‘อนุทิน-เนวิน’ใช้สิทธิเลือกตั้ง‘เทศบาลนครบุรีรัมย์’ ยันไม่ส่งคนลงแข่ง อบจ.ทุกจังหวัดในนามพรรค ชี้เป็นจุดยืนของพรรคอยู่แล้ว จะส่งแข่งสนามเลือกตั้งใหญ่เท่านั้น ชี้ความรุนแรงที่‘ปราจีนบุรี’เป็นความขัดแย้งส่วนตัว

15 ธันวาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด และนางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน ชิดชอบ เดินทางไปใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครบุรีรัมย์ และนายกเทศมนตรีนครบุรีรัมย์ หลังจากได้ยกฐานะเป็นเทศบาลนครบุรีรัมย์ครั้งแรก มีผลเมื่อวันที่ 31 ต.ค.67 ที่ผ่านมา โดยนายอนุทิน , นายเนวิน และนางกรุณา ใช้สิทธิ์ลงคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งที่  5 ของเขตเลือกตั้งที่ 3 ศาลากลางหมู่บ้านไทยเจริญ เทศบาลนครบุรีรัมย์ อ.เมือง เนื่องจากมีรายชื่อเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอยู่ในเขตเลือกตั้งเทศบาลนครบุรีรัมย์

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ ภายหลังใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญเพราะทุกวันนี้เรากระจายอำนาจการบริหาร ให้ทางท้องถิ่นได้มีการบริหารจัดการในจังหวัด ในอำเภอ ในเทศบาลต่างๆ ด้วยตนเอง ซึ่งในการของบประมาณต่างๆ ทางท้องถิ่นก็สามารถขอโดยตรงไปที่สำนักงบประมาณไม่ต้องผ่านกระทรวงมหาดไทย   เพราะฉะนั้นถ้าพี่น้องประชาชนเลือกผู้นำท้องถิ่นที่ทำงานให้กับเขาได้ และเลือกคนที่ทุ่มเทให้กับพวกเขาประโยชน์ทั้งหลายก็จะเกิดกับพี่น้องประชาชน  ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงมหาดไทยใฝ่ฝันที่จะทำมาโดยตลอด ก็เริ่มกระจายอำนาจการปกครองไปยังท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมให้มากขึ้น

สำหรับเทศบาลนครบุรีรัมย์ มีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ในหลายๆด้าน  ถ้าได้คนดี คนที่รัก และทุ่มเท ทำเพื่อจังหวัดบุรีรัมย์ ให้เจริญรุ่งเราองในทุกมิติ ทั้งมิติการท่องเที่ยว  เศรษฐกิจ  การศึกษา  การกีฬา และมิติทางสังคม ทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนก็จะถูกยกระดับขึ้น  จึงมีคำว่าบุรีรัมย์โมเดล    จากเมื่อก่อนอาจจะถูกมองว่าเป็นเมืองเล็กๆ เมืองรอง หรือเมืองผ่าน  แต่ปัจจุบันบุรีรัมย์ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีความเจริญก้าวหน้า  มีของดีมากมาย  จนถูกยกให้เป็นเมืองท่องเที่ยว   ทั้งยังสอดรับกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของนายกรัฐมนตรีด้วย  บุรีรัมย์จึงเป็นอีกหมุดหมายที่นักท่องเที่ยวต้องเดินทางมาเที่ยว 

ทั้งนี้ การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ต้องกำชับอะไรเจ้าหน้าหน้าที่อยู่แล้ว   เพราะทุกคนวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว ข้าราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเรื่องการเลือกตั้ง  ต้องวางตัวเป็นกลาง แต่กระทั่งตัวเองที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทำทรวงมหาไทย   ก็ไม่สามารถที่จะช่วยคนที่เป็นพรรคพวกกันหาเสียง  ยกเว้นส่งกำลังใจเท่านั้น

ส่วนเรื่องความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น  นายอนุทิน  ย้ำว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นไม่มีความรุนแรงแน่นอน  แต่เป็นการแข่งขันกันในการรับใช้พี่น้องประชาชน   ส่วนเรื่องของที่มันเกิดขึ้น วัฒนธรรมบ้านใหญ่ไม่มีน่าจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัว  ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพี่น้องประชาชนไม่ต้องไปกังวล ก็ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งตามปกติ

เมื่อถามว่าในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จะส่งคนในสังกัดพรรคลงแข่งในสนามเลือกตั้ง อบจ.หรือท้องถิ่นหรือไม่  นายอนุทิน   ก็ยืนยันว่า ไม่มีการส่งคนลงชิงเก้าอี้ในนามพรรคภูมิใจไทยแน่นอน   ท้องถิ่นเป็นเรื่องของท้องถิ่น  เราต้องปล่อยให้คนที่จะทำงานท้องถิ่นกับพี่น้องประชาชนใกล้ชิดกันให้มากที่สุด ไม่เอาเรื่องของพรรคการเมืองมาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นจุดยืนของพรรคภูมิใจไทย  อาจจะไม่เหมือนพรรคอื่น  ก็ไม่มีใครถูกไม่มีใครผิดแต่เราเลือกที่จะเดินทางนี้  เพราะเราต้องการให้ประชาชนกับผู้ที่เสนอตัวมาเป็นผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความใกล้ชิดกันเต็มที่ ทางพรรคก็จะส่งคนลงแข่งสนามใหญ่อย่างเดียวคือสภาผู้แทนราษฎร