เสียวระทึกกันเป็นแถวๆ! ‘มือสอบสวน แพทยสภา’ ร่อนหนังสือตรวจสอบจรรยาบรรณ ‘หมอ-พยาบาล’ รพ.ตำรวจ-ราชทัณฑ์ ปมเอื้อ ‘นักโทษชั้น14’ กางโทษถึงขั้นอาจหมดอนาคตในวิชาชีพ ขอเอกสารแจงแบบ ‘ละเอียดยิบทุกอย่าง’ ตั้งแต่เข้าจน-ออก ผนวกรวม ‘เวชระเบียน-หนังสือแจ้งอาการป่วย’ เพื่อขอขยายนอน ‘วีไอพี’ ที่ทำถึง ‘อธิบดีกรมคุก-ปลัดยุติธรรม-รมว.ยธ.’ ขีดเส้นส่งมาภายใน15ม.ค.68
วันที่ 18 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีนักร้องเรียนหลายกลุ่ม ไปยื่นคำร้องให้แพทยสภา ที่เป็นองค์กรวิชาชีพด้านการแพทย์-สาธารณสุข สอบสวนการรักษาพยาบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พักรักษาตัวที่รพ.ตำรวจชั้น 14 เป็นเวลาหกเดือน จนถึงกำหนดการพักโทษ ทำให้ไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว
ล่าสุด นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ในฐานะประธานอนุกรรมการสอบสวน ชุดเฉพาะกิจ ที่ตั้งโดยมติที่ประชุมแพทยสภาฯ ได้ทำหนังสือของแพทยสภา ลงวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมาถึง แพทย์ใหญ่โพงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีเนื้อหาโดยสรุปว่า คณะอนุกรรมการสอบข้อเท็จจริงเฉพาะกิจตั้งขึ้นตามมติของกรรมการแพทยสภาฯ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2567 ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 เพื่อสอบสวนกรณีดังกล่าวที่เกิดจาก กรณีมีการย้ายผู้ป่วยจากรพ.ราชทัณฑ์มาที่รพ.ตำรวจ
จึงขอข้อมูลเพื่อประโยชน์แก่การสืบสวนสอบสวน อันเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาเรื่องจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม คณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจ จึงขอให้ท่าน(แพทย์ใหญ่รพ.ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งพยานหลักฐานหรือวัตถุพยานเพื่อประโยชน์การแก่การพิจารณาจริยธรรม ดังนี้ 1.คำชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้ารับการรักษาพยาบาล ของนายทักษิณ ทั้งหมดโดยละเอียด 2.ขอทราบ ชื่อ สกุลแพทย์ทั้งหมด ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาผู้ป่วย นายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงเลขใบประกอบวิชาชีพ รวมถึงคำชี้แจงของบุคคลในข้อ 2 เกี่ยวกับกระบวนการตรวจ การวินิจฉัย การดูแลรักษาในรายผู้ป่วย นายทักษิณ โดยละเอียด ที่น่าสนใจ
หนังสือฯ ระบุต่ออีกว่า เนื่องจาก นายทักษิณ เป็นผู้ต้องขังที่ส่งตัวไปรักษาตัวนอกเรือนจำเกินกว่า30วัน และ60วัน - 60วันและ120วัน ตามลำดับ ตามที่กำหนดในข้อ 7 ของกฎกระทรวง(กระทรวงยุติธรรม) การส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ ที่กำหนดให้ผู้บัญชาการเรือนจำ มีหนังสือขอความเห็นจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์พร้อมกับความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษา และหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้ปลัดกระทรวง(ยุติธรรม)และรัฐมนตรีว่าการกระรทวงยุติธรรม ทราบ (ตามลำดับ)
ดังนั้นจึงขอความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องดังกล่าว ที่ก็คือ การขอความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง ตอนที่แพทย์ทำรายงานสามครั้ง คือถึง อธิบดีกรมราชทัณฑ์-ปลัดกระทรวงยุติธรรม และรมว.ยุติธรรม ในช่วงครบ 30 วัน 60 วันและ 120 วันตามลำดับ โดยให้ส่งรวมมาให้อนุกรรมการฯทั้งหมด
นอกจากนี้ อนุกรรมการสอบสวน ของแพทยสภา ยังขอให้ส่งสำเนาใบส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาต่อ สำเนาเวชระเบียน สำนาบันทึกการผ่าตัด สำเนาบันทึกการให้ยาระงับความรู้สึก สำเนาบันทึกการพยาบาล สำเนารายงานทางการแพทย์ และเอกสารหรือเอกสารอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาล เช่นภาพถ่ายทางรังสีวินิจฉัย ผลการตรวจทางรังสี ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ หรือเอกสารใดที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ โดยให้ระบุหมายเลขหน้าเอกสาร และให้เจ้าหน้าที่ลงนามรับรองเอกสารทุกหน้าด้วย
“ขอตั้งแต่วันที่ 23ส.ค. 2566 ที่ผู้ป่วยถูกส่งต่อการรักษาไปที่โรงพยาบาลตำรวจ จนกระทั่งผู้ป่วยถูกจำหน่ายออกจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งถือว่าเกี่ยวข้องกับการพิจารณาจริยธรรมในครั้งนี้ โดยขอให้ท่านทำคำชี้แจงพร้อมพยานหลักฐานที่สนับสนุนคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรตามประเด็นข้างต้น โดยให้ส่งมาให้คณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจภายใน วันที่ 15ม.ค.2568“ เอกสารฯ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี