"ฝ่ายค้าน"นัดหม่ำข้าวริมเจ้าพระยามองรัฐสภา! สุมหัวเข้มเตรียมการเปิด"ซักฟอกรัฐบาล" ลั่นเดินหน้าตรวจสอบเต็มที่ โยนถาม"ไทยสร้างไทย"ตกลงมี สส.ร่วมด้วยกี่คน โวแค่"ปชน." 140 คน เหลือแหล่
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน นัดรับประทานข้าวเย็นที่ร้านเอิกเกริก ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งตรมข้ามรัฐสภา ย่านบางอ้อ กทม.ในวันนี้ จะมีเรื่องพูดคุยใดบ้าง ว่า ความจริงการทำงานในซีกฝ่ายค้านอาจจะมีความแตกต่างกับความทำงานของซีกรัฐบาล เพราะพรรครัฐบาล คือพรรคที่ตัดสินใจร่วมกัน ดังนั้น ความคาดหวังเรื่องเอกภาพ ความสอดคล้องของนโยบายจะมีค่อนข้างสูง แต่ทางฝั่งซีกฝ่ายค้าน ไม่ได้เป็นการตัดสินใจที่จะมาร่วมฝ่ายค้าน อยู่คือบรรดาพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ในสภาที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล ดังนั้น ไม่ได้มีความคาดหวังว่าแต่ละพรรคจะมีจุดยืนต่อร่างกฎหมาย แนวทางนโยบาย และการทำงานที่เหมือนกัน
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการทำงานร่วมกันจำกัดอยู่แค่งานธุรการ โดยเฉพาะเรื่องของการแบ่งสัดส่วนของเวลาในการอภิปราย ดังนั้น วันนี้จะเป็นการหารืออย่างไม่เป็นทางการในงานธุรการดังกล่าว และเราในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน จะอาศัยโอกาสนี้ให้พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ทราบถึงความประสงค์ ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151
นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าพรรคประชาชนเดินหน้าเต็มที่ ในฐานะฝ่ายค้าน และฝ่ายค้านก็ต้องทำ 2 บทบาทอย่างเข้มข้นคู่ขนานกัน คือ การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาตนเห็นว่ามีกรรมาธิการมีความพยายามจะตรวจสอบนโยบายสำคัญของรัฐบาล รวมถึงการใช้กลไกกระทู้ถามสด นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ในทุกสัปดาห์แม้ว่าบางสัปดาห์จะมาบ้างไม่มาบ้าง อย่างไรก็ตาม เราตั้งใจจะเปิดอภิปรายรัฐบาล ในสมัยประชุมนี้ ยืนยันว่าจะความเข้มข้นเหมือนเดิม ส่วนอีกบทบาทคือการเสนอร่างกฎหมาย เราเสนอไปแล้วกว่า 80 ฉบับ ซึ่งการเสนอร่างกฎหมายไม่ใช่เป็นการเสนอแก้ไขในแต่ละประเด็นเพียงอย่างเดียว แต่เรามองว่า เป็นกลไกที่ทำให้ฝ่ายค้านสามารถกำหนดวาระของสังคมได้ นั่นคือหากมีประเด็นอะไรที่รัฐบาลยังไม่ได้พูดถึง เราก็เสนอกฎหมายเข้าไปและยื่นข้อเสนอของเราอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นการดึงให้รัฐบาลต้องมาคุยเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว
นายพริษฐ์ กล่าวว่า แม้กระทั่งเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ที่เป็นประเด็นเมื่อสัปดาห์ก่อน ตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยยื่นร่างประกบที่ถึงแม้จะถอนออกไปก็มาจากที่พรรคก้าวไกลเคยยื่นเข้าไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2566 เมื่อเข้าสู่วาระ 1 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดึงไปศึกษา 60 วัน จึงอาจจะทำให้พรรคการเมืองอื่นเห็นถึงความ จำเป็นในการยื่นร่างประกบด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นตัวอย่างว่าเมื่อเรายื่นร่างกฎหมายเรื่องอะไร เหมือนเป็นการกระตุกให้รัฐบาลมาคิดเรื่องนั้น แม้คำตอบของรัฐบาลอาจจะไม่ตรงกับแกนนำของพรรคฝ่ายค้านตนจึงคิดว่า เป็นบทบาทสำคัญที่ฝ่ายค้านสามารถทำได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน
เมื่อถามว่า พรรคไทยสร้างไทยยืนยันจำนวน สส.กับพรรคฝ่ายค้าน กี่คน นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าต้องถามกับพรรคไทยสร้างไทย น่าจะดีกว่า แต่เข้าใจว่าที่ผ่านมามีการลงมติในบางครั้ง ที่ไม่มีความเอกภาพ ย้ำว่าขอให้ถามกับพรรคไทยสร้างไทยจะดีกว่า
เมื่อถามถึงกรณีที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ได้มีการประเมินเสียงของ สส.ของฝ่ายค้าน แล้วหรือไม่ ว่า นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน มี สส.140 คน ตนคิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ในการเปิดอภิปรายทั่วไปและใช้กลไกต่างๆ ของสภาเพื่อตรวจสอบรัฐบาลได้ และคิดว่าเรื่องของจำนวนไม่เป็นปัญหา ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร มี สส.เกิน 140 คน ย้ำว่าเพียงพอแน่นอน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี