‘ทวี’เชื่อนายกฯมาเลเซียตั้ง‘ทักษิณ’เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานอาเซียน จะส่งผลดีต่อการเจรจาเพื่อยกระดับความร่วมมือตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะการค้าการลงทุน-แก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ
22 ธันวาคม 2567 ที่ด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางไปติดตามความคืบหน้า และรับฟังปัญหาในการเปิดด่านถาวรบูเก๊ะตา เนื่องจากปัจจุบันแม้จะมีการสร้างอาคารด่านศุลกากรบูเก๊ะตา ตามโครงการระยะที่ 1 ถึง 3 เสร็จแล้ว โดยใช้งบประมาณราว 260 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถเปิดให้บริการศุลกากรบูเก๊ะตาได้อย่างอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศบริเวณใกล้เคียงก่อนที่จะข้ามสะพานมิตรภาพไทย-มาเลเซียแห่งที่สอง ไปยังฝั่งมาเลเซีย ยังคงมีพื้นที่สุ่มเสี่ยงที่จะเกิดการเล็ดลอดหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้ และเป็นอุปสรรคต่อการทำพิธีการด้านศุลกากร
พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ดังนั้นศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายใต้ หรือ ศอ.บต จึงเตรียมแผนเพื่อขอขยายพื้นที่ของด่านพรมแดนบูเก๊ะตาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และยังเตรียมแผนปรับเปลี่ยนเส้นทางการจราจรในพื้นที่โดยรอบ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งใน จ.สงขลา จ.ปัตตานี และ จ.ยะลา ซึ่งใช้ด่านพรมแดนบูเก๊ะตา เป็นช่องทางหลักเพื่อเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศมาเลเซีย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ศอ.บต. ต้องการให้รัฐบาลช่วยผลักดันและเจรจาให้ฝ่ายมาเลเซียปรับปรุงพัฒนาเส้นทางคมนาคมทางด้านฝั่งมาเลเซียเพื่อรองรับการเดินทางเชื่อมต่อจากฝั่งไทย รวมทั้งต้องให้ฝ่ายมาเลเซียยกระดับความร่วมมือและอำนวยความสะดวกต่อการนำเข้า-ส่งออกปศุสัตว์และสินค้าการเกษตรจากฝั่งไทยด้วย
พ.ต.อ.ทวี มองว่าการที่นายกรัฐมนตรี อันวาร์ อิบราฮิม แห่งมาเลเซียได้แต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของประธานอาเซียน จะยิ่งเอื้อต่อบรรยากาศของการเจรจาระหว่างไทยกับมาเลเซียในการแสวงหาทางออกร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งการยกระดับความร่วมมือตามแนวชายแดน การพัฒนาการค้าและการลงทุนข้ามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ตลอดจนการแก้ปัญหาก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งการแก้ไขปัญหาไม่สามารถกระทำโดยรัฐบาลชาติใดชาติหนึ่งเพียงฝ่ายเดียวได้ แต่ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ปัญหา โดยการใช้การพูดคุยและเจรจาเป็นกลไกหลัก ไม่ใช่การเผชิญหน้าทางการทหาร
พ.ต.อ.ทวี ยังได้รับปากว่าจะนำประเด็นดังกล่าวไปรายงานต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ระหว่างปี 2568 - 2570 ไทยและมาเลเซียจะพัฒนาเส้นทางคมนา คมเพิ่มขึ้น เพื่อเชื่อมต่อด่านพรม แดน 3 จุด คือ ด่านพรมแดนบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส - ด่านศุลกากร บุกิตบุหงา ในประเทศมาเลเซีย - ด่านศุลกากร สุไหง โก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี ได้กำชับว่าในระหว่างที่มีการก่อสร้างดังกล่าว หน่วยงานของรัฐจะต้องช่วยลดผลกระทบทางด้านจราจรให้แก่ประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และทาง ศอ.บต. ได้รายงานว่าจะมีการก่อสร้างสะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโก-ลก เพื่อแก้ปัญหาการจราจร ในช่วงที่มีโครงการก่อสร้างขยายด่านพรม แดนดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี