ฟังแค่นายกฯอิ๊งค์คนเดียว
‘อนุทิน’ไม่สน‘แม้ว’
หลังโชว์ห้าวเฉ่งพรรคร่วม
ปัดเคลียร์ใจ/ขอเร่งทำงาน
ฝ่ายค้านสบช่องถ่างแผล
สับเละรัฐบาลกำลังจะพัง
“อนุทิน” ไม่ให้ราคาน้ำลายเทวดา “ทักษิณ” ที่โชว์ห้าวขู่ตะเพิดพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำไม่มีการเคลียร์ใจ ระบุขอฟังแค่นายกฯอิ๊งค์คนเดียว ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล “ท็อป” ร้อนตัวยันเป็นเด็กดีเข้าประชุมครม.ทุกครั้งไม่เคยทิ้งกลางคัน ด้านฝ่ายค้านได้ทีตามถ่างแผลตีปี๊บรัฐบาลใกล้จะพัง
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณ พรรคเพื่อไทย กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อไทยความตอนหนึ่งตำหนิพรรคร่วมบางพรรค หนีประชุมพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศนั้น
โดยกล่าวว่าไม่น่าจะหมายถึงตน หรือพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากในวันดังกล่าว ตนได้เข้าพบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการและไม่ทราบว่ามีการเลื่อนการประชุม เป็นวันพุธที่ 11 ธ.ค.เนื่องจากปกติการประชุมคณะรัฐมนตรีจะประชุมทุกวันอังคาร
“โดยระหว่างพบแพทย์เพื่อทำการตรวจนั้นนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์ เพื่อตามให้เข้าประชุม เนื่องจากมีการพิจารณากฎหมายสำคัญซึ่งหลักจากตรวจเสร็จก็รีบเข้าประชุม ครม.ทันที อีกทั้ง รัฐมนตรีหลายคนของพรรคก็เข้าร่วมประชุมในวันนั้น เว้นแต่ผู้ที่ติดภารกิจราชการจึงไม่อยากให้เชื่อมโยงมาถึงพรรคภูมิใจไทย”นายอนุทิน ย้ำ
ไม่สนใจน้ำลาย”ทักษิณ”
เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณพูดในลักษณะนี้ ถือเป็นการส่งสัญญาณถึงพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “พรรคภูมิใจไทยรับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เพราะนางสาวแพทองธาร คือ หัวหน้ารัฐบาล”
“ท่านทักษิณพูดถึงพรรคที่ไม่เข้าร่วมประชุม ผมก็ไม่นำพาไปฟังอะไรมาก เพราะผมก็ไปร่วมประชุม“ นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามอีกว่าจะต้องพูดคุยทำความเข้าใจกันหรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า“ผมพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีเป็นประจำอยู่แล้ว นายกฯแพทองธาร เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีอะไรก็ต้องหารือนายกฯแพทองธารอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า จะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหลังจากนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาต่อกันอยู่แล้ว และจากนี้ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร ซึ่งการร่วมรัฐบาลต้องทำงานร่วมกันเป็นไฟต์บังคับ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน
‘ภูมิธรรม’ตีมึนไม่รู้หมายถึงใคร
ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมให้สัมภาษณ์กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พูดบนเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทย (พท.) เรื่องพรรคร่วมรัฐบาลลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงกฎหมายสำคัญเป็นการส่งสัญญาณไม่ให้พรรคร่วมแตกแถวใช่หรือไม่ว่า ตนไม่ทราบว่านายทักษิณเตือน หรือไม่เตือน เพราะท่านไม่ได้มีบทบาทหน้าที่เกี่ยวข้อง แต่เมื่อท่านพูดมา เราก็รับฟังว่าเป็นอย่างไร ถือเป็นความเห็นของผู้มีอาวุโสทางการเมืองที่จะเห็นว่าวิธีการเช่นนี้มีความเหมาะสมหรือไม่ ก็วิพากษ์วิจารณ์มา เพราะท่านเป็นบุคคลที่ติดตามการเมือง
เมื่อถามว่าหากไปดูรายชื่อของครม.ที่ลาประชุมในวันที่11ธ.ค.ซึ่งมีการพิจารณาร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.)ภาษีส่วนเพิ่ม (Pillar2) ส่วนใหญ่เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย(ภท.) จะถือว่าเป็นการเตือนไปในตัวหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า “ผมไม่มั่นใจว่าเป็นพรรคภูมิใจไทยทั้งหมดหรือไม่เพราะวันนั้นมีครม.ติดภารกิจหลายคน แต่สักครู่ก็เห็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทยเข้ามาประชุม จึงไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร เพิ่งมาเอะใจก็ตอนที่ได้ฟัง แต่คิดว่าไม่มีอะไร เพราะเห็นนายอนุทินมานั่งประชุมตามปกติ”
เมื่อถามย้ำว่า นายทักษิณระบุด้วยว่ามีการแกล้งป่วย และวันนั้นนายอนุทินได้ลาไปพบแพทย์พอดี จะหมายความถึงนายอนุทินหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “น่าจะถามผิดคนนะ คงต้องไปถามท่านทักษิณว่ามีความเห็นอย่างไร ผมยังไม่ทราบรายละเอียด” เมื่อถามอีกว่า พรรค พท.กับพรรค ภท. ยังสามารถทำงานร่วมรัฐบาลกันได้ต่อหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไปต่อกันได้ ไม่ได้มีปัญหาอะไร
พท.ชี้ ต้องร่วมหัวจมท้าย
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคที่ไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานกรณีการพิจารณาร่างพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)ภาษีส่วนเพิ่ม (Pillar2)จะส่งผลต่อการทำงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ว่า ไม่มี จริงๆ เป็นเหมือนกับผู้ใหญ่ที่มีการพูดถึง และเราก็รับฟังไว้ แต่การทำงานทั่วไป ไม่มีปัญหาแน่นอน
เมื่อถามว่าการที่ออกมาบอกว่าเอาตำแหน่งไปแล้ว กลับไม่ทำงานตามที่คุยกัน สะท้อนอะไรได้บ้าง นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่สะท้อนให้เราเห็นว่าการทำงานต้องไปด้วยกัน ไปแนวทางเดียวกัน เมื่อเป็นคณะรัฐมนตรีควรจะร่วมหัวจมท้ายด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่มีการพูดถึงขึ้นมา แต่ภาพรวมแล้วพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนเข้าใจดี และพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ไปด้วยกัน
เมื่อถามว่าสัญญาณนี้ส่งถึงพรรคไหนนายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่ทราบเลยวันที่นายทักษิณ พูดถึงนั้นคือวันที่ประชุมครม. ตนก็เข้าใจว่ามีการลาประชุมหลายท่าน แต่หลายท่านก็มีภารกิจลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อจะไปฟื้นฟูสถานการณ์น้ำท่วม ย้ำว่าจะไม่มีอะไร อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่หวังดีและเตือนมา
เมื่อถามว่า ต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจในการทำงานร่วมกันใหม่หรือไม่นายสรวงศ์ กล่าวว่านายกฯมีเชิญคุยพรรคร่วมในฐานะหัวหน้าพรรคทุกเดือนอยู่แล้ว ครั้งสุดท้าย ก็น่าจะประมาณเดือนกว่าๆแล้ว ในเร็วๆ ก็คงจะมีการนัดรับประทานอาหารกัน และคงได้มีการพูดคุยกัน เมื่อถามว่า ยังเชื่อว่าพรรคร่วมจะไปด้วยกันได้ดีใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า แน่นอน ไม่ต้องห่วง รับประกันได้ว่าครบเทอม
สัมพันธ์พรรคร่วมฯไร้ปัญหา
เมื่อถามว่ามันสะท้อนการทำงานว่าไม่ได้ร่วมมือแข็งแรงเหมือนเมื่อก่อนหรือไม่นายสรวงศ์ กล่าวว่า เราก็เหมือนเป็นคนทำงาน บางทีคนข้างนอกมีการติงมา มีการพูดถึงมา เราก็ต้องรับฟังไว้ ทั้งภาคประชาชนและทุกภาคส่วน ถ้ามีอะไรพูดถึงรัฐบาลเราก็ต้องฟังไว้ เมื่อถามอีกว่าในอนาคตหากรัฐบาล มีวาระบางอย่างที่อยากทำ จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ และจะสามารถทำจนสำเร็จได้หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในครม.ไม่ได้มีปัญหาอะไร ทุกส่วนคุยกันอยู่แล้ว และในสภาฯ ก็มีวิปรัฐบาลอยู่แล้ว ทุกพรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็คุยกันอยู่แล้ว มีปัญหาอะไรก็คุยกันนอกรอบก่อน ทำความเข้าใจให้ตรงกันและประสานงานต่อไป
‘เพื่อไทย’ปิดสัมมนาที่หัวหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลา 10.00 น.ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคเพื่อไทยปิดการสัมมนา โครงการเสริมศักยภาพ สส.และบุคลากรทางการเมือง โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้มอบหมาย ให้ นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคพรรคเพื่อไทยกล่าวปิดการสัมมนาแทน เนื่องจากติดภารกิจที่กรุงเทพฯทำให้ น.ส.แพทองธาร พร้อมครอบครัว ชินวัตร ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อนกำหนด
ทั้งนี้ นายสรวงศ์ กล่าวว่าตนได้รับมอบหมายจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกคน สำหรับ ตนในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการขอบคุณทุกคนจากใจที่ร่วมมือกันทำงานอย่างขะมักเขม้น แข็งขัน
แบรนดิ้งชู’โอกาสเพื่อไทย’
ส่วนสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในปี 2568 เรามีแบรนดิ้งใหม่“โอกาสเพื่อไทย”ซึ่งย่อมาจาก“โอกาสเพื่อคนไทย” คำนี้ ถ้าใครอยู่ในการเมืองกับพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่แรก คำว่า“โอกาส”สำคัญขนาดไหน ตนเข้ามาในวงการการเมืองตั้งแต่ ไทยรักไทย ได้ยินคำนี้แล้วรู้สึกว่า มันเป็นคำง่ายๆ แต่เป็นสิ่งที่พวกเราต้องการหยิบยื่นให้พี่น้องประชาชน ตนมั่นใจว่าสส.ส่วนใหญ่ที่เป็นตัวแทนประชาชนในพื้นที่ทราบดีว่า คำว่า โอกาสสำคัญแค่ไหน โอกาสของคนเราไม่เท่ากัน นี่คือ สิ่งที่เป็นหน้าที่หลักของผู้แทนราษฎรจะหยิบยื่นโอกาสให้ประชาชนได้แสดงถึงศักยภาพตัวเอง ทั้งนี้ เรามีแบรนดิ้งใหม่“โอกาสเพื่อไทย”และเราจะใช้ที่ทำการพรรคแห่งใหม่คือ อาคารวอยซ์ ทีวี เดิม ถนนวิภาวดีรังสิต ในการประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันที่ 17 ธันวาคมนี้
นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ต้องขอขอบคุณนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ที่ทำหน้าที่ได้อย่างดี เพราะหน้างานไม่ใช่เรื่องง่าย มีบางสถานการณ์อาจมีคนไม่พอใจบ้าง แต่ตนขอรับไว้เพียงผู้เดียว เมื่ออยู่หน้างานแล้วมันไม่ง่าย ทุกสิ่งทุกอย่างต้องตัดสินใจปัจจุบันทันด่วน บางการตัดสินใจอาจจะผิดพลาดไปบ้าง ไม่ถูกใจบางคนบ้าง ก็ต้องขออภัย แต่ขอให้มั่นใจว่าพวกเราทุกคนตั้งใจทำเพื่อประชาชน และทำให้พรรคเพื่อไทยเข้มแข็ง ทั้งนี้ อดีตนายกรัฐมนตรีของเราบอกว่า เราจะกลับมายิ่งใหญ่ ซึ่งตนมั่นใจ เพราะเรามีจุดแข็งของเรา อย่าทิ้งจุดแข็งของเราคือประชาชน ไม่มีใครจะทำงานเหมือนพรรคเพื่อไทยแน่นอน ที่จะทำงานออนกราวด์ติดกับประชาชน
ลั่นต้องกลับเป็นพรรคอันดับ1
“เราอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวครอบครัวเพื่อไทย ไม่เคยหายไปไหน เมื่อหัวหน้าครอบครัว มาเป็นหัวหน้าพรรคและปฏิบัติหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีก็ต้องการให้พวกเราเป็นแบบครอบครัวจริงๆสิ่งสำคัญที่สุดคืออยากให้พวกเรามั่นคงกับสิ่งที่เป็นอุดมการณ์ทางการเมืองของพวกเราไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยต้องกลับมาเป็นพรรคอันดับ1ของประเทศ จริงใจและอยู่ในใจพี่น้องประชาชนต่อไป”เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว
‘ท็อป’ร้อนตัว แจงไม่เกี่ยวชทพ.
ที่จ.เชียงใหม่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวบนเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทยว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่เข้าร่วมประชุม โดยอ้างว่าป่วยและบอกว่าแบบนี้ไม่ใช่เลือดสุพรรณอยู่ด้วยกันก็ต้องพูดกันว่า“กรณีที่มีข่าวว่าท่านทักษิณพูดในที่ประชุมของพรรคเพื่อไทยระบุการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 ธันวาคมมีบางพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีรัฐมนตรีบางคนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ครม.นั้น เชื่อว่าไม่ได้หมายถึงตัวผม ถึงแม้ว่าท่านจะพูดถึงว่า ไม่ใช่เลือดสุพรรณ เพราะตัวผมเองนั้นอยู่ในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่ต้นจนจบ ทุกวาระก็อยู่ด้วยตลอด
“ที่สำคัญตัวผมเองนี้เลือดสุพรรณร้อยเปอร์เซ็นต์ เรามาด้วยกัน ก็มาด้วยกัน เลือดสุพรรณเอ๋ย การทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่ครั้งของพรรคชาติไทย เมื่อเราร่วมทำงานกับใครแล้ว เราอยู่กันตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีทิ้งกันกลางคันเด็ดขาด ดังนั้นเชื่อว่าท่านทักษิณไม่ได้หมายถึงตัวผม“ นายวราวุธ กล่าว
‘ฝ่ายค้าน’กังขาใครนายกฯกันแน่
นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในการสัมมนาพรรคเพื่อไทยความตอนหนึ่งตำหนิพรรคร่วมบางพรรคหนีประชุมพระราชกำหนด(พ.ร.ก.)เกี่ยวกับมาตรการทางภาษีระหว่างประเทศว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าใครเป็นตนจัดตั้งรัฐบาล คงต้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปราม ที่ปรึกษาบ้าง การทำหน้าที่ ที่ปรึกษาก็ควรให้คำแนะนำและให้นายกฯมาแสดงความเห็นออกมา หากให้ที่ปรึกษาชิงความเป็นผู้นำไปหมด ประชาชนจะสับสนว่าตกลงแล้วใครเป็นนายกฯกันแน่ คำพูดที่ออกมาจะกระทบไปถึงพรรคร่วมพรรคใดก็แล้วแต่ ก็มีสัญญาณที่ออกมาว่าท่านขึงขังเวลาตำหนิติเตียนพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นพรรคเล็ก แต่พรรคไหนที่ท่านต้องพึงพาอาศัย ท่านก็ได้แค่พูดอ้อมๆ ซึ่งบ่งบอกแล้วว่าความแข็งแกร่งความมั่นคงของท่านอยู่ไหน และท่านกลัวอะไรอยู่
“อยากฝากไปถึงนายกฯว่าวันนี้ที่ปรึกษา หรือพ่อของท่าน อยากให้คำปรึกษาอะไรก็ต้องให้คำปรึกษาแก่ตัวท่านเอง และท่านก็ออกมาสื่อสารว่าในฐานะผู้นำ จะมีความเห็นอย่างไรที่พรรคร่วมหนีหายไม่อยากเข้าร่วมเป็นองค์ประชุม เนื่องจากกลัวความสุ่มเสี่ยงอะไรก็แล้วแต่ ทั้งหมดควรออกมาจากปากนายกฯ ถ้าที่ปรึกษาหรือพ่อ ชิงความเป็นผู้นำไปหมด ท่านนายกฯเองก็จะขาดความเป็นผู้นำ เหตุการณ์ครั้งนี้ จึงอยากให้ท่านนายฯเตือนที่ปรึกษาบ้าง”นายณัฐชากล่าว
ชี้เสถียรภาพรัฐบาลไม่สู้ดีนัก
เมื่อถามว่าเรื่องดังกล่าวสามารถประเมินเสถียรภาพรัฐบาลได้หรือไม่ นายณัฐชากล่าวว่า วันนี้ถือว่าย้ำชัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม(ฉบับที่…)ที่เสนอโดยนายประยุทธ์ ศิริพาณิชย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ประกาศไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ด้านนายทักษิณก็ให้สัมภาษณ์ว่าอาจจะพูดเร็วไปหน่อย พรรคภูมิใจไทยรีบหล่อเร็วไปนิด หล่อช้าๆอีกนิดก็ได้ ถือเป็นการบ่งบอกที่อาจจะมีความรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง ประกอบกับการพูดของนายทักษิณ เมื่อวานนี้ ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า เสถียรภาพของรัฐบาลในขณะนี้ไม่สู้ดีนัก
เมื่อถามว่าการที่นายกฯไปร่วมสัมมนากับพรรคเพื่อไทยในช่วงที่วิกฤตอุทกภัยในภาคใต้ยังวิกฤตอยู่เหมาะสมหรือไม่นายณัฐชากล่าวว่าไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์เพราะอยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละบุคคล บ้างคนมองว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็ไม่มีปัญหา อย่าไปว่าท่านายกฯมากเพราะท่านเป็นนายกฯของประเทศไทย ท่านควรจะทราบว่าอะไรควรไม่ควรอยู่แล้ว อีกอย่างคนที่อยู่รายล้อมก็เป็นผู้มากประสบการณ์อยู่ในหลายรัฐบาล ก็น่าจะให้คำแนะนำได้
คปท.จับตาท่าที’อนุทิน-พีระพันธุ์’
ขณะที่ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.)โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า เอาอย่างไร รองนายกฯ 2 ท่าน 2 พรรค จะเอาอย่างไร ทักษิณ พูดถึงการลาประชุม ครม. ถ้าครั้งหน้า ก็ให้ยื่นใบลาออกมาด้วย ประเด็นไม่ใช่อยู่แค่ครั้งที่ผ่านมา แต่น่าสนใจ ที่ เพื่อไทย พยายามดัน นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เข้าเป็นประธานบอร์ดแบงค์ชาติ แต่ติดปัญหาที่คุณสมบัติ แว่วๆจากทำเนียบมาว่า คุณอนุทิน และ คุณพีระพันธุ์ 2 รองนายกฯก็ทราบว่า หาก ครม.รับรอง นายกิตติรัตน์ อาจจะมีปัญหาทั้ง ครม. โดยเฉพาะ รองนายกฯพีระพันธุ์ ซึ่งเป็นนักกฎหมาย ทราบเรื่องนี้ดี ชื่อนายกิตติรัตน์ จึงค้างอยู่ไม่ได้เข้า ครม.ซักที ทักษิณ พูดที่หัวหิน จึงส่งผลต่อการประชุม ครม.เพื่อรับรอง นายกิตติรัตน์ แน่นอน
“ 2รองนายกฯ จะกล้าหนีการประชุมในวาระ ดัน นายกิตติรัตน์ เข้า ครม.หรือไม่ น่าสนใจ เพราะถ้าอยู่ก็เลือดสุพรรณ ตายหมู่ ไม่อยู่ ก็ยื่นใบลาออกให้ เจ้าของร้านมาม่า ที่เปิดร้านจันทร์ส่องหล้า ให้หลายท่านไปกินเส้นกันมาแล้ว งานนี้ น่าจับตามองอนาคตพรรคร่วม สงสัยมาม่าเส้นจะหมด คงได้ซดเกาเหลากันแทน”นายพิชิตระบุ
‘สมชัย’เหน็บ‘แม้ว’พูดเหมือนเป็นหน.
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กระบุว่า “ติดตามการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่ใช้งบสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองของกกต.แล้ว มีหลายอย่าง น่าสนใจ คุณอุ๊งอิ๊ง กล่าวเปิดการสัมมนา ในฐานะหัวหน้าพรรคได้ดี เป็นธรรมชาติ ผ่อนคลายและกระชับ ให้ 10 เต็ม คุณเศรษฐากล่าวยาว แต่ฟังจับใจความยาก เพราะไมค์ไม่ดี หรือถือไมค์ห่างจากปากมาก แต่มีเสียงหัวเราะ จากที่ประชุมเป็นระยะๆ ฟังความได้เพียงว่า ให้กำลังใจนายกฯคนปัจจุบัน ไม่รู้จะให้คะแนนอย่างไร คุณทักษิณมาในฐานะวิทยากร ให้ความรู้ดี เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกที่คนไทยและผู้บริหารประเทศต้องตามให้ทัน โดยเฉพาะในเรื่องเงินตราสกุลใหม่ คริปโตเคอร์เรนซี่หรือเงินในอากาศธาตุ รวมถึงมาขยายในส่วน ที่ลูกสาวนำเสนอในโอกาสครบ 90 วันทำงานแล้วยังสั้นไปหรือไม่ชัดเจน หรือพูดแล้วไม่รู้เรื่องให้ชัดเจนขึ้น เรื่องความรู้ให้คะแนน9.5 เต็ม 10
“วิทยากรทักษิณ พูดราวเป็น หัวหน้าพรรค ตำหนิพรรคร่วมรัฐบาลที่เดินออกจากที่ประชุมครม.ในวาระที่เพื่อไทย เสนอกฎหมายสำคัญ พร้อมท้าทายว่า ให้ลาออกไป หากมีพฤติกรรมแบบนี้ มีการข่มขู่ ผู้ร้องศาลกรณีชั้น 14ว่าจะฟ้องกลับ และกระแนะกระแหนใครไม่รู้ ที่เคลื่อนไหวต่อต้านเขาว่า เอาเงินมาจากไหนเลี้ยงภรรยา 3 ลูก 5 ในส่วนทัศนคติ มารยาททางการเมืองและการรู้ขอบเขตหน้าที่ตนเองที่เหมาะสม ให้ 0 เต็ม 10 ส่วนที่มีใครพาครอบครัวยกโขยงไปร่วมสัมมนา คาดว่าคงใช้เงินส่วนตัวสมทบ ไม่เป็นการเบียดบังงบประมาณที่ กกต.จัดสรรให้ มิเช่นนั้น อาจถูกร้องว่า ใช้งบผิดวัตถุประสงค์ ไกลถึงยุบพรรคได้”นายสมชัย กล่าว
อดีตพท.เตือนระวังซ้ำรอย/คุกรออยู่
ด้าน นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า ฟังนโยบาย “บ้านเพื่อคนไทย” นึกถึงนโยบาย “บ้านเอื้ออาทร” นโยบายดี แต่มีปัญหาทุจริตเชิงนโยบาย จนรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องติดคุกกันไปหลายคน หวังว่าประวัติศาสตร์จะไม่ซ้ำรอยอีกนะครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี