“อิ๊งค์”ไม่ถือสา“ภท.”แตกแถวโหวตสวนร่างประชามติ บอกพรรคร่วมฯเห็นต่างได้“กล้าธรรม”เปิดตัว“ธรรมนัส-ก๊วน”เข้าพรรคเป็นทางการ ยาหอมถาม“นฤมล ท่านหัวหน้ารับไหมครับ”โวมีสส.ในกำมืออีกกว่า 30 เก้าอี้รออยู่ย้ำไร้ดีล“ลุงป้อม”ก่อนแยกลั่นทำการเมืองเน้นสันติ ไม่ทะเลาะใครปัดตอบอะไหล่“พท.”ชี้อยู่พรรคร่วมเดียวกัน ยันพร้อมยกมือหนุนนโยบายเป็นประโยชน์ฟาดแรงพรรคไหนค้านบ่อยๆก็แยกไป
เมื่อวันที่ 19ธ.ค.2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการลงมติร่างพรบ.ประชามติ ที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วม สส.-สว.ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลมีเสียงไม่เป็นเอกฉันท์จำเป็นต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า ไม่ต้อง ให้เป็นไปตามกระบวนการสภาฯ เพราะบางที สส.พรรคเดียวกันก็คิดไม่เหมือนกัน ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรการบริหารงานเราร่วมมือกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลควรมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ในกฎหมายสำคัญเช่นนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า มีหลายความคิดเห็น แต่สุดท้ายก็ต้องคุยกันให้เข้าใจตรงกัน แต่ถือว่าไม่เป็นปัญหาใหญ่อะไร
เมื่อถามว่า ผลการลงมติที่ออกมาอาจทำให้การทำประชามติถูกเลื่อนออกไป รัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าประชามติน่าจะทันแต่ขอคุยกับทางวิปก่อนว่าจะว่าอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่าต้องปรับจูนการทำงานกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ ไม่ใช่แค่พรรคภูมิใจไทย แต่กับทุกคนเราก็ปรับไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนหรือคนในพรรคด้วยกันเอง
เมื่อถามว่า หมายความว่าหากมีกฎหมายอะไรที่สำคัญนอกเหนือจากนโยบายหลักของรัฐบาลจำเป็นต้องคุยกันก่อน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า บางทีมีเวลาก็ได้คุยกัน แต่บางครั้งทุกอย่างมันเร็วก็ไม่ได้คุยกัน แต่ให้สภาฯ เป็นคนจัดการ เมื่อถามย้ำว่า ตัวนายกฯ จะคุยเองหรือให้วิปรัฐบาลเป็นผู้ประสาน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จุดแรกต้องให้วิปสรุปก่อน
ที่รัฐสภา พรรคกล้าธรรม นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะหัวหน้าพรรคกล้าธรรม พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา และสส.จำนวน 20 คน ที่ถูกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขับออก ร่วมแถลงเข้าพรรคกล้าธรรมอย่างเป็นทางการ โดย สส. ทั้งกลุ่มได้นัดหมายรวมตัวกันหน้าห้องแถลง พูดคุยกันอย่างชื่นมื่น
จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส แถลงว่า วันนี้ถือว่าเป็นฤกษ์ดียามดี ซึ่งตามที่เป็นข่าวมาโดยตลอดถึงกลุ่มของพวกเราที่เคยสังกัดอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้มีพี่น้องสื่อมวลชนหลายสำนักที่พยายามจะติดต่อตน ตนขอกราบอภัยที่ไม่ได้รับสาย ไม่อยากให้ข่าวที่ไม่พร้อมกัน อยากจะแถลงข่าวให้ได้รับทราบพร้อมกัน พวกเราเองจึงตั้งกลุ่มว่า “มาตามนัด” ในนามของส.ส.20คนและถือฤกษ์ดียามดีในวันนี้ที่จะแถลงให้ทราบ
“ตั้งแต่การรวมตัวกันตั้งรัฐบาล ได้นายกรัฐมนตรีท่านใหม่บริหารบ้านเมือง พวกเราประกาศชัดเจนว่าจะสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ในเรื่องของฝ่ายกฎหมาย การเข้าเป็นสมาชิกพรรคใหม่ สังกัดใหม่ยังไม่สามารถทำได้จนกระทั่งมีมติชัดเจนให้ขับผมออกจากพรรคพลังประชารัฐ กระบวนการทางกฎหมายเป็นที่ยุติว่าคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ พร้อม สส.มีมติชัดเจน3ใน4ขับพวกผมของจากพรรคพปชร.และเมื่อวันที่ 18ธันวาคม ทั้ง20คน พร้อมกันสมัครเป็นสมาชิกพรรคกล้าธรรม
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตนได้แจ้งประธานสภาฯเรียบร้อยแล้วว่าออกจากพรรคพลังประชารัฐ และขั้นตอนต่อไปในขณะนี้เรามีสมาชิก 24ชีวิตทั้งที่ย้ายมาเก่าและใหม่ในพรรคกล้าธรรม พร้อมย้ำว่าเรายังมีอีกหลายชีวิต แต่ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องนำเสนอหรือชี้แจงตอนนี้ ดังนั้น วันนี้อยากจะฝากว่าเราทั้ง 24 ชีวิตที่ยืนอยู่บนเวที ณ เวลานี้ เราคือสมาชิกสภาผู้แทนรษษฎรสกัดพรรคกล้าธรรม จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวติดตลกกับนางนฤมล ว่า “ไม่ทราบว่า ท่านหัวหน้าจะยินดีรับผมไหมครับ”
ด้าน นางนฤมล กล่าวว่า พวกเราเป็นกลุ่มการเมืองที่ทำงานร่วมกันมาตั้งแต่เริ่มต้นมีอุดมการณ์เดียวกัน ทางพรรคได้รับมอบหมาย ให้ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราก็จะเดินหน้าทำงานเพื่อสนองนโยบายของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะใช้การตลาด นำนวัตกรรม เสริมเพิ่มรายได้ให้พี่น้องเกษตรกร ทุกจังหวัด ทุกเขตไม่ใช่เฉพาะแค่เขตที่เรามี สส.เมื่อถามว่า ตกลงว่าสส.ย้ายเข้าพรรคกล้าธรรมกี่คน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตัวเลขคร่าวๆที่คุยกันไว้มากกว่า 30 คน ถ้ารวม 24 คนที่ยืนอยู่บนเวที แต่ขอเก็บความลับก่อน เมื่อถามย้ำว่า จากฝ่ายรัฐบาลหรือว่าพรรคฝ่ายค้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เอาเป็นว่าเป็นสส. ณ เวลานี้
เมื่อถามว่า มีจำนวนสส.เท่านี้ ถือว่ามีอำนาจต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีในรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องการต่อรอง ตนว่าไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สาระสำคัญคือเราจะทำให้รัฐบาล ซึ่ง ณ เวลานี้มีพรรคร่วมรัฐบาลที่จำทำหน้าที่แต่ละกระทรวงเพื่อตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างไร เพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราทั้ง 24 คน หลายคนเป็นสส. เป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ในแต่ละพื้นที่ เราก็นำเสนอผ่านสภาฯ บางเรื่องเราก็ประสานไปยังกระทรวงต่างๆได้
เมื่อถามว่า การออกมาจากพรรคพลังประชารัฐ มีดีลอะไรกับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงได้ยอมขับออกจากพรรค ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คำถามนี้ตนเชื่อว่ามีพี่น้องสื่อมวลชนและประชาชนให้ความสนใจ ตั้งแต่ออกมาแถลงข่าวที่กระทรวงเกษตรฯและจนถึงวันนี้ ตนก็ยังไม่ได้คุยกับใครเลย รับรองว่าไม่ได้มีการดีลอะไรทั้งนั้น เมื่อถามย้ำว่า ต้องใช้คำว่าจบกันด้วยดีหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า“ผมยืนยันตลอดเวลา ถ้าสื่อมวลชนจำคำพูดของผมได้ ว่า ผมจะออกมาโดยสันติ โดยไม่ทะเลาะกับใคร และจะทำงานที่สร้างสรรค์มากกว่าทำลายซึ่งกันและกัน เราจะทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ทำการเมืองแบบเก่าๆ” เมื่อถามว่า หลายคนเชื่อมโยงไปถึงคดีที่อยู่ในส.ป.ก.ว่าอาจจะเกี่ยวกับดีลนี้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่เกี่ยว และขอเรียนว่า ถ้าจำประเด็นนี้ได้ ตนสมัยที่ตนเป็นรมว.เกษตรฯ ในฐานะดูแลส.ป.ก.จำเป็นต้องตรวจสอบ ตนรู้ข้อมูลการตรวจสอบว่า การเข้าครอบครองที่ดินของกลุ่มทุนไม่ถูกต้องจำเป็นต้องยึดคืนมา เพื่อเอาไปจัดสรรให้พี่น้องเกษตรกร
เมื่อถามว่า เป็นห่วงพล.อ.ประวิตร หรือไม่ว่าจะอยู่อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นห่วงสื่อมวลชนมากกว่า เมื่อถามว่ามีสส.จากพรรคพลังประชารัฐ ติดต่อมาบ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า 24 ชีวิตกับ 20 ชีวิตเราเป็นพี่น้องกัน เราไม่นำเอาความแตกแยกเข้ามาสู่การเมืองเด็ดขาด สิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นนักการเมืองคือปากกับใจต้องตรงกัน 20 ชีวิตที่ออกมากับตน เราเป็นคนที่มีอุดมการณ์เหมือนกัน เราไม่ใช่เพิ่งรู้จักกัน เราคุยกันมาโดยตลอด
เมื่อถามว่า มีการมองว่าพรรคกล้าธรรมเป็นอะไหล่ของพรรคเพื่อไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ณ เวลานี้เราคือพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกัน หากพรรคใหญ่พรรคแกนนำ มีนโยบายอย่างไรที่เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชนเราเห็นด้วย“ไม่ได้คัดค้าน ไม่ใช่มีอะไรก็คัดค้านตลอด ไม่เอา ผมไม่ชอบหลอกคนอื่น พรรคร่วมรัฐบาลควรคุยกันก่อนทุกครั้งที่มีวาระสำคัญที่เข้าครม.หรือสภาฯ พรรคไหนไม่เห็นด้วยบ่อยๆ ก็ควรจะแยกออกไป เราเห็นความเจริญของบ้านเมืองเป็นหลัก” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่า กลัวการอาคืนของพล.อ.ประวิตร หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า“เราเป็นนักการเมือง ต้องทำงานสร้างสรรค์ สไตล์ผมไม่ทำใครก่อน ใครทำผม ผมเอาคืน” เมื่อถามว่า จะทำงานกับพล.อ.ประวิตรได้อยู่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า “อย่าพูดเรื่องอนาคน ปัจจุบันทำ 24ชีวิตให้ดี”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี