจารณาใหม่ ก็ขอให้รออีกนิดหนึ่ง บางพรรคการเมืองอาจจะยังไม่เห็นร่างของพรรคเพื่อไทย ก็เลยไม่สบายใจ แต่ต้องมาพูดจากัน เพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน

โลกเปลี่ยน-ไม่มีใครหนุนรัฐประหาร

เมื่อถามว่า ประเด็นนี้มีคนไปขุดเรื่องการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ที่เคยรณรงค์ต่อต้านรัฐประหาร นายวิสุทธิ์ ย้อนทันทีว่า พรรคการเมืองไหนก็ต่อต้านรัฐประหาร ไม่มีใครเอาด้วย ไม่มีใครอยากให้มีรัฐประหาร วันนี้ก็เป็นนโยบายของนักการเมืองทั้งหลาย บ้านเมืองมันไปไกลแล้ว เราจะกลับมาอยู่แบบ 20 ปีก่อน ก็คงไม่ใช่ และใครก็อย่าสร้างปัญหาให้ประเทศชาติ เกิดชุมนุมทางการเมืองใหญ่โต สร้างความเดือดร้อนบาดเจ็บล้มตาย ไม่อย่างนั้นทหารก็คงต้องออกมา เพราะฉะนั้น อย่าไปจุดประเด็นให้เกิดปัญหาอีก วันนี้มีปัญหาอะไรขอให้มาคุยกันที่สภา พรรคไหนไม่พอใจก็มาคุยกันที่สภา ยื่นญัตติยื่นกระทู้ได้ทุกอย่าง สภาเป็นทางออกของทุกพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องใช้อะไรรุนแรงแบบในอดีต ต่อไปนี้คนไทยต้องคิดไปถึงวันพรุ่งนี้ อนาคตของประเทศชาติต่อไปอย่างไร

‘ธนกร’ซัด‘ปิยบุตร’เลิกเสี้ยมขย่มทหาร

นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์โจมตีนักการเมืองที่ออกมาประกาศไม่เอาร่าง พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหมว่าไม่ให้ความสำคัญกับเสียงของประชาชน ฟังแต่ชนชั้นนำนั้น ว่ามองถึงเจตนาเบื้องลึกของนายปิยบุตร พยายามใช้วาทกรรมสร้างความแตกแยกให้ประชาชนเข้าใจผิดๆ ต่อนักการเมือง ผู้แทนราษฎรและเชื่อมโยงให้ถึงชนชั้นนำที่คนไทยทุกคนต่างทราบดี ว่าหมายถึงบุคคลระดับสูง ซึ่งเป็นสิ่งที่นายปิยบุตรมักแสดงออกลักษณะนี้มาโดยตลอด มองว่าเป็นเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ จึงเรียกร้องให้หยุดพฤติกรรมยุแยงสร้างความแตกแยกในสังคมเสียที โดยยืนยันว่า ผู้แทนราษฎรต้องรับฟังเสียงของประชาชนเป็นใหญ่ พิจารณากฎหมายที่เกิดประโยชน์ต่อภาพรวมประเทศและยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ซึ่งใบอนุญาตจากชนชั้นนำตามที่นายปิยบุตรออกมากล่าว อ้างนั้น ล้วนแต่ไม่เป็นความจริง

นายธนกร กล่าวอีกว่า ร่าง พรบ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่…) พ.ศ.… เป็นกฎหมายที่มีความสำคัญ เพราะกองทัพถือเป็นสถาบันหลักของชาติที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทุกมิติ หากจะแก้ไขเพื่อสามารถให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปแทรกแซงการเปลี่ยน แปลงองค์ประกอบของสภากลาโหมที่มีอำนาจในการแต่งตั้งตำแหน่งหลักในกองทัพได้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ เปรียบเทียบกับคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ให้อำนาจพิจารณาแต่งตั้งตำแหน่งสำคัญโดยไม่ต้องนำรายชื่อเข้าขอเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เช่นเดียวกับสภากลาโหม

ยืนยันไม่มีใบสั่งจากชนชั้นนำ

“มติ รทสช.มีจุดยืนชัดเจน ไม่เห็นด้วยที่จะให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงกระทรวงกลาโหม เพราะหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทั้งทหารและตำรวจ ควรปราศจากการเมืองเข้าไปล้วงลูกทุกกระบวนการ เหตุผลที่จะแก้ไขเพื่อป้องกันรัฐประหารนั้นตนมองว่า หากรัฐบาลหรือใครก็ตามทั้งทหาร ตำรวจ กระทำความผิดก็ไม่สามารถอยู่ในตำแหน่งได้ การแก้กฎหมายจึงป้องกันการรัฐประหารไม่ได้ ส่วนการที่ นายปิยบุตร ออกมาพูดให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิด เชื่อมโยงไปถึงชนชั้นนำ เป็นการเบี่ยงประเด็นเพื่อโจมตีทุกฝ่ายให้เกิดความแตกแยก เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง” นายธนกร กล่าว

‘วราวุธ’ไม่เอากม.สกัดรัฐประหาร

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวถึง ร่างพ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่นายสุทิน คลังแสง อดีต รมว.กลาโหม เป็นผู้เสนอ ที่คงอำนาจให้นายกฯสั่งพักราชการคนที่ทำรัฐประหาร ว่า ตนมีความเห็นต่าง ซึ่งการเสนอกฎหมายควรมีการพูดคุยกันก่อน ทางพรรคชาติไทยพัฒนาเห็นว่า กฎหมายที่มีอยู่ปัจจุบันนั้น เหมาะสมแล้ว หากฝ่ายการเมืองไม่ได้สร้างเงื่อนไขให้เกิดความซับซ้อนทางการเมือง ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะมีการเคลื่อนตัวของทางทหาร และคิดว่า กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันมีการปฏิบัติกันมาช้านาน จึงไม่เห็นถึงความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่ได้หารือกัน แต่ถ้านัดหารือกันเมื่อใด ก็จะนำเสนอความเห็นในมุมมองของพรรค ซึ่งเชื่อว่า พรรคภูมิใจไทย และพรรครวมไทยสร้างชาติ ก็ได้เสนอความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทุกคนก็ตกใจ เพราะยังไม่เคยมีการพูดคุยกันมาก่อน