คปท.นัด7ม.ค.ลุยทำเนียบฯ
เช็คบิลคอร์รัปชัน
ทวงคืนความยุติธรรมให้สังคม
ตอกย้ำ‘แม้ว’ไม่ได้ป่วยหนักจริง
‘อิ๊งค์’รับอ่านคอมเมนท์โซเชียล
ถูกต่อว่าเยอะแต่ถือเป็นกำลังใจ
คปท.ลั่น 2568 ปีเช็คบิลกับการคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ ตอกย้ำ “แม้ว” ไม่ได้ป่วยหนักจริงนัดอังคาร 7 มกราคม ลุยทำเนียบฯ ทวงคืนความยุติธรรมให้สังคม อาจต้องปักหลักค้างคืนรัฐบาลต้องทำให้กระจ่าง ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องออกไป ด้าน “ดิเรกฤทธิ์” อดีต สว.ซัดผลลัพธ์คดีเอื้อ
เทวดา ชั้น14 จะเป็นระเบิดตูมเดียวพังทั้งรัฐบาล ‘หมอวรงค์’ชำแหละไล่เรียง ‘อุ๊งอิ๊งพูด-ทักษิณขยาย’ สรุปแล้ว’พ่อลูกพ่อกัน’ ‘วันชัย’ขีดเส้น6เดือนจากนี้ หากรบ.ไม่มีผลงานโดดเด่นอยู่ลำบาก แน่ ‘นายกฯ อิ๊งค์’ดีใจยอมรับกดดัน หลังโพล ปชช.ชื่นชมมากสุด รับอ่านคอมเมนต์โซเชียลมีคนต่อว่าเยอะ ถือเป็นกำลังใจทำงาน ยันจะพยายามไม่สร้างดรามา โฆษกรบ.บอกนายกฯขอบคุณพร้อมรับคำติชม-ปรับปรุงบริหารปท.ยันขอทำงานหนักกว่าเดิมยันปีหน้าจะเร่งสปีดนโยบาย
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2567 นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Pichit Chaimongkol ระบุว่า ปีเช็คบิล ปีใหม่ 2568 เป็นปีที่ต้องเช็คบิลกับการคอรัปชั่นครั้งใหญ่ ป.ป.ช.ไต่สวน ข้าราชการที่ร่วมทำผิด ก็เดินหน้าทางคดีไป แต่ความรับผิดชอบทางการเมือง ก็ต้องเกิดขึ้น 1.ทักษิณ ไม่ได้ป่วยจริง หรือไม่ป่วยวิกฤตขนาดต้องรักษา 180 วัน 2.ทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤต ถึงขนาด กินข้าวเองไม่ได้ ใส่เสื้อเองไม่ได้ เดินเองไม่ได้ จึงต้องได้รับการพักโทษ เราปล่อยให้การคอรัปชั่นความยุติธรรมเดินหน้า เหมือนสิ่งที่พวกเขาร่วมกันทำเป็นความถูกต้องได้อย่างไร
นัด7ม.ค.บุกทำเนียบ/ทวงคืนความยธ.
“ อังคาร 7 มกราคม 2568 เราจะไปทำเนียบ ใส่รองเท้าผ้าใบไปถามหาความยุติธรรม ของขวัญปีใหม่ของประเทศไทย คือ ความยุติธรรมของกระบวนการยุติธรรม รัฐบาลมีหน้าที่ทำความยุติธรรมให้กระจ่าง หากไม่สามารถคืนความยุติธรรมให้กระบวนการยุติธรรม รัฐบาลก็ต้องออกไป”นายพิชิตย้ำทิ้งท้าย พร้อมติดแฮทแท็ก #คปท. #หรือต้องปักหลักค้างคืน
‘ดิเรกฤทธิ์’ชี้ผลคดีเอื้อชั้น14พังทั้งรบ.
ด้าน ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย อดีตสมาชิกวุฒิสภา(อดีตสว.) โพสต์เฟสบุ๊ค ระบุว่า “ คดีชั้น 14 รพ.ตร.ระเบิดลูกใหญ่ตูมเดียวก็ฟังทั้งรัฐบาลได้ ถ้า”ป่วยทิพย์”จริง จะมี จนท.ของรัฐผู้ต้องโทษเป็นขั้นบันไดจากล่าง ขึ้นสูงสุด และขยายางจากนักโทษป่วยทิพย์ออกไปสู่ผู้เกี่ยวข้องในแนวราบทั้งหมด เป็นลำดับทั้งแนวตั้งและแนวนอน”
พร้อมระบุอีกว่า “ 1.แพทยสภาเล่นงานจริยธรรมแพทย์ผู้ตรวจอาการและให้ความเห็น 2.ปปช.เอาผิดผู้ปฏิบัติหน้าที่มิชอบที่เรียกไต่สวนรอบแรก 12 คน แล้วตามด้วยผู้บังคับบัญชาตามลำดับถึงนายกรัฐมนตรี 3.ศาลฎีกาฯเรียกไต่สวนกรณีนักโทษไม่ถูกคุมขังตามหมายขังของศาล โดยใครบ้างซึ่งจะโดนโทษอาญากันระนาว 4.ผลลัพท์จากข้อ 1-3 จะไม่เหลือแกนหลักรัฐบาลอยู่ใช้อำนาจอีกต่อไปแล้วครับ”
‘หมอวรงค์’ชำแหละอิ๊งค์พูด-พ่อขยาย
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom ในหัวข้อ “ พ่อลูกพอกัน “ ดังนี้ เราคงได้ฟังนายทักษิณ ไปแสดงวิสัยทัศน์ ที่อีสานในหลายประเด็น ผมจึงไม่แปลกใจที่ อุ๊งอิ๊งได้เอาสิ่งเหล่านี้มาพูดก่อน แต่อาจคุยไม่ค่อยรู้เรื่อง พ่อจึงมาขยายผล ผมดูแล้วมีประเด็นที่น่าสนใจ 1.นายทักษิณ ได้พูดถึงเรื่องการผูกขาดส่งออกข้าว และพูดถึงข้าวหอมมะลิว่า ในวันนี้ข้าวทุกอย่างเราส่งออกต้องผ่านสมาคมผู้ส่งออก แต่ต่อไปเมื่อมีการเลิกสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้ระบบอีคอมเมิร์ซที่ทำให้ชาวไร่ชาวนาหรือลูกหลาน เมื่อเข้าใจก็สามารถสามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้ และขายสินค้าตัวเองไปในประเทศและต่างประเทศได้ โดยที่ไม่ต้องมีใบอนุญาตส่งออก
พูดถึงเรื่องผูกขาดเอื้อประโยชน์ทุนใหญ่ แทนที่จะพูดเรื่องราคาไฟฟ้า น้ำมัน กลับไปพูดเรื่องการส่งออกข้าว นายทักษิณ อาจจะไม่ทราบว่า ข้าวสารราคาตลาดโลก ถูกกว่าที่คนไทยบริโภคในประเทศ และที่สำคัญปัจจุบันนี้ ปริมาณที่บริโภคในประเทศมากกว่าที่ส่งออก
“ผมต้องถามว่า มีพี่น้องชาวนาที่ไหน อยากจะไปทำตลาดข้าวส่งออก ทางที่ดีคุณควรส่งเสริม ให้ชาวนาขายข้าวสารในประเทศ ราคาก็สูง และไม่เกี่ยวอะไรกับการผูกขาด หรือแม้แต่ให้เอาราคาขายข้าวสารในประเทศ มาเฉลี่ยคืนเป็นราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขาย จะทำให้ราคาข้าวเปลือกสูงขึ้น ชาวนาจะได้ประโยชน์เต็มๆ เพราะคุณอาจไม่รู้ว่า ราคาข้าวเปลือกที่ชาวนาขายนั้นมาจากราคาข้าวสารที่ส่งออกต่างประเทศ มาคำนวณเพื่อกำหนดราคาข้าวเปลือก นี่ต่างหากที่เป็นการ เปลี่ยนโครงสร้างราคาข้าวเปลือกแบบยั่งยืน โดยไม่ต้องใช้ภาษีไปอุ้มเลย และเป็นการต่อสู้กับทุนใหญ่ เพื่อชาวนาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ให้ชาวนาไปส่งออกข้าวสาร”
2.นายทักษิณกล่าวว่า เราจะขอให้ชาวบ้านได้เอาดินแลกน้ำ นั่นหมายความว่าขุดดินจากลำคลองแม่น้ำต่างๆเอาไปใช้ประโยชน์ได้ เพื่อให้เรามีพื้นที่รับน้ำมากขึ้นซึ่งจะเป็นสิ่งที่ทำให้คนอีสานมีรายได้เพิ่ม ผมต้องถามนายทักษิณว่า จะมีชาวบ้านที่ไหนเอาจอบ เอาเสียมไปขุดดินจากแม่น้ำลำคลองมาขาย ตลกสิ้นดี หรือถ้าคุณให้สิทธิ์ขุดดินในที่สาธารณะ ชาวบ้านก็ไม่มีปัญญาไปขุด คงมีแต่ผู้รับเหมา หรือ นายทุนเท่านั้นที่ใช้เครื่องจักรไปขุด สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ ไม่ใช่ประชาชนที่เป็นชาวบ้าน มีแต่นายทุนทั้งสิ้น โครงการนี้คิดได้อย่างไง??
ระบบการเงินไปเสี่ยงกับคอยน์
3.นายทักษิณกล่าวว่า พันธบัตรที่ต้องออกทุกปี เอาเม็ดเงินตรงนี้มาสู่ระบบเศรษฐกิจดีหรือไม่ ตนบอกว่าเราออกพันธบัตรและขายบุคคลทั่วไป แล้วอายุพันธบัตรสั้นๆ เพื่อสามารถเอามาหมุนเวียนในตลาดได้ออกเป็นรูปของเหรียญหรือคอยน์
“ผมเข้าใจว่าคุณจะขายพันธบัตรในรูปของคอยน์ เท่ากับว่าคุณกำลังจะเอาระบบการเงิน ที่ดูแลโดยธนาคารชาติไปเสี่ยงกับคอยน์ ที่ราคาจะผันผวนมาก ลำพังคุณออกพันธบัตรในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ คุณอาจต้องซื้อประกันความเสี่ยง ถ้าในรูปของคอยน์ที่ราคาผันผวนมาก ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมาก ไม่แปลกใจที่การตั้งประธานบอร์ดแบงค์ชาติคนใหม่จึงถูกคัดค้านมาก”
ตอกย้ำสรุปแล้ว’พ่อลูกพ่อกัน’
4.นายทักษิณกล่าวว่า ผู้หญิงอีสานทำไมถึงมีฝรั่งมาชอบเยอะแยะ ความสวยของธรรมชาติ บางทีบางครั้งมีเสน่ห์ ถ้าเราจะประกวดคนอีสานที่บุคลิกดีๆ ที่ไม่ผ่านการศัลยกรรมเลย แล้วนำไปสอนเป็นนางแบบระดับโลกดีหรือไม่ ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้อีกทางให้กับคนอีสาน คุณแน่ใจนะว่า คุณจะประกวดสาวอีสานบุคคลิกดี เพื่อไปสอนเป็นนางแบบระดับโลก แต่ที่คุณเกริ่นนำมาว่า ผู้หญิงอีสานทำไมฝรั่งชอบเยอะ มันทำให้คิดเป็นอย่างอื่นมากว่า ไม่ใช่ไปเป็นนางแบบ
“สรุปแล้วผมฟังอุ๊งอิ๊งพูด มาต่อด้วยนายทักษิณขยาย ถ้าใช้สติคิด จะบอกได้เลยว่าพ่อไม่ต่างจากลูกเท่าไร แค่ลีลาต่างกันเท่านั้น แต่สาระไม่ต้องพูดถึง ทางที่ดีให้ลูกสาวกลับไปเลี้ยงลูก ให้พ่อกลับไปเลี้ยงหลาน จะเป็นประโยชน์ต่อชาติมากกว่านี้”นพ.วรงค์ย้ำทิ้งท้าย
‘วันชัย’ชี้6เดือนรบ.อิ๊งค์ไร้ผลงานอยู่ลำบาก
นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่ารัฐบาลอีแอบ..ไม่ว่าจะเป็นอีแอบหรือไอ้แอบอย่างไรก็ยังแอบอยู่กับเพื่อไทย..กอดคอกันเป็นรัฐบาลตลอดไป ไม่มีใครกระโดดออกจากอำนาจแน่นอน..จะชอบคุณทักษิณหรือไม่ชอบ แต่ก็ชอบเป็นรัฐบาล ชอบมีอำนาจอย่างที่เป็นอยู่นี้..แม้แต่ภูมิใจไทย ใครจะมองว่ามีท่าทีฮึดฮัดแข็งข้อ แต่เนื้อแท้ก็ยังอยากเป็นรัฐบาลอยู่ตลอดไปเช่นกัน..ขืนกระโดดออกไปก็ไม่รู้ว่าจะไปยืนอยู่ซีกไหนจะไปเป็นฝ่ายค้านก็ไม่ถนัดจะไปร่วมกับสีส้มก็แหยงๆ ไปๆมาๆพรรคร่วมทุกพรรคจะกล้ำกลืนฝืนทนอย่างไรก็ต้องร่วมหัวจมท้ายกันไปอย่างนี้แหละ...ทางเลือกอื่นนอกจากเพื่อไทยไม่มีอีกแล้ว...
“รัฐบาลเพื่อไทยและคุณทักษิณจะอยู่ได้หรือไม่ พรรคร่วมก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่หัวใจที่สำคัญก็คือผลงานที่จะสร้างให้กับประชาชนต่างหากที่จะเป็นตัวกำหนด..นายกอุ๊งอิ๊ง มาเกือบครึ่งปีแล้ว ยังโซงโลงเซงเลงอยู่.. 6 เดือนต่อแต่นี้ ถ้ายังเป็นเช่นที่ผ่านมา ไม่มีผลงานดังที่แถลง และดังที่คุณทักษิณทอล์คโชว์ไปในหลายเวทีที่ว่าจะแก้โน่นแก้นี่ แต่ถึงเวลาแล้ว ก็ยังแก้ไม่ได้ จะแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆก็คงจะไม่ได้อีกต่อไป..ศัตรูหมู่มารทั้งในสภานอกสภา ทั้งขาเก่าขาใหม่ ก็จะถาโถมเข้าโจมตี จะอยู่ได้หรือไม่ และจะไปได้รอดตลอดรอดฝั่งหรือไม่ ไม่ใช่เสียงในสภาหรือพรรคร่วมแต่มันจะเป็นสหบาทา ที่ร่วมกันถล่มโจมตี เมื่อถึงวันนั้นเพื่อไทยก็เพื่อไทยเถอะ..พรรคร่วมคงกระสานซ่านเซ็นแตกกระเจิง กระโดดลงจากเรือไปคนละทิศคนละทาง..ซึ่งพรรคไทยรักไทยและคุณทักษิณเคยเจอมาแล้ว..หวังว่าวันนี้ คงไม่เป็นเช่นวันนั้น”นายวันชัย ย้ำทิ้งท้าย
‘เทพไท’ฟันธง! รัฐบาลมีรอยร้าว
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส. นครศรีธรรมราชโพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง”รัฐบาลมีรอยร้าว”ระบุว่า ผลการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวาระพิจารณาพ.ร.บ.ประชามติที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วมสส.-สว.ซึ่งมติของวิปรัฐบาล ให้โหวตสนับสนุนการทำประชามติชั้นเดียว แต่พรรคภูมิใจไทยกลับโหวตสวนมติวิปรัฐบาล จึงทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องความเป็นเอกภาพและความขัดแย้งเกิดขึ้นในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างกว้างขวาง
พร้อมระบุว่า มีผู้สื่อข่าวได้สอบถามเรื่องนี้กับน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯว่าจำเป็นต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ได้รับคำตอบว่าไม่ต้อง ให้เป็นไปตามกระบวนการสภาฯเพราะบางที สส.พรรคเดียวกันก็คิดไม่เหมือนกัน ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรการบริหารงานเราร่วมมือกันอยู่แล้ว เป็นการตอบคำถามแบบสไตล์เดิมๆ คือลอยตัว ตีกรรเชียง หนีการตอบคำถาม อยู่เป็นประจำ
จับตา‘เพื่อไทย’ยังดาหน้าถล่มอีแอบ
ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่าผลการลงมติร่างพ.ร.บ.ประชามติคืออีกรูปธรรมหนึ่งของการเมือง3ก๊ก พรรคร่วมรัฐบาล สำคัญโหวตไปอีกทาง ซึ่งตรงกับส.ว.จากกติกาของก๊กอนุรักษ์นิยม เป็นการพาดพิงไปถึงพรรคภูมิใจไทยโดยตรง สำหรับเพจของพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความว่า อย่าไปหลงคารม “อีแอบ”ที่ล็อกโหวต2ชั้น มิเช่นนั้น ชาติหน้าก็ไม่ได้แก้ อดทนรอเพื่อให้คนไทยใช้สิทธิประชาธิปไตยสร้างอนาคตที่ดีกว่า เป็นการหยิบยกคำว่าอีแอบ ที่นายทักษิณ ชินวัตร เคยพูดไว้ในการสัมมนาพรรคเพื่อไทย ที่หัวหินว่า ไม่ชอบพรรคร่วมรัฐบาลที่เป็นอีแอบ การที่พรรคเพื่อไทยหยิบยกเอาคำว่าอีแอบขึ้นมาโพสต์ เป็นการยืนยันคำพูดของนายทักษิณ มาพาดพิงถึงพรรคภูมิใจไทยแบบเต็มๆ
ต่อมา นายอนุทิน ได้ตอบคำถามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาเป็นอีแอบนั้นว่า“คงอารมณ์ค้างในเรื่องอื่นๆ คนที่เหน็บแนม เจอกันก็กอดกันทุกที ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ทุกคนก็ต้องยอมรับการตัดสินใจ ย้ำพรรคภูมิใจไทยไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์พรรคอื่น”ซึ่งเป็นการเหน็บแนมกลับไปยังพรรคเพื่อไทย
แม้พยายามปกปิดก็ปิดรอยร้าวไม่ได้
“จากท่าทีของแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย จะเห็นได้ชัดว่า มีร่องรอยของความขัดแย้ง และความไม่พอใจต่อกัน เพียงแต่พยายามปกปิดไม่ให้เกิดภาพความขัดแย้งต่อสาธารณชน และเรื่องนี้ แม้ว่านางสาวแพทองธาร จะออกมาปฏิเสธว่า ไม่เป็นไรก็จริงอยู่ แต่นายทักษิณคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง คงไม่ยอมให้พรรคภูมิใจไทย แสดงบทอีแอบอยู่บ่อยๆเช่นนี้ ซึ่งจะเกิดรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งอาจจะขยายผลถึงขั้นแตกหักก็ได้ แม้ว่าจะพยายามปกปิดอย่างไร ก็ไม่สามารถปกปิดรอยร้าวนี้ได้ เหมือนกับคำสุภาษิตที่กล่าวว่า “อันถ้วยโถโอร้าว เอากาวติด ถึงสนิทก็ยังเห็นว่าเป็นแผล”นายเทพไท ระบุ
อิ๊งค์รับมีเสียงต่อว่าเยอะถือเป็นกำลังใจ
วันเดียวกัน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสำรวจความคิดเห็น ของนอร์ทกรุงเทพโพลจากมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ที่ ประชาชนให้ความชื่นชม นายกรัฐมนตรี มาเป็นอันดับที่ 1 คิดเป็นร้อยละ15.4จากการสำรวจความเห็นประชาชน 1,500 คน จากทั่วภูมิภาคประเทศไทยว่ารู้สึกดีใจมากๆ เพราะเวลาอ่านความคิดเห็นในโลกโซเชียล ก็มีคนต่อว่า ตนเองเยอะซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าอย่างไรโดยมีทั้งต่อว่าบ้างและชื่นชมบ้างสลับกัน ซึ่งพอผลโพลนี้ออกมา ก็ถือว่าเป็นกำลังใจเพราะตนเองเพิ่งเป็นนายกรัฐมนตรีได้ประมาณ 90 กว่าวัน ก็อยากจะทำให้เต็มที่ในทุกช็อตที่มีโอกาสและทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่
ส่วน3อันดับแรกในผลโพลคือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คมนาคมซึ่งเป็นนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยทั้งหมดจะสะท้อนเรื่องการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายกฯตอบว่า ใช่ อันนั้น คือ ดีมาก และชื่อที่ติดอยู่ในผลโพลก็ทำให้เข้าใจว่า ได้ทำงานหนักมากๆ ซึ่งตนเองเวลามีภาระงานอะไร ก็ต้องฝาก 2 ท่านนี้ ซึ่งก็สามารถฝากได้จริงๆและสานงานต่อได้
พร้อมย้ำว่าทุกคนในคณะรัฐมนตรีได้ทำงานอย่างหนักอยู่ ก็ต้องร่วมมือกัน เพราะประเทศของเรามีหลายจังหวัดและหลายพื้นที่ หากสามารถแบ่งกระจายงานกันได้จะเป็นเรื่องที่ดีมากๆเพราะจะได้พัฒนาไปพร้อมๆกัน
รับกดดัน/ยันพยายามไม่สร้างดรามา
เมื่อถามว่าช่วงนี้ดูเหมือนนายกรัฐมนตรีจะได้รับรางวัลต่างๆมากมายซึ่งพบว่าผลสำรวจโพลจากหลายสำนักก็ติดอันดับต้นๆ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า เป็นเรื่องที่กดดันเหมือนกัน แต่ก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุดและทำด้วยใจที่หวังว่า ประโยชน์จะถึงมือพี่น้องประชาชนจริง ซึ่งพยายามที่จะไม่สร้างดรามา และไม่ทำให้ใครทะเลาะกัน โดยช่วงนี้จะเทศกาลปีใหม่แล้ว ขอให้สดใสกันเข้าไว้
นายกฯขอบคุณโพล/น้อมรับคำติชม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าจากผลการสำรวจของนอร์ทกรุงเทพโพลมหาวิทยาลัยนอร์ท กรุงเทพ บุคคลใดที่สมควรได้รับการยกย่องให้เป็นนักการเมืองแห่งปี2567พบว่าประชาชนชื่นชมและชื่นชอบโหวตให้น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นอันดับหนึ่ง โดยนายกฯกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจ ถือว่าจะเป็นอีกแรงผลักดันสำคัญในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป โดยนายกฯทำหน้าที่บริหารประเทศมาเพียง3เดือนได้เร่งผลักดันแก้ไขปัญหาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและตรงตามความต้องการของประชาชน ผลการสำรวจจะเป็นอีกเสียงที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน ความสำเร็จที่เห็นผล อย่างเป็นรูปธรรมในการเดินหน้าในทุกนโยบายของรัฐบาลและพร้อมรับฟังความคิดเห็น คำชม หรือข้อแนะนำ เพื่อนำไปปรับปรุงให้เป็นประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดิน
อิ๊งค์-รบ.ยันขอทำงานหนักกว่าเดิม
นายจิรายุระบุว่านายกฯและรัฐบาล ยืนยันว่าจะขอทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม ทั้งการลงพื้นที่แก้ไขปัญหาในทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดและทุกภาคของประเทศ จะนำพาประเทศไทยให้เป็นที่รู้จัก และเชิญชวนนักลงทุน นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยให้ได้มากที่สุด โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยมีความเจริญก้าวหน้าในทุกตารางนิ้วของประเทศ ตามนโยบาย 2568 โอกาสไทยทำได้จริง หลังจากภาวะเศรษฐกิจ สังคมหยุดนิ่งมานานหลายปี
ยืนยันปีหน้าจะเร่งสปีดนโยบาย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าปีหน้าจะเร่งสปีดนโยบายต่างๆ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาอุทกภัย ปีหน้าประชาชนช่วงหน้าฝน จะได้ไม่ต้องมาเสี่ยงภัยกับอุทกภัยซ้ำซากแบบนี้อีก นอกจากนี้การเร่งรัดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะเร่งทำอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เห็นผลสัมฤทธิ์โดยเร็ว รวมทั้งการปราบปรามยาเสพติดที่มอบนโยบายเร่งด่วนให้ส่วนราชการให้ดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมาย ทั้งนี้นายกฯ ยืนยันและขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะนำพาเศรษฐกิจและสังคมรวมทั้งสิ่งดีๆกลับคืนสู่พี่น้องประชาชนให้ได้ในเร็ววันนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะต้องทำให้ประเทศไทยหลุดกับดักความยากจนและก้าวไปสู่ประเทศพัฒนาแล้วให้ได้
พท.รุมอวย‘อิ๊งค์’สะท้อนความเชื่อมั่น
น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีศูนย์สำรวจความคิดเห็นนอร์ทกรุงเทพโพล มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ เปิดผลสำรวจประชาชนยกให้ น.ส.แพทองธาร เป็นบุคคลอันดับ1นักการเมืองแห่งปี 2567ว่าหลังนายกฯแพทองธารแถลงวิสัยทัศน์และผลงานรัฐบาลหลังเข้าบริหารประเทศ 90 วันแล้ว นอกจากคนไทยจะติดตามการทำงานของรัฐบาลอย่างแข็งขันแล้ว นายกฯยังได้รับคะแนนนิยมจากประชาชนมาเป็นอันดับ1ในผลสำรวจของนอร์ทกรุงเทพโพลและเป็นสตรีผู้ทรงอิทธิพลอันดับ3 ในเอเชียและอันดับ29ของโลก จากผลการจัดอันดับของนิตยสาร Forbes สิ่งเหล่านี้คือประจักษ์พยานหลักฐานของความมุ่งมั่นตั้งใจและผลสำเร็จของรัฐบาลที่นำโดยนายกฯแพทองธาร เพียง3เดือนแรกเท่านั้นและได้ประกาศนโยบายไว้ชัดเจนทั้ง6นโยบายระยะยาวที่ต้องทำในเชิงโครงสร้างรวมถึง5นโยบายที่กำลังจะทำในปี2568ได้แก่ โครงการSMLหนึ่งอำเภอหนึ่งทุน(ODOS)โครงการดิจิทัลวอลเล็ต การแก้หนี้ครัวเรือน และโครงการบ้านเพื่อคนไทย
“นี่ไม่ใช่แค่ความเชื่อใจจากพี่น้องประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่เป็นความเชื่อมั่นจากประชาคมโลก ที่มีต่อท่านนายกฯ แพทองธาร สตรีคนที่2ที่ได้เป็นผู้นำฝ่ายบริหารในประวัติศาสตร์การเมืองไทย จึงขอให้ประชาชนรอติดตามนโยบายดีๆจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีหัวใจเพื่อประชาชน ตลอดปีหน้า 2568 ต่อไป”น.ส.ลิณธิภรณ์ ย้ำ
ขณะที่ น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านแอปพลิเคชั่น X (ทวิตเตอร์) @Dear_Khattiya ระบุว่า...ที่บอกกันว่าเป็นห่วงภาวะผู้นำ ความเชื่อมั่น และคะแนนนิยมของนายกฯแพทองธาร ก็ต้องขอขอบคุณมากนะคะ แต่เดียร์ว่าไม่ต้องกังวลหรอก เชื่อว่านายกฯแพทองธารจะทำหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างดีที่สุด ถ้าดูจากโพลนอร์ทกรุงเทพนี้…มีอีกคนในฐานะผู้นำ น่าเป็นห่วงกว่าเยอะมาก ถึงมากที่สุด
พท.ชี้‘ทักษิณ’ชู‘นางแบบอีสาน’
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวในงานสัมมนา ISAN NEXT:พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤติ หัวข้อ “อนาคต อีสาน โอกาสประเทศไทย”ระบุจะใช้ซอฟต์พาวเวอร์–เอไอพลิกอีสาน มุ่งลดทุนผูกขาดช่วยชาวบ้าน ยกมหาวิทยาลัยศูนย์กลางพัฒนาคน เพิ่มจีดีพีลดยอดหนี้สาธารณะ ไอเดียกระฉูดประกวดนางแบบอีสานว่าโครงการประกวดนางแบบอีสานหากเกิดขึ้น จะเป็นโครงการที่เน้นความงามธรรมชาติ เป็นแนวคิดที่สามารถสร้างรายได้ใหม่ ให้ประชาชนคนอีสาน และช่วยประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมไทยในเวทีโลก
เสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่เวทีโลก
“หากนำแนวคิดนี้ ไปพัฒนาจริงจังจะสร้างงาน สร้างชื่อเสียงและยกระดับเศรษฐกิจท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้มหาวิทยาลัย เป็นศูนย์กลางฝึกอบรมทักษะให้คนอีสาน ทั้งด้านซอฟต์พาวเวอร์ เทคโนโลยีAIและการพัฒนาโอท็อปในรูปแบบทันสมัยจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจในพื้นที่ให้เติบโตอย่างยั่งยืน แนวคิดซอฟต์พาวเวอร์ และการผสมผสานเทคโนโลยีจะพลิกโฉมภาคอีสาน สร้างโอกาสใหม่ให้คนในพื้นที่ ทั้งด้านการสร้างรายได้ ใหม่ การลดต้นทุน และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ของไทย”นายอนุสรณ์ ระบุ
ชี้‘มาดามหน่อย’สานต่อนโยบายพท.
นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงกรณี พรรคเพื่อไทย เปิดตัวนางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายก อบจ.นครราชสีมา เป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.นครราชสีมา ในนามพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นการตอกย้ำเป้าหมายในการนำนโยบายระดับชาติมาปรับใช้ให้สอดรับกับท้องถิ่น โดยเฉพาะนโยบายสำคัญอย่างการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส แก้ปัญหาหนี้สิน และปราบปรามยาเสพติด การที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวนางยลดาเป็นผู้สมัคร สะท้อนความมุ่งมั่นในการพัฒนาท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรมโดยเฉพาะการแก้ปัญหาปากท้องและเพิ่มโอกาสให้ประชาชน ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันโคราชสู่การเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคอีสาน
เชื่อมโยง-พัฒนาโคราชสู่ความยั่งยืน
“หากนางยลดาได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกสมัย จะเป็นการเชื่อมโยงนโยบายระดับชาติสู่การพัฒนาท้องถิ่นในมิติใหม่ ทั้งการสร้างงาน เพิ่มรายได้ และพัฒนาสังคม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน ด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถที่เป็นที่ประจักษ์ของผู้สมัคร พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ โดยการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน สนามอบจ.ที่พรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครนายกอบจ.จะเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างรัฐบาลกลางกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พรรคเพื่อไทยจึงเน้นในทุกสนาม ไม่เฉพาะจังหวัดนครราชสีมา แต่จะมีอีกหลายจังหวัดที่มีความพร้อมและพี่น้องประชาชนพร้อมให้โอกาสกับพรรคเพื่อไทยได้เข้าไปทำงาน ด้วยวิสัยทัศน์และความเข้าใจปัญหาในพื้นที่ของผู้สมัคร เชื่อมประสานกับนโยบายเรือธงของรัฐบาล จะช่วยให้การขับเคลื่อนนโยบายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก และยกระดับความเป็นอยู่ คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในทุกระดับให้ดีขึ้น”นายอนุสรณ์ กล่าว
‘อิ๊งค์’เตรียมเปิดตัว6ผู้สมัครนายกอบจ.
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการเลือกตั้งนายกอบจ.หลายพื้นที่ในนามพรรคเพื่อไทยว่าพรรคเพื่อไทยจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.เพิ่มอีก 6 คน โดยวันที่ 24 ธ.ค. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะแถลงข่าวที่พรรคเพื่อไทย โดยจะเป็นผู้แถลงข่าวเปิดตัวประกอบด้วย นางยลดา หวังศุภกิจโกศล อดีตนายกอบจ.นครราชสีมา และอีก 5 จังหวัด คือ มุกดาหาร หนองคาย บึงกาฬ น่านและปราจีนบุรี โดยพรรคเพื่อไทยค่อนข้างมั่นใจในสนามที่เราส่ง เพราะเราเลือกส่งในจังหวัดที่มั่นใจ โดยพรรคเพื่อไทยมีนโยบายกลางให้ผู้สมัครลงไปทำความเข้าใจกับประชาชน ที่สำคัญท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติ ถ้าไม่ได้ไปทางเดียวกัน โอกาสพัฒนาจะข้อนข้างยาก
นายสรวงศ์ กล่าวว่า การที่เพื่อไทยไปทำงานเมืองท้องถิ่น จะทำให้การพัฒนาประเทศภาพรวมเป็นไปได้ด้วยดี เพราะเราจะสอดประสานระหว่างท้องถิ่นกับส่วนกลาง และนำความต้องการของประชาชนในพื้นที่เป็นที่ตั้ง ผลักดันเป็นนโยบายตอบสนองความต้องการประชาชน ตรงนี้จะมีส่วนทำให้กระแสนิยมของพรรคเพิ่มขึ้นเพราะท้องถิ่นใกล้ประชาชน รู้ปัญหาดีกว่าระดับชาติ การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นเริ่มจากไทยรักไทย แต่ไม่ได้ถูกทำอย่างจริงจัง สิ่งที่หัวหน้าพรรคพูดเสมอคือ ให้โอกาสประชาชน ไม่ได้ยึดแต่นโยบายส่วนกลาง ต้องให้นโยบายท้องถิ่นได้รับการปฏิบัติเป็นรูปธรรมมากที่สุดโดยให้อำนาจประชาชนมากขึ้น
สมัครนายกอบจ.29-27ธ.ค. /กาบัตร1ก.พ.
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ว่าผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดและนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยกำหนดให้วันเลือกตั้ง คือ วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เปิดรับสมัครเลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.ถึงวันที่ 27 ธ.ค.2567 สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด
ทั้งนี้สำนักงาน กกต.ขอเชิญชวนประชาชนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ และสถานที่อื่นตามที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำ อบจ.เห็นสมควร หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี