พปชร.จี้รัฐบาลอย่ามัวนิ่งเฉย
หวั่นเสีย‘เกาะกด’
ชาวตราดร้องยกเลิกMOU44
กลัวกระทบทำประมง
เสียเขตแดนทางทะเล
พรรคพลังประชารัฐประชุมชาวตราดแจงปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชา ด้านเกาะกูด หวั่นเสียดินแดน หากรัฐบาลนิ่งเฉย ขณะกลุ่มประมงยื่นหนังสือเรียกร้องรัฐบาลยกเลิก MOU2544
เวลา 09.00 น. วันที่ 21 ธันวาคม 2567 ที่โรงแรมเอวาดา ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด นายสนธิรัตน์สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบาย และวิชาการและ ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนในจังหวัดตราด
โดยได้รับการประสานงาจากประชาชนในพื้นที่ว่า ได้ติดตามเรื่อง MOU 2544 มีความห่วงใยเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐ จึงขอให้มาจัดกิจกรรมและให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวที่จังหวัดตราดเพื่อให้เกิดความเข้าใจต่อปัญหานี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งมีประชาชนชาวตราด นำโดย นายกาหลง หาดอ้าน ประธานชมรมอาสาสมัครพิทักษ์สิ่บแวดล้อมและเครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดตราด และกลุ่มอื่นๆ ร่วมรับฟังกว่า 300 คน
นายสนธิรัตน์ ได้กล่าวถึงการเดินทางมาจัดกิจกรรมครั้งนี้ที่จังหวัดตราด เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในปัญหาของชาวตราดที่ต้องรับรู้ในเรื่องของบ้านตัวเอง ซึ่งวันนี้ เกาะกูด และพื้นที่ทะเลเกาะกูดกำลังมีปัญหาจากรายละเอียดของ MOU 2544 ซึ่งหากปล่อยไปโดยไม่ออกมาทำความเข้าใจและคัดค้านแล้วอาจจะส่งผลกระทบต่ออาณาเขตทางทะเลของประเทศไทยให้กับกัมพูชา
จากนั้น ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่เป็นเชื้อสายชาวตราดได้นำเรื่องราวความเป็นมาของเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของไทยในช่วงเวลาในสมัยรัชกาลที่ 5 ที่เกี่ยวข้องกับชาวตราด โดยเฉพาะการคืนจังหวัดตราดมาให้ประเทศไทยในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาล่าอาณานิคมซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงนำ 3 จังหวัดในกัมพูชา คือ เสียมเรียบ ศรีโสภณ และพระตะบองแลกคืนจังหวัดตราดกลับมา ต่อมามีการลากเส้นอาณาเขตทางทะเลหรือเส้นเศรษฐกิจจำเพาะทางทะเล ซึ่งทางกัมพูชาลากกันคนละเส้น ซึ่งเส้นของกัมพูชาลากมาเข้าเกาะกูดของไทย โดยไม่ยึดกฏหมายสากล ซึ่งทั้งสองประเทศยังไม่ได้มีการเจรจากันอย่างจริงจัง และแม้จะมีการทำแต่ก็ตกลงกันไม่ได้กระทั่งเกิด MOU 2544 ขึ้น ซึ่งก็ยังไม่สามารถตกลงกันได้ และรัฐบาลปัจจุบันก็ยังไม่ขยับ แต่กลับจะทำข้อตกลงเพื่อร่วมแบ่งปันพื้นที่ทางทะเล ซึ่งไม่ใช่เป็นของกัมพูชาแต่เป็นของไทย แล้วเราจะเอาทรัพยากรของไทยไปแบ่งครึ่งกับกัมพูชาได้อย่างไร
“นี่คือสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐมีข้อห่วงใย และขับเคลื่อนออกมาเพื่อให้รัฐบาลเกิดความตระหนัก และไม่นำดินแดนของไทยไปให้กัมพูชา และหากยังไม่แสดงความชัดเจนอาจะเกิดผลกระทบทั้งการเมือง และประชาชนในพื้นที่ได้ และที่อันตรายมากก็คือ แนวสันเขื่อนดินที่กัมพูชาสร้างต่อเติมออกไปนั้น เป็นจุดที่อันตรายมาก เพราะการวัดอาณาเขตจะต้องยึดแนวสันเขื่อนนี้ที่เป็นสิ่งปลูกสร้างไว้นานแล้ว หากไม่มีแารประท้วงหรือไม่มีข้อคัดค้านใดๆ ก็จะกลายเป็นเขาพระวิหาร 2 เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายมาก” ดร.ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าว
ด้านประธานกลุ่มประมงชุมชนชายฝั่งอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลตำบลหาดเล็ก ได้แสดงความห่วงใยว่า MOU 2544 ปรากฏเส้นเขตแดนทางทะเลกัมพูชาลุกล้ำทะเลจังหวัดตราดเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ย่อมส่งผลกระทบต่ออาชีพการประมง กระทบต่อรายได้ความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายฝั่งทะเลตราดในอนาคต และที่สำคัญคืออาจเสียเขตแดนทางทะเลที่เป็นของคนไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา ต่อมาประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตำบลท่าพริก ได้กล่าวว่า ที่กลุ่มของตนเดินทางมาในครั้งนี้เนื่องจากกังวลใจต่อสถานการณ์ที่รัฐบาลพยายามเดินหน้า MOU 2544 ที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของของคนตราด และสอบถามเรื่องที่รัฐบาลต้องการแบ่งผลประโยชน์ก๊าซและน้ำมันในทะเลตราดให้แก่กัมพูชาทั้งที่เป็นของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่จะต้องเกิดขึ้น
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมาในครั้งนี้ เพราะต้องการมารับฟังปัญหาทุกด้านจากพี่น้องประชาชนจังหวัดตราดด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำประมง การทำการเกษตร ตนในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยินดีรับฟัง และจะหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอขอบคุณที่ติดตามปัญหาเรื่อง MOU 2544 และได้เดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ ตนขอยืนยันว่า จะคัดค้านการกระทำใดๆ ที่จะทำให้ประเทศ และประชาชนไทยเสียประโยชน์
จากนั้น ตัวแทนขาวประมง 2 กลุ่มคือ นายกาหลง หาดอ้าน และนายเอก ขาวคม ได้ยื่นหนังสือให้นายสนธิรัตน์ ผ่านไปยังนายกรัฐมนตรีและผู้นำฝ่ายค้าน เพื่อแก้ไข MOU 2544 เนื่องจากทางกลุ่มฯได้รวมตัวกันมายื่นหนังสือร้องเรียนให้ช่วยยับยั้งการดำเนินการตาม MOU 2544 ที่เป็นข่าวในสื่อต่างๆ เนื่องจากอาจทำให้ประเทศไทยต้องเสียพื้นที่ทางทะเลของจังหวัดตราดโดยเฉพาะบริเวณรอบเกาะกูด รวมถึงความเสียหายของสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่จะต้องเกิดขึ้นที่ส่งผลกระทบชีวิตและการทำมาหาได้ของคนตราด ความเป็นอยู่ของของประชาชนในจังหวัดตราดอาจไม่เหมือนเดิมจากการดำเนินการตาม MOU 2544 ดังนั้น กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตำบลท่าพริก อำเภอเมือง จังหวัดตราด จึงกังวลใจต่อ MOU 2544 และขอสนับสนุนให้ท่านช่วยดำเนินการยกเลิก MOU 2544 ด้วย
นายเอก ขาวคม ประธานกลุ่มประมงชุมชนชายฝั่งอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลตำบลหาดเล็ก กล่าวว่า มีความห่วงใยในการดำเนินการดังกล่าวของรัฐบาล เมื่อกลุ่มประมงชุมชนชายฝั่งอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลตำบลหาดเล็ก ทราบว่า นายสนธิรัตน์ และคณะได้เดินทางมาที่จังหวัดตราด จึงขอยื่นหนังสือเพื่อ คัดค้านการดำเนินการใดๆ ตาม MOU 2544 ซึ่งอนาคตอาจทำให้เกิดปัญหาในการทำประมง ที่กระทบต่อรายได้ความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายฝั่งทะเลตราดในอนาคตและที่สำคัญคืออาจเสียเขตแดนทางทะเลที่เป็นของคนไทยทุกคนให้แก่ประเทศกัมพูชาในการนี้ กลุ่มประมงชุมชนชายฝั่งอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลตำบลหาดเล็ก จึงรวมตัวกันมาเพื่อยื่นหนังสือขอคัดค้านการทำ MOU 2544 เพื่อปกป้องทะเลตราดเพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลานไทยสืบไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี