เรียก4ผู้ร้องยุบ‘พท.’ให้ถ้อยคำแล้ว
กกต.เดินเครื่อง
กล่อม‘แม้ว’เข้าชี้แจงโต้ข้อกล่าวหา
ชี้ประโยชน์ต่อตัวเอง-รูปคดี
‘ปชน.’เอาแน่ซักฟอกรัฐบาล
ประธานกกต.เผยเชิญ 4 ผู้ร้อง“ยุบพรรค”ให้ถ้อยคำแล้ว ชี้“ทักษิณ” ในฐานะบุคคลเกี่ยวข้อง ควรร่วมมือเพื่อชี้แจงโต้ตอบข้อกล่าวหา เป็นประโยชน์ต่อตนเองและรูปคดีพรรค พร้อมสอบเพื่อไทย ใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองจัดสัมมนาถูกต้องหรือไม่ ด้าน“กล้าธรรม”ได้ฤกษ์เปิดตัว 20 สส.ก๊วน“ธรรมนัส” เข้าสังกัดพรรค 19ธ.ค.นี้ ก่อนจัดประชุมใหญ่ปรับโครงสร้าง‘กก.บห.ชุดใหม่ลุ้น’ผู้กอง’จ่อนั่งประธานที่ปรึกษาฯพรรค ขณะที่‘ไผ่ ลิกค์’ลุ้นเลขาธิการพรรค
เมื่อวันที่ 18ธันวาคม2567 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) จัดสัมมนาและมีการเชิญ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นวิทยากร ว่ามีการใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อพัฒนาพรรคการเมือง ในทางที่ถูกต้องหรือไม่ ว่า กกต.มีกระบวนการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินอุดหนุนกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองอยู่แล้ว โดยก่อนที่พรรคการเมืองจะทำกิจกรรมอะไร พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560 กำหนดให้พรรคการเมืองนั้นๆ ต้องเสนอกิจกรรมให้คณะกรรมการทราบก่อน และเราก็จะให้ความเห็นชอบตามนั้น และการจัดกิจกรรมก็จะเป็นไปตามที่เสนอมา เมื่อจัดไปแล้วพรรคก็จะต้องเสนอรายงานมา ซึ่งก็จะมีคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้ง ว่าถูกต้องหรือไม่ หรือต้องมีอะไรต้องให้เปลี่ยนแปลงแก้ไข
เมื่อถามว่า การสัมมนาของพรรคพท.แจ้งรายชื่อวิทยากรให้ทราบหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่ทราบรายละเอียดตรงนี้ แต่จะมีคณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองคอยดูแลอยู่ แต่ส่วนตัวคิดว่าการแจ้งรายละเอียดเบื้องต้นของกิจกรรมคงต้องมีว่า จะทำอะไรและส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทราบ เมื่อจัดงานสัมมนา กกต.ก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปร่วมตรวจติดตามการดำเนินการของพรรคการเมืองด้วย โดยหลังจัดกิจกรรมแล้วก็จะต้องรายงานให้กับคณะกรรมการกองทุนฯ ทราบตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
กกต.ยันเชิญ2ฝ่ายให้ข้อมูลครอบงำพท.
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการที่ กกต.มีหนังสือถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)และหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นที่ถูกกล่าวหายอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ครอบงำ มาให้ถ้อยคำกรณีถูกร้องยุบพรรค ว่า เมื่อมีผู้มายื่นคำร้องว่าอาจมีการกระทำที่มีการฝ่าฝืน กฎหมายพรรคการเมือง กกต.จะพิจารณาก่อนว่าคำร้องนั้นสมควรที่จะรับไว้พิจารณาหรือไม่ หากเห็นว่าเป็นคำร้องที่เลื่อนลอย ทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในฐานะนายทะเบียน เห็นว่าเรื่องนี้ไม่มีมูล ไม่ควรรับดำเนินการ แต่หากเห็นข้อเท็จจริงมีมูล สมควรรับไว้พิจารณานายทะเบียนพรรคการ เมืองจะสั่งให้คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับไปดำเนินการ ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดนี้ก็จะรวบรวมข้อเท็จจริง หลักฐานต่างๆ รวมทั้งเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นผู้ร้อง ผู้ถูกร้อง มาให้ถ้อยคำ และเมื่อคณะกรรมการเห็นว่า ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว จะสรุปความเห็นเสนอต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ซึ่งนายทะเบียนจะใช้ดุลพินิจของตนพิจารณาว่าเป็นเรื่องที่มีมูล ถ้าเห็นว่าไม่มีมูลก็สั่งยุติเรื่อง ตามมาตรา 93พรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง2560และแจ้งต่อ กกต.ทราบ โดย กกต.อาจจะสั่งเป็นอย่างอื่นก็ได้
ควรมาให้ข้อมูล/ประโยชน์ต่อตัวเอง
“เรื่องส่งหนังสือเท่าที่ผมทราบ ลักษณะการทำงานของเรา เมื่อเรื่องอยู่ในกรอบความรับผิดชอบของใคร เรามักจะไม่ไปแทรกแซง แต่กรณีเรื่องยุบพรรคนี้มี 4คำร้อง ซึ่งได้มีการเชิญผู้ร้อง4ท่าน มาให้ข้อมูลแล้ว และมีหนังสือเชิญผู้ถูกร้องมาให้ถ้อยคำด้วย ซึ่งไม่ทราบว่ามาให้ถ้อยคำแล้วหรือยัง” นายอิทธิพร กล่าว
เมื่อถามว่า รวมถึงมีหนังสือให้ นายทักษิณ มาชี้แจงด้วยใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่แน่ใจ แต่ว่าเขาร้องใคร สิ่งแรกที่กกต.ต้องทำคือให้โอกาสได้มีโอกาสชี้แจง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคำนี้แปลความได้กว้างว่ารวมถึงบุคคลต่างๆก็ได้ด้วย
เมื่อถามต่อว่าหากนายทักษิณ ไม่สะดวกจะให้ข้อมูลทางคณะกรรมการมีอำนาจที่จะเรียกนายทักษิณ มาให้ข้อมูลได้หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า คณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานไม่มีอำนาจ แต่ส่วนใหญ่เป็นลักษณะขอความร่วมมือมาให้ถ้อยคำ ซึ่งก็จะได้รับความร่วมมือให้ถ้อยคำเป็นเอกสาร เป็นหนังสือ หรือมาให้ถ้อยคำด้วยตัวเอง หรือผ่านใครก็ได้ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือคณะกรรมการจะพิจารณาจากข้อมูลเท่าที่มีอยู่ การให้ความร่วมมือ ถ้ามองให้ดีแล้วจะเป็นประโยชน์เพราะจะเป็นโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือผู้ถูกร้องสามารถให้ความเห็นชี้แจง โต้ตอบข้อกล่าวหาที่มีต่อตนได้ จึงมีประโยชน์ต่อตนและรูปคดี
‘อิ๊งค์’ร้อง‘อ๋อ’กกต.เชิญแจงครอบงำ
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี กกต.มีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ชี้แจงกรณีคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทย ได้รับหนังสือดังกล่าวหรือยัง ว่า ยังไม่ได้รับหนังสือเลย ได้ยินเหมือนกันแต่ยังไม่ได้รับ เมื่อถามว่า ถ้าได้รับหนังสือแล้วจะไปชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ นายกฯกล่าวย้อนถามว่า หนังสือว่าอย่างไรนะ ผู้สื่อข่าวตอบว่าเชิญหัวหน้าพรรค นายกฯ จึงกล่าวว่า “อ๋อ”
‘กล้าธรรม’เปิดตัว20สส.19ธ.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคกล้าธรรม แจ้งกำหนดการเปิดตัวกลุ่ม 20สส.นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ที่เพิ่งถูกขับพ้นจากพรรคพลังประชารัฐ เข้าสังกัดพรรค ในวันพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.67)เวลา 11.00 น. ที่รัฐสภา พร้อมจะมีการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนี้พรรคกล้าธรรม จะมีการจัดประชุมใหญ่เพื่อปรับโครงสร้างกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคชุดใหม่ โดยในส่วนของนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จะยังดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไป ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส มีชื่อจะขึ้นมาเป็นประธานที่ปรึกษาพรรค , นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร มีชื่อจะเป็นเลขาธิการพรรค ขณะที่นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา มีชื่อเป็นเหรัญญิกพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 18ธันวาคม กลุ่มสส.20คนจากพรรค พปชร.ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม ที่มี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรคกล้าธรรมแล้ว ซึ่ง นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส.ตาก ได้อภิปรายหารือในที่ประชุมสภาฯในสังกัดพรรคกล้าธรรมด้วย เมื่อ สส.กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส ย้ายเข้าร่วมกับพรรคกล้าธรรม ทำให้ขณะนี้มีจำนวน สส.ทั้งหมด24คน
‘เอกนัฏ’ยัน25สส.ปึ้ก/ไม่ทิ้งรทสช.
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวว่า ส.ส.25คนของพรรครทสช.เตรียมย้ายไปสังกัดพรรคโอกาสใหม่ ว่า ตนเห็นข่าวนี้จากTiktok เป็นเพียงข่าวลือ ยืนยันว่า ไม่ใช่ความจริง วันก่อน นายจิรวุฒิ สิงห์โตทอง สส. ชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมายืนยันแล้วและตนขอยืนยันว่า สส.ทุกคน ยังอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ไปไหนและวันนี้ยังเดินหน้าทำงานต่อ ที่ผ่านมาในการทำงานร่วมกับรัฐบาล ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนที่ดี และทุกคนยังยึดในจุดยืนของพรรค เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะยังมีพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีแน่นอน มีแล้ว มีอยู่ มีต่อ สมาชิกทุกคนจะยังอยู่ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า ตนขอเอาตำแหน่งเลขาธิการพรรคเป็นประกัน ตนอยู่ที่นี่แล้วมีความสุข ไม่ไปไหนแน่นอน ซึ่งวันนี้พรรคหลอมรวมเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน และยังเชื่อมั่นในนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ในการทำหน้าที่รัฐบาล และการทำการเมืองต่อไป เชื่อว่าเที่ยวต่อไปจะได้ สส.มากกว่าเดิม
ฝ่ายค้านนัดหม่ำข้าวถกซักฟอกรบ.
นายพริษฐ์วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านนัดรับประทานข้าวเย็นที่ร้านเอิกเกริก ฝั่งตรมข้ามรัฐสภา ย่านบางอ้อ กทม.ในวันนี้จะพูดคุยเรื่องใดว่า จะหารืออย่างไม่เป็นทางการในงานธุรการและเราในฐานะแกนนำฝ่ายค้าน จะอาศัยโอกาสนี้ให้พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ทราบถึงความประสงค์ ในการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 ยืนยันว่าพรรคประชาชนเดินหน้าเต็มที่ ในฐานะฝ่ายค้านและฝ่ายค้านก็ต้องทำ 2บทบาทอย่างเข้มข้นคู่ขนานกัน คือ การตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ส่วนอีกบทบาทคือการเสนอร่างกฎหมาย
เมื่อถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา151 ได้ประเมินเสียงของ สส.ของฝ่ายค้าน แล้วหรือไม่ ว่า นายพริษฐ์ กล่าวว่า พรรคประชาชน มี สส.140คน คิดว่าแค่นี้เพียงพอแล้วในการเปิดอภิปรายทั่วไปและใช้กลไกต่างๆของสภาเพื่อตรวจสอบรัฐบาล คิดว่าเรื่องของจำนวนไม่เป็นปัญหา ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในสภาผู้แทนราษฎร มี สส.เกิน 140คน ย้ำว่า เพียงพอแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี