‘ถ้าลงถนนรถอาจติดนิดหน่อย’
‘เพื่อไทย’หยันม็อบ
‘นพดล’ซัดอย่าสร้างความเกลียดชัง
ยัน MOU44 งุบงิบเจรจากันไม่ได้
‘จตุพร’ฟาดยับ‘ทักษิณ’สติแตก
‘วันนอร์’ย้ำ14-15ม.ค.ถกแก้รธน.
พ่อนายกฯ พักผ่อนฉลองคริสต์มาส ที่บ้านพักใน อ.แม่ริม กับครอบครัว หลังลุยปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.สองวัน 4 เวที ก่อนบินกลับกทม. โดยจะกลับมาช่วยหาเสียงอีกรอบในโค้งสุดท้าย ปลายมกราคม 2568 ด้านตู่-จตุพรฉะยับทักษิณพูดเกรี้ยวกราดดุดัน เหวี่ยงแห เป็นอาการคนสติแตก ที่ขาดความมั่นใจ อัดชอบลำเลิกบุญคุณ ยัดเยียดความเนรคุณให้คนอื่น สู้ให้จนติดคุก 5 ครั้งคงทดแทนกันพอแล้วหรือไม่
วันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใช้เวลาส่วนตัวพักผ่อนอยู่กับครอบครัวในวันคริสต์มาส ที่บ้านพักอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว หลังเดินสายหาเสียงขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนายพิชัย เลิศอดิศร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ 2 วัน 4 เวที โดยวันนี้นายทักษิณมีกำหนดเดินทางกลับกรุงเทพมหานครช่วงบ่าย
ปลายมค.68มาช่วยหาเสียงโค้งสุดท้าย
ทั้งนี้ มีรายงานว่านายทักษิณจะเดินทางกลับมาช่วยนายพิชัยหาเสียงที่จังหวัดเชียงใหม่อีกครั้งช่วงโค้งสุดท้ายช่วงปลายเดือนมกราคม 2568 โดยจะหาเสียงพบปะกับประชาชนในโซนเชียงใหม่ตอนบน ทั้งอำเภอฝาง อำเภอแม่อาย อำเภอเชียงดาว รวมถึงจะเดินสายปราศรัยช่วยหาเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ. ของพรรคเพื่อไทย จังหวัดเชียงรายด้วย
‘อิ๊งค์’งง! ใครพูดเรื่องยุบสภา
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่ฝ่ายค้านอยากให้นายกฯไปตอบกระทู้ที่สภาในวันที่ 26 ธันวาคมพอจะมีเวลาหรือไม่ โดยนายกฯหันมายิ้มและกล่าวเพียงว่า เมอร์รี่คริสต์มาส
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายทักษิณประกาศในเวทีหาเสียงที่ จ.เชียงใหม่ ว่าจะไม่ยุบสภา รัฐบาลมีแนวทางเป็นแบบนั้นหรือไม่ นายกฯตอบว่า ยังไม่เห็นมีใครคุยกันเรื่องยุบสภาเลย ก็เลยงงว่ามาได้ยังไง
ยันรบ.-สส.ไม่มีใครอยากให้ยุบสภา
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้ความเห็นกรณีนายทักษิณปราศรัยที่เชียงใหม่ว่าไม่มียุบสภาว่า ในส่วนรัฐบาล และ สส.ไม่มีพรรคไหนอยากให้ยุบสภา เมื่อเราได้รับเลือกตั้งมา ก็พยายามทำงานให้ดีที่สุด อยู่ครบเทอมถึงปีที่ 4 เมื่อประชาชนเลือกมา เขาก็หวังว่า สส.หรือรัฐบาล จะทำงานครบ 4 ปี ส่วนเรื่องการตอบกระทู้ในสภานั้น นายกฯจัดสรรเวลา แต่บางเรื่องเป็นการตั้งกระทู้ถามเจ้ากระทรวง แต่เขียนกระทู้ถามไปที่นายกฯ แล้วผ่านเจ้ากระทรวง นายกฯก็มอบให้รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ ไปตอบ ยืนยัน ไม่มีปัญหา รัฐมนตรีทุกกระทรวงพร้อมตอบ
ฉะแม้วสติแตก-จวกปราศรัยเหวี่ยงแห
มีความเห็นจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์กรณีนายทักษิณปราศรัยหาเสียงนายก อบจ. เชียงใหม่ ด้วยความดุดันว่า เป็นอาการสติแตกของคนที่อึดอัดคับแน่นอก จึงตอบโต้แบบตาต่อตา ฟันต่อฟันเพื่อเอาคืนเสมือนต้องการแก้แค้น ดังนั้น การอ้างกลับไทยมาเลี้ยงหลานจึงสวนทางกับพฤติกรรมเป็นผู้ช่วยหาเสียงที่พูดดุด่าไม่เหมาะสมกับสถานะพ่อของนายกฯ
นายทักษิณพูดแดกดันถึงบางคนไม่มีอาชีพแต่ซื้อที่ดินริมทะเล ซึ่งคงไม่ได้หมายถึงตนเพราะไม่มีที่ดินริมทะเลสักตารางนิ้ว แต่ก็ไม่ควรพูดเหวี่ยงแห พูดออกมาให้ชัดเจน เพราะมีสะดุ้งกันหลายคน ดังนั้นการเน้นพูดถึงคนไม่มีอาชีพแต่มีที่ดินริมทะเลนั้น กลับไม่แตะต้องคนมีอาชีพแล้วทุจริตซึ่งน่ากลัวที่สุด แม้ศาลพิพากษาให้ยึดทรัพย์ และบางคดีให้ชดใช้ แต่อยู่ระหว่างขั้นตอนตามกระบวนพิจารณาจำนวนเงินให้ชดใช้ และสืบหาทรัพย์ต้องยึด คาดคงตามหาไม่ยาก การมีอาชีพไม่ได้หมายความว่าจะใช้ชีวิตสุดจริตแบบปกติทั่วไป เพราะบ้านเมืองหายนะจากการทุจริตคอร์รัปชันก็มาจากมือพวกมีอาชีพทั้งนั้น อาชีพคอร์รัปชันเป็นอาชีพที่น่ากลัว เพราะเป็นอาชีพโกงบ้านกินเมือง
โต้ลั่นสู้ให้จนติดคุกเนรคุณตรงไหน
“ปฏิกิริยาของทักษิณที่พูดสารพัดลำเลิกบุญคุณ ถ้าเป็นในส่วนของตนแล้ว เคยบอกไปแล้วว่า แม้ในการต่อสู้ตนไม่มีเงินไปลงขันด้วย แต่ต้องแลกด้วยอิสรภาพและเอาชีวิตไปต่อสู้ให้ จนติดคุกมา 5 ครั้ง มีอีก 2 คดีกำลังจ่อโทษมาถึง และกำลังถูกยึดบ้านไปชดใช้ความเสียหายจากคดีไม่เป็นธรรมที่ได้จากการต่อสู้ นอกจากนี้ ทักษิณยังพูดลำเลิกบุญคุณ โดยนำเรื่องกินข้าวที่พรรคจัดเลี้ยงให้หนึ่งมื้อมาเป็นการเนรคุณคน ปัญหามีอยู่ว่า ถ้าคนรู้จักบุญคุณคนแล้วต้องรู้ว่าการต่อสู้มีคนตายเป็นร้อย บาดเจ็บสองพัน สูญสิ้นอิสรภาพนับไม่ถ้วน สิ่งนี้ต่างหากที่ต้องไม่เนรคุณต่อพวกเขา”นายจตุพรกล่าว และว่า ที่ผ่านมาทักษิณทดแทนบุญคุณหรือเนรคุณพวกเขา ถ้าจะทดแทนบุญคุณควรให้คนที่ตาย คนบาดเจ็บ คนถูกคุมขังในคุกจนสิ้นอิสรภาพและคนไปต่อสู้ให้จนสิ้นเนื้อประดาตัว ซึ่งมีจำนวนมาก ไม่เคยมีใครพูดถึงการทดแทนบุญคุณคน กลับพูดแต่ยัดเยียดการเนรคุณให้คนอื่นไปทั่วบ้านเมือง
“การต่อสู้ในหลากหลายสมรภูมิ ผมเป็นหนี้อะไรกับทักษิณนักหนา และติดคุก 5 ครั้ง มีคดีกำลังมาอีก ทั้งชะตากรรมต่างๆ ผมบอกว่ามันชดใช้กันพอแล้วมั้ง แต่พฤติกรรมทักษิณเมื่อไม่เป็นไปตามที่พูดบอกเหตุผลในการต่อสู้กับประชาชน แล้วทำไมผมต้องปฏิบัติตามกับสิ่งที่ไม่รักษาคำพูดที่เรียกว่า เสียสัตย์หรือตระบัดสัตย์ก็ตาม”นายจตุพร กล่าว
ชำแหละพฤติกรรมแม้วพาปท.สู่ปัญหา
นายจตุพรกล่าวอีกว่า ถ้าทักษิณมาเลี้ยงหลานตามการขออนุญาตกลับบ้าน และรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม แล้วใช้ชีวิตอย่างปกติสุข คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องไปพูดวิจารณ์ทักษิณ แต่พฤติกรรมวันนี้ไม่ใช่ แล้วยังจะพาให้บ้านเมืองลามไปสู่ปัญหาต่างๆ อีกมากมาย ทั้ง mou 44 ที่ประกาศจะแบ่งผลประโยชน์ 50:50 กับกัมพูชา ประชาชนจะใช้สิทธิวิจารณ์ไม่ได้หรืออย่างไร เพราะเป็นสิทธิของพลเมืองไทยต้องปกป้องผลประโยชน์บ้านเมือง เมื่อทักษิณกลับมาเป็นคนสาธารณะ จะไม่ให้ใครแตะต้องเลยคงไม่ได้ ส่วนการพูดให้พม่า กะเหรี่ยง และกัมพูชาจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าทำไม่ได้จะใช้กำลังไทยเข้าไปจัดการเอง ทักษิณพูดแบบนี้ใช้สถานะอะไร เพราะคำพูดเช่นนี้ต้องเป็นนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนสุดท้องพูดคงเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ เมื่อทักษิณ เป็นพ่อของนายกฯ แต่พูดหาเสียงหลุดคำดุด่า เหมาะสมหรือไม่ อีกอย่างการพูดด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราดในหลายเรื่อง กำลังเข้าใจผิดในสถานะของตัวเองหรือไม่ ว่า ตัวเองเป็นบุคคลต้องห้ามทางการเมืองและถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ทั้งนี้ การหาเสียงเลือกนายก อบจ. ยังมีอีกหลายพื้นที่กำลังเริ่มขึ้น ดังนั้น จะได้เห็นอารมณ์ด่ากราดแบบคนคิดเป็นพ่อทุกสถาบันจากทักษิณกันอีก เริ่มพูดหาเสียงยังเกรี้ยวกราดแบบนี้ เวลาอีกยาวไกลจะดุดันหนักกว่านี้เป็นทวีเท่า การพูดด้วยอารมณ์แข็งกร้าวแบบนี้แสดงถึงความไม่มั่นใจ เพราะถ้าคนมั่นใจจะสุขุมในการพูดและการแสดงออกต่อสาธารณะ
เมินฉายา“พีระพัง”โวแก้ปัญหาเร็ว
ที่รัฐสภา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์กรณีสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯตั้งฉายาประจำปีให้“พีระพัง”ว่า ตนไม่ได้อ่าน แต่ประชาชนชี้แจงแทนตนหมดแล้ว จึงไม่โกรธ และไม่ได้สนใจ เพราะแทบไม่มีเวลาทำงานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การได้รับฉายา “พีระพัง” อาจเป็นเพราะแก้ปัญหาพลังงานช้าหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ย้อนถามสื่อมวลชนกลับว่า มีใครแก้ปัญหาได้เร็วกว่าตนหรือไม่ และ 1 ปีที่ผ่านมา ตนก็มีผลงาน ก่อนที่สื่อมวลชนจะถามเช่นนี้ ต้องถามก่อนว่ามีใครทำได้เร็วกว่าตน และกระบวนการต่างๆไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตน ถ้าทุกอย่างอยู่ภายใต้การดูแลของตน พรุ่งนี้ก็สามารถประกาศได้ ดังนั้น อยากให้เร็ว ต้องแก้กฎหมาย แก้ระบบ และมีกฎหมายเข้าสภา ทั้นี้ ของยืนยันว่า ภายใต้การดูแลของตนทุกอย่างจะถูกลง ประชาชน และประเทศชาติ จะได้ประโยชน์มากขึ้น รวมถึงจะสร้างอาชีพ สร้างรายได้ ลดต้นทุนการผลิตสินค้าให้ประชาชน ยืนยันไม่กังวลจะมีม็อบมากดดันการแก้ปัญหาพลังงาน เพราะพรรคฯทำเพื่อประชาชน
“เพิ่มพูน”ยิ้มรับฉายา“รมต.โลกลืม”
พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งฉายา “รมต.โลกลืม”ว่า น่าจะเป็นความผิดพลาดร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีกับผู้สื่อข่าวกระทรวง เพราะว่าเป็นความผิดของรัฐมนตรีเอง ที่ไม่ยอมให้ข่าวที่ทำเนียบฯเลย จะให้ข่าวเฉพาะกับผู้สื่อข่าวกระทรวงศึกษา ตอนนี้ผู้สื่อข่าวกระทรวงอาจประชาสัมพันธ์น้อยไป อย่างไรก็ตาม สำหรับฉายาที่ได้รับนั้น ดีใจ ดีใจที่ตนไม่ถูกลืม เพราะถ้าลืมเขาจะไม่พูดถึงเลย แต่นี่เขาไม่ลืม แสดงว่าผู้สื่อข่าวเขาไม่ได้ลืมจริง ตนยังอยู่ในหัวใจของผู้สื่อข่าวทำเนียบฯ เขาพยายามสัมภาษณ์ตลอด แต่ตนไม่เคยให้สัมภาษณ์เลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกผลงานที่ทำไปบ้างหรือไม่ พล.ต.อ.เพิ่มพูนกล่าวว่า ไม่ต้องบอก ถ้าจะบอกก็จะบอกว่า “จะแนวแน่ แก้ไข ในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง จะยอมตาย หมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา“ ซึ่งตนถือมาตั้งแต่เป็นตำรวจแล้ว พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า ”คำพูด สู้การกระทำไม่ได้“
ข่าวดีปีใหม่เดินหน้าถกแก้รธน.14-15มค.
ทางด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญว่า ได้คุยกับคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่ายไปแล้วว่า เรามีร่างรัฐธรรมนูญที่แก้รายมาตรา 17 ฉบับ และยังมีร่างที่แก้ทั้งฉบับของพรรคประชาชน (ปชน.) โดยนายพริษฐ์ วัชระสินธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่เสนอแก้มาตรา 256 และหมวด 15/1 เพื่อมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมาของประธานสภาฯพิจารณาแล้ว มีความเห็นให้ส่งมายังตนเพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระ แต่ตนขอดูรายละเอียดโดยอาจมีร่างแก้ไขของพรรคการเมืองอื่นก็ได้ เราจะพิจารณาไปพร้อมกับร่างแก้ไขรายมาตราในวันที่ 14-15 มกราคม 2568 ทั้งนี้ วันที่ 8 มกราคม จะเชิญวิป 3 ฝ่าย รวมถึงผู้แทนจากรัฐบาลหารืออีกครั้งว่าจะหยิบยกฉบับใดขึ้นมาพิจารณาก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากมีคนไปยื่นตีความ การพิจารณาจะสะดุดหยุดลงหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เราก็ไม่ทราบว่าจะมีคนยื่นหรือไม่ หรือยื่นแล้วศาลจะรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์วันข้างหน้า แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้เข้าสู่วาระหรือไม่ได้พิจารณาเลย ประชาชนจะเสียดายที่รอมาหลายปี และไม่ได้ขยับเดินไปข้างหน้า ดังนั้น การบรรจุเข้าระเบียบวาระ อย่างน้อยทำให้สามารถพิจารณาได้วันที่ 14-15 มกราคม 2568 ถือเป็นข่าวดีช่วงปีใหม่สำหรับประชาชน
ลุ้นได้รธน.ใหม่ทันเลือกตั้งปี70
สำหรับกรณีตนเคยกังวลเรื่องการทำประชามติ 2 ครั้งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงหากมีผู้นำไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ นายวันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหากความเห็นของประธานสอดคล้องคณะกรรมการด้านกฎหมายแล้ว ก็จะบรรจุวาระ ซึ่งถ้าการทำประชามติเพียง 2 ครั้ง เชื่อว่าน่าจะเดินหน้าไปได้ และหวังว่าจะไม่มีใครนำเรื่องไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ
“ไม่ว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง การจะผ่านร่างแก้ไขต้องเป็นมติที่ประชุมร่วมรัฐสภา และต้องได้รับเสียงเห็นชอบ 1 ใน 3 จากวุฒิสภา ตั้งแต่ด่านแรก เมื่อผ่านแล้วต้องนำไปทำประชามติ แล้วไปยกร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อทำเสร็จก็ต้องนำกลับไปทำประชามติถามประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้น จะทันสภาชุดนี้หรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะทำงาน แต่ผมหวังว่าประชาชนอยากการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จทันการเลือกตั้งปี 2570 ซึ่งผมก็หวังเช่นนั้น แต่ต้องไม่ลืมว่าการได้บรรจุเข้าสู่การพิจารณาไม่ใช่หมายความว่าจะผ่านการพิจารณา แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน” ประธานรัฐสภากล่าว
พท.เย้ยม็อบลงถนนอาจทำให้รถติด
ขณะที่นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทวงคำตอบการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44ว่า รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวล แต่อย่าใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชัง ใช้ความเท็จสร้างกระแสปลุกความเกลียดชังในชาติ รัฐบาลไม่ได้กังวล ถ้าลงถนนอาจรถติดนิดหน่อย ข้อห่วงใยที่ยื่นมาให้รัฐบาล 6 ข้อนั้น ชี้แจงได้ทุกข้อ รัฐบาลดำเนินการเรื่องเจรจาอ้างสิทธิทับซ้อนบนไหล่ทวีปต่อ เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ต่างก็ใช้เอ็มโอยู 44 นายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ยืนยันชัดเจนเอ็มโอยู 44 ไม่มีปัญหาทำให้ไทยเสียดินแดน
ยันแม้ว-รบ.ดอดเจรจาเขมรไม่ได้
“เนื้อหาเอ็มโอยู 44 ไม่มีอะไรน่ารังเกียจ กรมสนธิสัญญาและกฎหมายยืนยันชัดเจน เอ็มโอยู 44 ไม่ใช่การยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา จะเชื่อใครระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ หรือหน่วยงานรัฐทั้งกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กรมเอเชียตะวันออก ไม่ทำให้ไทยเสียสิทธิด้านเขตแดน เพราะเป็นเพียงกรอบเจรจาการคุยกันเท่านั้น ฝ่ายที่คัดค้านเอ็มโอยู 44 พยายามเปิดประเด็นใหม่ไปเรื่อย เชื่อมั่นว่า จะไม่ซ้ำรอยกรณีปราสาทพระวิหารในอดีต เอ็มโอยู 44 ไม่ได้ทำให้กัมพูชามีสิทธิพิเศษเหนือไทย”นายนพดลกล่าว และย้ำว่า ไม่มีรัฐบาลไทยชุดใดไปยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เราเห็นตรงกับฝ่ายคัดค้านว่าไม่เห็นด้วยกับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา ให้ขีดเส้นใต้ 500 เส้น เราไม่ยอมรับเส้นไหล่ทวีปของกัมพูชา เพราะไม่ได้ลากตามกฎหมายระหว่างประเทศ
นายนพดลกล่าวอีกว่า หากถามว่าเรื่องนี้จะงุบงิบแอบทำได้หรือไม่ นายทักษิณจะยกหูโทรศัพท์หาสมเด็จฮุนเซ็น หรือน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โทร.หานายฮุนมาเหน็ด นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าตกลงเอาอย่างนี้ได้หรือไม่ ยืนยันว่า ทำไม่ได้ เอ็มโอยู 44 ต้องเจรจาโดยคณะกรรมการร่วมทางเทคนิคไทย-กัมพูชา(เจทีซี)เท่านั้น แอบทำไม่ได้ล้านเปอร์เซ็นต์ ต้องผ่านประตู 5บานคือ ผ่านคณะทำงาน ผ่านคณะอนุเจทีซี ผ่านคณะกรรมการเจทีซีผ่านครม. และผ่านสภาผู้แทนราษฎร ให้รัฐสภาเห็นชอบ โปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน ขอใช้คำพูดแกนนำกลุ่มที่คัดค้านว่า ความจริงมีหนึ่งเดียว ความจริงอยู่ที่นี่ ที่สภา อยู่ที่กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย อยู่ที่พรรคเพื่อไทย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี