‘รมว.กลาโหม’หารือ‘กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ’สภาฯ แจงที่ดินทหาร-สวัสดิการกองทัพ ‘ภูมิธรรม’พร้อมตอบทุกข้อซักถาม ขณะที่‘ธนาธร’ร่วมวงด้วย ทวงข้อมูลการเงิน

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 25 ธ.ค.ที่ห้องยุทธนาธิการ ศาลาว่าการกลาโหม กระทรวงกลาโหม พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกาโหม เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม  พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ไตรศักดิ์ อินทรรัสมี เลขานุการรมว.กลาโหม  ให้การต้อนรับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่น หรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ เข้าพบหารือ

พล.ต.ธนาธิป กล่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการชี้แจงถึง นโยบายเกี่ยวกับที่ดินที่อยู่ในการดูแลของเหล่าทัพ กองทัพมีที่ดินในความครอบครอง ดูแล และใช้ประโยชน์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 5.9 ล้านไร่ โดยส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์เป็นที่ตั้งหน่วย พื้นที่ฝึก และดำเนินการตามภารกิจของ ทบ. ซึ่งปัจจุบันมีประชาชนเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาตและจัดให้เช่าแล้วบางส่วน และยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์สิทธิ เนื้อที่รวมประมาณ 1.2 ล้านไร่เศษ อย่างไรก็ตาม หากพิสูจน์สิทธิแล้วพบว่า ประชาชนอยู่มาก่อนการเป็นที่ดินของรัฐ กองทัพเคารพสิทธิดังกล่าว ประชาชนสามารถไปออกเอกสารสิทธิตามขั้นตอนได้ แต่หากพบว่าสิทธิในที่ดินเป็นของรัฐ กองทัพก็พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาโดยการให้ประชาชนยื่นขอเช่ากับ กรมธนารักษ์ ให้ถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป ในพื้นที่ที่กองทัพยังไม่ได้ใช้ประโยชน์

พล.ต.ธนาธิป  กล่าวต่อว่า สำหรับที่ดินที่กองทัพไม่ได้ใช้ประโยชน์ คือที่ดินที่ส่วนราชการภายนอก ขอใช้ประโยชน์จากกองทัพ และที่ดินที่ประชาชนเข้าใช้ประโยชน์โดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ตามภารกิจของกองทัพ นอกจากต้องมีพื้นที่ตั้งหน่วยปกติ และพื้นที่สำหรับการฝึก - ศึกษาแล้ว ยังต้องใช้พื้นที่สำหรับการฝึกตามแผนป้องกันประเทศด้วย ดังนั้น พื้นที่ดังกล่าว กองทัพบกต้องสงวนไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคต เมื่อมีความจำเป็น

พล.ต.ธนาธิป  กล่าวอีกว่า ส่วนการดำเนินการนำที่ดินไปให้ประชาชนเช่าใช้ประโยชน์ตามนโยบายรัฐบาล ในระยะที่ 1 ห้วงปีงบประมาณ 2567 เหล่าทัพได้ยินยอมให้กรมธนารักษ์ ได้นำพื้นที่ไปจัดให้ประชาชนเช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และทำการเกษตรแล้วจำนวน 16,000 ไร่เศษ และปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการในระยะที่ 2 เนื้อที่รวมประมาณ 59,000 ไร่เศษ อย่างไรก็ตาม กลาโหมได้มีการปรับปรุงและพัฒนาการจัดสวัสดิการให้สอดคล้องตามยุคสมัยอย่างต่อเนื่อง กิจการสวัสดิการของ กลาโหม มิได้ปิดกั้นการใช้บริการเฉพาะกำลังพลและครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปเข้าใช้บริการได้ด้วย

พล.ต.ธนาธิป  กล่าวต่อว่า การจัดกิจการสวัสดิการภายในหน่วยบางกิจการ ที่มีบุคคลทั่วไปเข้าใช้เป็นจำนวนมาก เป็นการจัดสวัสดิการในเชิงธุรกิจ เพื่อให้มีความถูกต้อง โดยปัจจุบัน มีกิจการสวัสดิการขนาดใหญ่ เช่น กิจการสนามกอล์ฟ, สถานีบริการน้ำมัน, สถานพักฟื้นและพักผ่อน และตลาดนัด รวมถึงกิจการขนาดใหญ่อื่น ๆ รวมจำนวนทั้งสิ้น 152 กิจการ แบ่งเป็น กิจการสวัสดิการในเชิงธุรกิจ จำนวน 86 กิจการ ได้ดำเนินการทำบันทึกข้อตกลงเช่าที่ราชพัสดุกับกรมธนารักษ์เรียบร้อยแล้ว ส่วนกิจการที่เหลืออีก 66 กิจการ ยังคงดำเนินการในรูปแบบสวัสดิการภายใน

ส่วนกรณีสนามกอล์ฟกานตรัตน์ หรือสนามงู กลางรันเวย์สนามบินดอนเมืองนั้น ผู้แทนกองทัพอากาศชี้แจงว่า สนามบินดอนเมืองเป็นพื้นที่ความมั่นคงทางการทหาร ยังจำเป็นต้องคงความรับผิดชอบ แต่คณะกรรมาธิการฯเห็นว่าการคืนพื้นที่สนามกอล์ฟดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มปริมาณการใช้สนามบินได้มากกว่า ส่วนสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์เห็นว่าควรจะส่งมอบพื้นที่ส่วนหนึ่งไปทำสวนสาธารณะ ซึ่งผู้แทนกองทัพอากาศ กล่าวว่า บริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ความมั่นคง แต่ขอรับข้อเสนอไป พิจารณา

ขณะที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมาธิการฯ และหัวหน้าคณะก้าวหน้า กล่าวว่า ขอขอบคุณกองทัพเรือ กองทัพอากาศในการเปิดเผยข้อมูลต่อคณะ กมธ. แต่กองทัพบกยังไม่ส่งข้อมูลการเงินสำคัญให้ จึงขอให้รมว.กลาโหมสั่งการให้เร่งรัด เพื่อความโปร่งใสในการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการต่อไป

ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม กล่าวขอบคุณคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่ได้เข้ามาหารือแลกเปลี่ยนและเสนอแนะถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์  ซึ่งกระทรวงกลาโหมจะนำไปพิจารณา พร้อมยินดีตอบข้อซักถามของ กมธ. ตลอดเวลา ซึ่งในส่วน ของการบริหาร และงานของกรรมาธิการในการตรวจสอบเป็นงานที่สามารถร่วมมือกันได้ เพื่อสิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ในรายละเอียดของประเด็นต่างๆ ที่ทาง กมธ.วิสามัญฯ ได้นำเสนอ ทาง กห.และเหล่าทัพ จะนำไปหารือ วิเคราะห์พิจารณาและศึกษาถึงรายละเอียดเพิ่มเติม โดยจะมีการนัดหารือ พูดคุยกันในโอกาสต่อไป

ทั้งนี้ ในการประชุมดังกล่าว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า เดินทางมาด้วย แต่ได้หลบฉาก และไม่ได้ให้สัมภาษณ์ สื่อแต่อย่างใด