‘หนู’ให้รอศาล
พิพากษาชี้ขาด
ที่ดินเขากระโดง
คู่กรณีควรเงียบ
“อนุทิน”ขอทุกฝ่ายเงียบ ปมที่ดินเขากระโดง ย้ำให้รอศาลตัดสิน รับคุยอธิบดีกรมที่ดินแล้วสบายใจ ด้าน “สุริยะ” ลั่นเขากระโดงจบได้ ถ้าทุกฝ่ายยึดกฎหมาย เข้าใจ รมช.มหาดไทย ห่วงใยคนในพื้นที่ ชี้หากการรถไฟฯ ได้ที่ดินกลับคืน จะแก้ปัญหาถาวร ให้เช่าราคาถูก ยันมีหลักฐาน 5 พันไร่ เป็นของการรถไฟฯ
เมื่อวันที่ 24ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยังยืนยันว่าที่ดินเขากระโดงจ.บุรีรัมย์ กว่า 5,000 ไร่ เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่าตอนนี้ที่ดีที่สุด คือให้ทุกฝ่ายเงียบ รอคำพิพากษาและคำสั่งศาลปกครองซึ่งอยู่ในกระบวนการ เพราะหากไปถามกรมที่ดินเขาก็ยืนยันว่าเขาถูกต้อง ถามการรถไฟฯ เขาก็ยืนยันว่าถูกต้อง เพราะเขาเป็นคู่กรณีกัน และมีประชาชนเป็นคู่กรณีด้วย ดังนั้น เมื่อต่างคนต่างยืนยันความถูกต้องของตนผู้ที่ตัดสินคือ กระบวนการยุติธรรม ตนอธิบายไม่รู่กี่รอบแล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า เมื่อเห็นแถลงการณ์ของการรถไฟฯ ได้โทรศัพท์ไปถามอธิบดีกรมที่ดิน อธิบดีฯ ยืนยันว่าต่อให้ตนไม่ได้เป็น มท.1 ก็จะออกโฉนดเช่นนี้ เพียงแต่เมื่อตนได้เป็น มท.1 เลยทำให้การทำงานยากขึ้นนิดหน่อย เพราะถูกโยงกับเรื่อง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้บอกกับอธิบดีฯ ว่าตนสบายใจ เพราะได้สั่งการไปแล้วว่าทุกอย่างต้องเป็นธรรม และต้องไม่ผิดระเบียบถูกต้องตามกฎหมายด้วยความรวดเร็ว ซึ่งเขาก็ยืนยันตามนั้น ดังนั้นต่อไปนี้ขอให้รอกระบวนการศาลปกครอง
ด้านนายสุริยะ กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทเขากระโดงหลังจากนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นำคณะลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และมีการพูดถึงว่าการรถไฟฯ ก้าวล่วงสิทธิประชาชนในพื้นที่ ว่าเรื่องนี้อยากจะทำความชัดเจนว่าศาลอุทธรณ์ภาค 6 คณะกรรมการป.ป.ช.และศาลฎีกา ตัดสินว่าที่บริเวณเขากระโดงนั้นเป็นที่ของการรถไฟฯ ส่วนตัวเข้าใจนายทรงศักดิ์ที่ห่วงใยประชาชนซึ่งเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่อย่างไรก็แล้วแต่เมื่อมีคำพิพากษาทางการรถไฟฯต้องทำตาม ถ้าไม่ทำตามเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า หากนำพื้นที่เขากระโดง กลับมาให้การรถไฟฯแล้วเราสามารถเยียวยาประชาชนในพื้นที่ได้ โดยอาจจะคิดในราคาที่ค่อนข้างถูก ซึ่งก็จะมีการแก้ปัญหาที่ถาวรต่อไป ส่วนข้อห่วงใยว่าเป็นที่ตั้งของหน่วยราชการต่างๆ 12 แห่งเช่น ศาลากลางจังหวัด อบจ.บุรีรัมย์ นั้น เราสามารถตรวจสอบก่อนถ้าเป็นที่ของการรถไฟฯสามารถตกลงให้เช่าได้ เช่นกรณีที่ดินรัชดาฯ ที่มีศาลอาญาและกรมอัยการก็ขอเช่า ทางการรถไฟฯก็ให้เช่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราก็ห่วงใยประชาชนเหมือนนายทรงศักดิ์
เมื่อถามว่า 2กระทรวงต้องมาคุยกันหรือไม่เพราะพูดกันคนละภาษา นายสุริยะกล่าวว่า ได้ชี้แจงไปแล้วว่าที่ทั้งหมดเป็นของการรถไฟฯ ส่วนที่นายทรงศักดิ์ห่วงใยประชาชน ก็ต้องบอกว่าต้องทำตามกระบวนการ เมื่อถามว่าชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าการรถไฟฯไม่มีหลักฐานยืนยัน 5,000 ไร่ถ้ามีให้ไปฟ้องรายแปลง นายสุริยะกล่าวว่าทางศาลฎีกาสูงสุดตัดสินเรียบร้อยแล้ว ว่าพื้นที่ 5,000 กว่าไร่เป็นที่ของการรถไฟฯ โดยทางกรมที่ดินก็พยายามที่จะพูดถึงเรื่องของกฤษฎีกา การรถไฟฯชี้แจงชัดเจนว่าตั้งแต่กรมรถไฟ2462 มีการชี้แจงในพื้นที่ตั้งแต่อุบลราชธานีถึงนครราชสีมามีส่วนของ เขากระโดงว่าเป็นที่ของการรถไฟฯ
ต่อข้อถามว่าสามารถยืนยันได้ว่าศาลฎีกาวินิจฉัย 5, 000ไร่ใช่หรือไม่เพราะชาวบ้านยืนยันว่า คำสั่งศาลฎีกา ผูกพันเฉพาะกรณี 35 รายนายสุริยะ กล่าวว่าตนไม่ได้เชี่ยวชาญกฎหมายจึงปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมายและยืนยันชัดเจนว่าสามารถบังคับได้ ยืนยันว่ามีเอกสารสิทธิ์ตรงนี้ ส่วนเรื่องนี้จะจบหรือไม่เพราะเป็นมหากาพย์มายาวนานนายสุริยะกล่าวว่า ถ้าทุกฝ่ายทำตามกฎหมายมันจบได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี