เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 นายประเสริฐ จันทรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 3 /2567 ว่า การประชุมในวันนี้มีวาระเพื่อพิจารณาสำคัญ คือ เรื่องการกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเขตอุทยานแห่งชาติทับลานซึ่งผมจะกล่าวถึงรายละเอียดต่อไป เรื่องความคืบหน้าเรื่องการจัดเก็บภาษีที่ดินที่รัฐจัดให้กับประชาชนแบบแปลงรวม การกำหนดแผนการช่วยเหลือประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินของรัฐให้เข้าถึงสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา เรื่องการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในพระพุทธศาสนาในเขตที่ดินของรัฐ และเรื่องการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่ป่าไม้ถาวรในจังหวัดเพชรบุรี
นายประเสริฐ กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับลาน นั้น จากการลงพื้นที่ด้วยตนเอง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อไปปลดล๊อกข้อจำกัดที่ทำให้การแก้ไขปัญหาพื้นที่นี้ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร ทำให้ประชาชนกว่า 400 ราย ยังถูกดำเนินคดี ทั้งที่บางรายนั้นอยู่อาศัยมาก่อนการประกาศเขตอุทยาน บางรายได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินจาก ส.ป.ก. ในการประชุมที่โคราชผมได้สั่งการใน 2 ประเด็นหลัก คือ 1.การดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่ถูกดำเนินคดี โดยให้ สคทช. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงยุติธรรม ยกร่างคำสั่งคณะกรรมการอิสระเพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐฯ (One Map) และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ประกอบด้วย ผู้แทนภาครัฐ ภาควิชาการ และประชาชน ในสัดส่วนที่เท่ากัน เช่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ โดยเสนอให้ท่านนายกรัฐมนตรีลงนาม และให้คณะกรรมการชุดนี้พิจารณาปัญหาพื้นที่ทับลานให้เป็นที่ยุติใน 60 วัน โดยระหว่างนี้ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาการชะลอการฟ้องและพิจารณาคดีเพื่อหยุดผลกระทบต่อประชาชน พร้อมให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสรุปเรื่องร้องเรียน และปัญหาความเดือนร้อนด้านที่ดินของประชาชน ส่งให้ สปน. และ สคทช. เพื่อรายงานผลต่อ คทช. และให้ สคทช. ศึกษามาตรการเยียวยาและเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อล้างมลทินให้ราษฎรที่ได้รับความเสียหาย โดยนำพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานเป็นต้นแบบ (ทับลาน Model) เสนอ คทช. และเสนอรัฐบาลพิจารณาต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวว่า 2.การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เร่งรัดดำเนินการออกพระราชกฤษฎีกาแก้ไขแนวเขตแผนที่ ให้เกิดผลทางกฎหมายให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และสั่งการให้ สคทช. ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดชี้แจงประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้และความเข้าใจ เกี่ยวกับประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากการทำ One map และแนวทางการเยียวยาประชาชนที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการทำ One map สำหรับพื้นที่ที่ปรับปรุงเส้นแนวเขตแล้ว ให้เร่งออกเอกสารสิทธิที่ดินและ อนุญาตการใช้ประโยชน์ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ จากที่ดินได้อย่างมั่งคงและยั่งยืน
“เรื่องการทบทวนการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบแปลงรวม ในโครงการจัดที่ดินของรัฐ โดยความคืบหน้าในเรื่องนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลังอยู่ระหว่างการแก้ไขเพิ่มเติมร่างประกาศกระทรวงการคลังและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดเก็บภาษีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีการใช้ประโยชน์หลายประเภท ซึ่งจะกำหนดให้มีผลใช้บังคับในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. 2568 เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน ในการคำนวณการจัดเก็บภาษีเท่าที่มีการใช้ประโยชน์จริง สำหรับการแก้ไขปัญหากรณีสหกรณ์ บ้านคลองโยงจำกัด ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหา และให้พิจารณารวมไปถึงโครงการที่รัฐจัดที่ดินให้ประเภทอื่นๆ ด้วย” รองนายกฯ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตที่ดินของรัฐ ให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ที่ คทช. ได้เสนอแนวทางแก้ไขให้คณะรัฐมนตรีทราบเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2567 และดำเนินการต่อเนื่องมา ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบกรอบการดำเนินงานแก้ไขปัญหา และมาตรการตรวจพิสูจน์เพื่อการอนุญาตให้ประชาชนเข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา ที่จะใช้เวลาประมาณ 12 เดือน ในการแก้ไขปัญหา โดยได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิสูจน์สิทธิที่ดินของรัฐจังหวัด จังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการตรวจพิสูจน์ในการเข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา และแต่งตั้งคณะทำงานในระดับพื้นที่มาช่วยดำเนินการ และมอบหมายกระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลัก จัดทำแผนงบประมาณในการดำเนินการขับเคลื่อนการให้ความช่วยเหลือประชาชน ให้เข้าถึงสาธารณูปโภคไฟฟ้า ประปา ตามมติคณะรัฐมนตรีต่อไป
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า เรื่องการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของวัดในเขตที่ดินของรัฐ ที่ประชุมได้พิจารณามาตรการการพิสูจน์สิทธิ ที่เรียกง่ายๆ ว่า สำหรับวัดในที่ดินของรัฐ เนื่องจากแนวทางการพิสูจน์สิทธิที่มีอยู่ในปัจจุบัน ใช้ไม่ได้ผลดีกับแนวทางการปฏิบัติธรรมของสงฆ์ ซึ่งอาจจะทำให้เมื่ออ่านแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศแล้ว อาจจะไม่พบร่องรอยการทำประโยชน์ จึงต้องกำหนดมาตรการการพิสูน์สิทธิที่นอกจากจะใช้หลักฐานเอกสารแจ้งการครอบครองที่ดินได้แล้ว ยังสามารถใช้หนังสือรับรองสภาพวัด หรือ เอกสารขึ้นทะเบียนโบราณสถาน หรือ จดหมายเหตุมาประกอบการพิจารณา ทั้งนี้ ต้องเป็นการครอบครองทำประโยชน์ มาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐด้วย
สำหรับการจำแนกประเภทที่ดินจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นการมอบหมายหน่วยงานรับผิดชอบพื้นที่ป่าไม้ถาวร จังหวัดเพชรบุรี ตามผลการจำแนกประเภทการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมป่าไม้รับผิดชอบพื้นที่ที่เป็นป่าไม้ และ ส.ป.ก. รับผิดชอบพื้นที่เกษตรกรรมโดยกรมพัฒนาที่ดินจะเสนอ คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบต่อไป
“สุดท้ายคือ การแต่งตั้งคณะทำงานตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เรื่อง การปรับปรุงพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ได้มีมติมอบให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกับ สคทช. จัดตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาปรับปรุงพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดทำโครงการเกี่ยวกับการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้อยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่อนุรักษ์ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และให้รายงานผลการตั้งคณะทำงานฯ ต่อคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติทราบต่อไป” รองนายกฯ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี