พท.แจงนิ่มๆ-ซัดพรรคร่วมไม่ได้เจาะจงใคร
รุมป้อง‘นายใหญ่’
‘วิสุทธิ์’ยอมรับกังวลม็อบลงถนน
รทสช.ยันร่วมครม.พร้อมหนุนก.ม.
‘ภูมิธรรม’เมินโพลล์ชี้รบ.สอบตก
โวปีหน้าเห็นผลงานรัฐบาลชัดเจน
“ภูมิธรรม” ไม่นอยด์ หลังผลโพลล์ ปชช.ไม่เชื่อมั่นแก้ศก.บอกเวลา 3 เดือนน้อยไปที่จะประเมิน โวปีหน้าผลงานดีๆ ออกมาแน่นอน “นายกฯ” ขอบคุณทางการมาเลเซียที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมเทียบเชิญเยือนไทยอย่างเป็นทางการก่อนร่วมประชุมความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ความเชื่อมโยง และสันติภาพในภูมิภาค ‘บิ๊กป้อม’ไม่ร่วมดินเนอร์ ฝ่ายค้าน ‘อนุสรณ์’มั่นใจนโยบายรบ.กระตุ้นศก.ได้แน่ เชื่อมาถูกทางแล้ว ด้าน‘ไพบูลย์’ยัน พปชร.ส่งตัวแทน ‘เทพไท’ฟันฉับ90วันรัฐบาล‘อิ๊งค์’สอบตก ชี้ขุดดินขายคือนโยบายตลกที่สุด
เมื่อวันที่ 16ธันวาคม2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีผลสำรวจของสถาบันสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่ระบุว่า “3เดือน รัฐบาลแพทองธาร” ประชาร้อยละ54.99ไม่เชื่อมั่นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล ว่า ตนมองว่าถามเฉพาะบางข้อไม่ได้ แต่ต้องดูผลโพลทั้งระบบ และจริงๆหากดูทุกข้อเป็นบวกมากกว่าเป็นลบ การที่ยังบอกว่าไม่เชื่อมั่นคือไม่มั่นใจ ซึ่งขณะนี้รัฐบาลเพิ่งทำงาน3เดือน ผลงานทางด้านเศรษฐกิจเรื่องดิจิทัลวอลเล็ตที่ประชาชนพอใจมาก และอีกหลายเรื่องที่เชื่อมั่น ดังนั้น การที่ยังไม่เชื่อมั่นและผลออกมามากกว่าร้อยละ50ที่หมิ่นเหม่ แบบนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าดูทั้งระบบความไม่เชื่อมั่นเกิดขึ้นจากสภาพการทำงานที่ยังมีเวลาน้อยไป บางที3เดือนยังไม่ทันทำอะไรที่เป็นผลงานออกมา ทำได้เพียงเริ่มต้น ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำต่อไป ผมคิดว่าเวลาน้อยไปที่จะถามคำถามนี้ แต่ก็เป็นการถามเพื่อเป็นแนวให้รู้ว่า ประชาชนยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลได้ทำอะไรไปบ้าง เขาก็จะรอดู แต่เขาไม่ได้ปฏิเสธว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ไม่มีความสามารถ ดังนั้น หากดูโดยรวมไม่มีปัญหาอะไร ถ้าดูโดยรวมผลออกมาเป็นบวกทั้งหมดจึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจ อย่าไปหยิบเฉพาะบางเรื่องบางส่วนมาถาม เพราะจะมองไม่เห็นภาพรวมทั้งหมด
‘ภูมิธรรม’โวปีหน้าเห็นผลงานชัดเจน
เมื่อถามว่า ปี2568 จะต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจก่อนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาหลักคู่กับปัญหายาเสพติดและระบบน้ำ เพราะระบบน้ำก็เกี่ยวพันกับระบบเศรษฐกิจ หากเราทำให้พี่น้องประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งตนเคยบอกแล้วว่าปัญหาความหมักหมมของระบบเศรษฐกิจไทยมีมายาวนานว่า10ปีแล้ว ขณะนี้เรากำลังดึงมันขึ้นมา ซึ่งรัฐบาลทำแบบลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส ซึ่งจะเห็นได้ อย่างโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เราอยากทำตั้งแต่แรก มันก็ยังไม่ได้ทำเพราะขาดความเข้าใจกัน แต่รัฐบาลนี้ใช้ความร่วมมือ และการรับฟังจากทุกฝ่ายในการแก้ปัญหา แม้จะช้าไปแต่เราก็รีบทำ จะเห็นว่าดิจิทัลวอลเล็ตกำลังจะหมด และมีระลอกใหม่ที่เรากำลังจะดำเนินการอีกหลายเรื่อง เมื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจเสร็จ เราจะแก้ปัญหาระบบน้ำทั้งระบบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร และช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกรมากขึ้น ควบคู่กับการหาตลาดให้พี่น้องเกษตรกรขายผลิตผลได้มากขึ้น ยาเสพติดก็เป็นอีกปัญหาที่สำคัญ การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งก็เป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้น รัฐบาลกำลังทำทุกอย่างให้เดินหน้าไป ปีหน้าเป็นปีที่เราต้องทำงานหนัก ตอนนี้เราทำงานมา 3เดือน ถือเป็นการวางรากฐาน ดังนั้นมองอย่างไรก็คงยังไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมได้ชัดเจนเพียงพอ ดังนั้นปีหน้าขอให้ประชาชนรอดูผลงาน ซึ่งจะมีผลงานดีๆออกมาอีกมาก เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีในการเริ่มต้นสร้างโอกาสตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายเอาไว้
‘อนุสรณ์’เชื่อรบ.เดินมาถูกทางแล้ว
ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวถึงสวนดุสิตโพล เผยผลสำรวจ 3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร คนมอง นโยบายแจกเงิน 10,000บาท เห็นผลชัดสุด แต่ยังไม่เชื่อมั่นแก้เศรษฐกิจ ชี้ ควรแก้ปัญหาค่าครองชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้ โดยด่วนว่า รัฐบาลยินดีพร้อมรับฟังและน้อมรับเสียงสะท้อนจากประชาชนทุกมิติ ความจริงถ้าไปดูในรายละเอียดจะพบว่า แม้จะมีประชาชนร้อยละ 54.99 ยังไม่เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล แต่ก็มีประชาชนที่เชื่อมั่นถึงร้อยละ45.01 ถือว่าไม่ห่างกันมากนักกับระยะเวลาที่รัฐบาลแพทองธารเพิ่งเข้ามาทำงานได้3เดือน ในขณะที่พบว่าประชาชนสะท้อนว่านโยบายของรัฐบาลที่เห็นผลชัดเจนที่สุดใน3เดือนที่ผ่านมา อันดับ1 คือ แจกเงิน10,000บาท 71.44% อันดับ2 กระตุ้นการท่องเที่ยว56.69% ประชาชนร้อยละ49.38 มองจุดแข็งของรัฐบาลแพทองธาร คือ การมีที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำงานได้ 3เดือน ทำได้ขนาดนี้ถือว่ามาถูกทาง
ปี2567เร่งแก้ปัญหาศก.ทั้งระบบ
“ผมเชื่อว่าเมื่อรัฐบาลได้ขับเคลื่อนนโยบายเรือธงสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งเงินหมื่นฟื้นเศรษฐกิจ ดิจิตอลวอลเล็ตเฟส2เฟส3ที่กำลังจะทยอยออกตามมา ประกอบกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งระบบ แก้ปัญหาค่าครองชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้ให้พี่น้องประชาชน ควบคู่กับการจัดระเบียบแก้หนี้ ยกระดับราคาสินค้าเกษตรขึ้นยกแผง เชื่อว่านโยบายและผลงานทั้งหมดจะทยอยผลิดอกออกผลในระยะอันใกล้ รัฐบาลแพทองธาร มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้พี่น้องประชาชน และขอให้เชื่อมั่นว่าระยะต่อจากนี้ไปผลงานของรัฐบาลที่จะออกมาจะกระตุ้นเศรษฐกิจและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน” นายอนุสรณ์ กล่าว
ซัดพวกด้อยค่า-อย่าทำตัวขวางคลอง
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การแถลงผลงานรัฐบาลรอบ 3 เดือน และการกำหนดทิศทางประเทศ “2568 โอกาสไทย ทำได้จริง” โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่แสดงวิสัยทัศน์ได้ชัดเจน สะท้อนเป้าหมายที่จะทำเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงทั้งเรื่องเปลี่ยนวิธีคิดแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างถาวร ปัญหา PM 2.5 ที่ค้างคามานาน ยาเสพติดที่ต้องรีบแก้ไข ความตั้งใจที่ต้องการทลายทุนผูกขาด พร้อมทั้งโครงการและนโยบายต่างๆ ที่จะมีออกมาเพื่อสร้างสรรค์โอกาสใหม่ๆ ให้กับประเทศไทย ตนมองเห็นความจริงใจของนายกรัฐมนตรีที่อยากให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ภาพที่ตนเห็นคือ นายกฯ แพทองธาร มีภาวะผู้นำสูงเกินวัย สมกับที่ Forbes จัดลำดับให้เป็นสตรีทรงอิทธิพล ลำดับที่29 จาก100คนทั่วโลก
นายกฯ กำลังทำงานรัฐบาลกำลังจะขับเคลื่อน แต่กลับมีคนประเภทมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ พยายามด้อยค่า ถนัดเรื่องจับผิด หาข้อบกพร่อง ข้อดีมองไม่เห็น จุดเด่นมองไม่ชัด ซ้ำร้ายยังหาเหตุผลมาด้อยค่า เหมือนคนป่วยทางจิต ความนึกคิดสุดโต่ง ตนไม่เข้าใจตรรกะวิธีคิดที่เต็มไปด้วยความริษยาเกลียดชังแนวๆ นี้ ทั้งฝ่ายค้านฝ่ายแค้น ขบวนการนิติสงคราม ที่ดาหน้าออกมาเล่นทุกดอก แล้วตบท้ายด้วยบอกว่ารักประเทศ อ้างแต่เรื่องครอบงำสั่งการของท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ มีคนมาช่วยคิดช่วยทำและเป็นเรื่องสร้างสรรค์ทำเพื่อประเทศชาติ มันจะผิดตรงไหน ประชาชนได้ประโยชน์ ตนอยากฝากไปถึงพวกที่ด้อยค่านโยบายหรือการทำงานของนายกฯ และรัฐบาล อยากให้ใช้สติไตร่ตรองมีวุฒิภาวะกันสักนิด คิดถึงประเทศชาติให้มากๆ อย่าให้อคติชักนำจิตใจ ประเทศจะเดินหน้าพวกท่านก็อย่ามาขวางคลองกันนักเลย
‘บิ๊กป้อม’ไม่ร่วมวงดินเนอร์ฝ่ายค้าน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้นัดแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านรับประทานอาหารเย็น ในวันพุธที่ 18ธันวาคม พรรค พปชร.จะส่งใครเข้าร่วมหรือไม่ ว่า ยืนยันว่าพรรคส่งจะตัวแทนเข้าร่วม ส่วนจะเป็นใครนั้น ต้องรอที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) สรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค พปชร.จะไม่เข้าร่วมแน่นอน
‘เทพไท’เย้ยรัฐบาล3เดือนสอบตก
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก“เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “ผลโพล : รัฐบาลสอบตก ขุดดินขาย คือนโยบายตลกที่สุด” ระบุว่า หลังจากนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 90 วันผ่านไป ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เพราะการแถลงผลงาน กลับกลายเป็นการแถลงแผนงานที่จะทำในปี 2568 มากกว่า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การบริหารประเทศช่วง 90 วันที่ผ่านมา รัฐบาลยังไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ที่สามารถจับต้องได้เลย ซึ่งสอดคล้องกับ ผลการสำรวจของสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิต ที่ได้สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “3 เดือนรัฐบาลแพทองธาร”พบว่า
โพลล์ชี้ผลงานรัฐบาลจับต้องไม่ได้
1.ประเด็นผลงาน3เดือนของรัฐบาลเป็นอย่างไรในสายตาของประชาชน พบว่า อันดับ 1 ยังประเมินไม่ได้ 39.85%อันดับ2 ต่ำกว่าที่คาดหวัง 28.14% อันดับ 3 เป็นไปตามที่คาดหวัง 24.96% อันดับ 4 ดีกว่าที่คาดหวัง7.05%แสดงให้เห็นว่าผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมาประชาชนยังประเมินไม่ได้และต่ำกว่าที่คาดหวังสูงถึง67.99% เป็นเพราะประชาชนไม่สามารถจับต้องผลงานของรัฐบาลได้เลยจึงทำให้คะแนนของรัฐบาลสอบตกในความรู้สึกของประชาชน 2.ประเด็นประชาชนเชื่อมั่นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลหรือไม่ พบว่า อันดับ1ไม่เชื่อมั่น54.99% อันดับ2 เชื่อมั่น45.01% ผลการสำรวจข้อนี้แสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่เชื่อมั่นในความสามารถของรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจซึ่งไม่ได้เป็นไปตามราคาคุยของนายทักษิณณวัตรที่ประกาศว่า พรรคเพื่อไทยเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
รัฐบาล’บิ๊กตู่’ทำผลงานได้ชัดเจนกว่า
3.ประเด็นประชาชนคิดว่านโยบายใดของรัฐบาลที่เห็นผลชัดเจนที่สุดใน3เดือนที่ผ่านมา อันดับ1 แจกเงิน 10,000บาท71.44% อันดับ2 กระตุ้นการท่องเที่ยว56.69% อันดับ3 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ49.06% ผลการสำรวจในประเด็นนี้เห็นได้ชัดว่า นโยบายที่ประชาชนจับต้องได้ คือการแจกเงินสด 10,000บาท ซึ่งเป็นนโยบายพื้นๆ ที่รัฐบาลชุดไหนก็ทำได้ เป็นนโยบายปัญญาอ่อน เพราะนำเงินจากภาษีประชาชนมาแจกหาเสียงให้กับตัวเอง ส่วนนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวเป็นนโยบายของทุกรัฐบาลที่สร้างผลสำเร็จมาแล้ว รวมถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็เป็นผลงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาลชุดนี้ ดังนั้นการแถลงผลงาน 90วันของรัฐบาลและโครงการที่จะทำต่อไป ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเก่าที่ปัดฝุ่นมาจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย สมัย นายทักษิณ ทั้งนั้น จะมีนโยบายแปลกใหม่ ที่สื่อโซเชียลแชร์ล้อเล่นกันเป็นไวรัล คือนโยบายขุดดินขายเท่านั้นถ้าจะให้คะแนนผลงานของรัฐบาลชุดนี้ ส่วนตัวผมให้สอบตก มีนักวิชาการหลายคนประเมินให้คะแนนสอบตก กระแสความรู้สึกของประชาชนก็สอบตก ผลจากสวนดุสิตโพลก็สอบตก สรุปได้ว่า รัฐบาลสอบตกจริงๆครับ
‘อิ๊งค์’ตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ
เวลา 09.00น.วันที่ 16ธ.ค.67น.ตามเวลาท้องถิ่น ณ เมืองปูตราจายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ในโอกาสเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาลมาเลเซีย โดยดาโตะเซอรี อันวาร์อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมพิธีตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ
จากนั้นเป็นการประชุมประจำปี ระหว่าง ไทยกับมาเลเซีย ซึ่งครั้งนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่7 โดยมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายสรวงษ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์การเกษตร และน.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม เข้าร่วมประชุม โดยก่อนเริ่มการประชุม น.ส.แพทองธาร กล่าวขอบคุณนายอัลวาร์ และ ทางการมาเลเซีย ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและสมเกียรติ ซึ่งนับว่าเป็นการเดินทางมาเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า มาเลเซียเป็นมิตรประเทศ ที่ใกล้ชิดและมีความสัมพันธ์ อันดีมากอย่างยาวนาน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วน ทางการค้า ที่ใหญ่ที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน ขณะเดียวกัน มาเลเซียยังเป็น 1 ใน10 ประเทศ ที่มีคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมากอีกด้วย ยิ่งเป็นการตอกย้ำให้ทั้ง2 ประเทศ มุ่งมั่น ในการประสานความร่วมมือ ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน เพื่อความก้าวหน้าและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้ง2ประเทศ
ลงบันทึกความร่วมมือระหว่าง2ชาติ
จากนั้นเวลา 11.00น.(ตามเวลาท้องถิ่น โดยเวลาที่กรุงเทพฯ ช้ากว่ามาเลเซีย1ชั่วโมง) ณ ห้อง Dewan Putra ชั้น3 สำนักนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย น.ส.แพทองธารและดาโตะเซอรี อันวาร์อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานการแลกเปลี่ยน(1)บันทึกความเข้าใจระหว่าง Malaysian Rubber Board (MRB) กับการยางแห่งประเทศไทย เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราและความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และ (2) ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งมาเลเซียและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยว่าด้วยความร่วมมือด้านวัฒนธรรม ศิลปะและมรดกทางวัฒนธรรม
เพิ่มเม็ดเงินการค้าขายพื้นที่ชายแดน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีมาเลเซียร่วมแถลงข่าว ภายหลังการประชุมประจำปี ครั้งที่ 7 โดยนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำความมุ่งมั่นที่จะรักษาพลวัตความสัมพันธ์เพื่อ “สันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”(“Common Peace and Prosperity) และไทยสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซีย ในปี2025 พร้อมเน้นประเด็นสำคัญ ดังนี้ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องที่จะให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน การเชื่อมโยงชายแดน เศรษฐกิจดิจิทัล และการท่องเที่ยว ส่งเสริมศักยภาพความร่วมมือในอุตสาหกรรมยางและฮาลาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ ไทยและมาเลเซียจะเดินหน้าเพื่อบรรลุเป้าหมายการค้า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2027ด้วย ความร่วมมือในพื้นที่ชายแดน ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาอุทกภัยที่สองประเทศเผชิญอยู่ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้ ไทยและมาเลเซียยินดีที่โครงการโครงสร้างพื้นฐานชายแดนมีความคืบหน้า และพร้อมจะทำงานอย่างใกล้ชิดต่อไปเพื่อยกระดับการเชื่อมโยงทางถนนและทางราง เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าชายแดนและให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างประชาชนมากขึ้น
เชิญนายกฯมาเลเซียมาเยือนไทย
โอกาสนี้ ผู้นำทั้งสองได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามบันทึกความเข้าใจที่สำคัญ2ฉบับเกี่ยวกับความร่วมมือด้านยางและวัฒนธรรม ซึ่งเชื่อมั่นว่า เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนของสองประเทศ ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีมาเลเซียสำหรับมิตรภาพ และเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งในศักยภาพความร่วมมือระหว่างกันที่จะก้าวไปข้างหน้าในอนาคต และความสำคัญของการพบปะหารือกันเป็นประจำ พร้อมเชิญนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเดินทางเยือนประเทศไทยในโอกาสต่อไป จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันอย่างเป็นทางการที่จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติ ณ ห้องProtocol ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ก่อนเดินทางกลับไทยช่วงเย็นวันเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี