‘อดีต สส.เพื่อไทย’ จ่อฟ้องอาญา-แพ่ง ‘ธนดล’ ใส่ร้ายหมิ่นประมาทอันเป็นเท็จ พาดพิงโยงเอี่ยวปม ‘ไร่ภูนับดาว’

20 ธ.ค.2567 ที่รัฐสภา นายวิชิต ปลั่งศรีสกุล อดีตสส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยทีมทนายความ แถลงกรณีไร่ภูนับดาวที่อ้างถูกใส่ความโดยนายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ว่า ในวงการกฎหมายเป็นทนายความมากกว่า 40 ปี เป็นที่รู้จักในวงการกฎหมายและยังทำหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคไทยรักไทย และมีอ้างอิงประวัติทำงานทางการเมืองมาอย่างยาวนาน อีกทั้งได้ทำงานกับพี่น้องชาวเกษตรกร โดยอ้างว่าปัญหากรณีนายธนดลทำให้ตนเองนั้นได้รับความเสียหายเนื่องจากมีการใส่ความในหลายประเด็น เสียหายทั้งชื่อเสียงถูกบุคคลที่รู้จักในหลายวงการดูหมิ่นเกลียดชัง ประเด็นที่สำคัญเห็นว่าเป็นการแสดงเจตนาที่ไม่อาจละเลยที่ใช้สิทธิ์ทางกฎหมายตามที่คณะฝ่ายกฎหมายได้แนะนำมา คือการที่เห็นว่านายธนดลมีเจตนาใส่ความด้วยข้อความอันเป็นเท็จหลายครั้งกระทำซ้ำ สัมภาษณ์หลายครั้ง

“ครั้งแรกกล่าวอ้างว่าไปแอบอ้างว่าผมไปแอบอ้างผู้ใหญ่ไปดำเนินการเข้าข้างเกษตรกร ที่ถือสิทธิ์ใน สปก.ภูนับดาวซึ่งส่วนตัวไม่เคยรู้จักและไม่ได้แอบอ้างผู้ใหญ่คนใดเพื่อดำเนินการให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรที่เข้ามาร้องทุกข์ อีกทั้งยังมีการเดินสายออกรายการทางสถานีโทรทัศน์และมีการใส่ความอันเป็นเท็จ ยืนยันสิ่งที่มีการไปแอบอ้างว่าตนเองนั้นไปช่วยเหลือเกษตรกรให้มีการทำสัญญาเช่านั้นไม่เป็นความจริง” นายวิชิต กล่าว 

นายวิชิต กล่าวต่อว่า ในข้อเท็จจริงตนไม่เคยรู้จัก สปก. จังหวัดสระบุรี ไม่รู้จักช่างรางวัด และไม่เคยไปลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน ที่เป็นอาคารที่จะยกคืนให้ สปก. การไปทำสัญญาเช่านั้นก็ไม่เคยรู้เรื่องที่จะไปร่วมด้วย ไม่เคยลงพื้นที่ไปรางวัดด้วย และปฏิเสธข้อเกี่ยวข้องกับการไปร่วมทำสัญญาเช่าที่ดิน สปก. กับเกษตรกร อ้างอิงว่าทีมกฎหมายมีความเห็นว่าจะต้องดำเนินการฟ้องฟ้องคดี  เนื่องจากในสุดท้ายยังมีการพูดในลักษณะดูหมิ่นเหยียดหยาม เปรียบเทียบคล้ายสุนัข ที่เลี้ยงไม่เชื่อง เหมือนสุนัขที่กินข้าวแล้วยังเนรคุณ จึงเป็นสิ่งที่คิดว่าจำเป็นต้องดำเนินคดีกับนายธนดล ทั้งคดีอาญาและคดีแพ่ง ส่วนแนวทางการดำเนินคดีกฎหมาย ส่วนตัวตนจะเป็นผู้ดำเนินการ ยืนยันว่าไม่ได้คิดรังแกเด็กหรือตัดอนาคตของเด็ก