"ณัฐพงษ์"สังสัย"มติ กพช." ชะลอการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน เพื่อซื้อเวลาหรือไม่ ชี้"นายกฯ"ควรบอกตรงๆให้ชัดเจน อย่าตีกรรเชียงหนีปัญหา หากหวั่นเรื่องข้อกฎหมายจริง ไม่งั้นเรื่องไม่จบ

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติชะลอการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียน ว่า การทำหน้าที่เป็นประธาน กพช.น่าจะมีความสำคัญมากกว่า แต่แน่นอนที่สุด ก็อยู่ที่การตัดสินใจของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะเลือกตัดสินใจทำภารกิจใดที่มีความสำคัญต่อตัวนายกรัฐมนตรีมากกว่ากัน แต่ตนเชื่อว่าการเป็นประธานบอร์ดในที่ประชุม กพช.ซึ่งผลส่งผลกระทบถึงเรื่องประเด็นค่าไฟฟ้า น่าจะมีความสำคัญต่อประชาชนมากกว่า 

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า สำหรับมติที่ออกมา ในเรื่องการชะลอการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนนั้น  อาจจะเป็นเรื่องการซื้อเวลาหรือไม่ ถ้าตัวนายกรัฐมนตรีเองมองว่า สามารถต้องการยกเลิกโครงการดังกล่าว สิ่งที่ตนคิดว่าประชาชนอยากได้ยิน คือการที่นายกรัฐมนตรีออกมาแถลงข่าว หรือเข้ามาตอบกระทู้ถามสดในสภา โดยบอกตรงๆ ว่าต้องการยกเลิก แต่เพียงแค่ชะลอไว้ เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ในเรื่องข้อกฎหมาย หากพูดเช่นนี้ ตนเชื่อว่าสังคมจะสิ้นข้อสงสัย

“แต่สิ่งที่เราไม่เห็นจากนายกรัฐมนตรี คือความชัดเจน นั่นคือนายกรัฐมนตรีไม่มีความชัดเจนใดๆ ทั้งสิ้นไม่เข้าร่วมประชุม ไม่ตอบคำถามสื่อมวลชน และส่งมติออกมาว่า เป็นการชะลอโครงการไว้ก่อนเพื่อศึกษาเรื่องของข้อกฎหมาย ผมก็มีข้อกังวลเป็นอย่างยิ่งว่า การชะลอในครั้งนี้ จะเป็นแค่การซื้อเวลา เพื่อให้ทางรัฐบาลสามารถเดินหน้าโครงการการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนในครั้งนี้ จะส่งผลกระทบทำให้ค่าไฟที่แพงอยู่ ยังแพงต่อไปในอนาคตได้”นายณัฐพงษ์ กล่าว

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรอบเวลาที่ชะลอไป คือระยะเวลาเท่าไหร่นั้น หากดูจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ ของ กพช.เอง ยังไม่มีกรอบระยะเวลากฎหมายที่ชัดเจน แต่หากยึดตามกรอบการประกาศการคัดเลือกผู้ได้รับการคัดเลือกกลุ่มที่หนึ่ง จะสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคมนี้ และกลุ่มที่สอง จะสิ้นสุดในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 ฉะนั้น หากจะชะลอ หรือยับยั้งการดำเนินโครงการการเซ็นสัญญาโครงการดังกล่าวไว้ก่อนสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ต้องมีมติออกมาอีกขั้นหนึ่งเช่นเดียวกัน ซึ่งเมื่อ กพช.มีมติออกมาแล้ว ขั้นตอนต่อไป ก็ต้องตามต่อที่ กกพ.ว่าจะมีมติในการชะลอโครงการดังกล่าวหรือไม่อย่างไร

ส่วนประเมินสาเหตุที่นายกรัฐมนตรีเลี่ยงการเข้ามาตอบกระทู้ในสภา เนื่องจากอาจจะมีเรื่องผลประโยชน์ไม่ลงตัวของกลุ่มพลังงานหรือไม่ นายณัฐพงษ์ มองว่า เป็นสิ่งที่พวกเราตั้งข้อสงสัย และตั้งข้อสังเกตได้ เพราะก่อนหน้านี้ ก็มีประเด็นที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปตีกอล์ฟร่วมกับ CEO ของกลุ่มธุรกิจพลังงาน และตัวนายกรัฐมนตรีเอง กลับไม่ให้ความชัดเจนใดๆ กับสิ่งนี้ 

นายณัฐพงษ์  กล่าวอีกว่า จึงคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราตั้งข้อสงสัยว่า การที่นายกรัฐมนตรีตีกรรเชียงทำหนีปัญหา เป็นเพราะกำลังมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ สิ่งที่พวกเราอยากได้ยิน หากต้องมีการชะลอไว้ก่อนในเรื่องข้อกฎหมายจริงๆ ก็ควรจะออกมาบอกตรงๆ ว่านายกรัฐมนตรีต้องการยกเลิกเพียงแต่ยังมีข้อคิดเห็นในด้านข้อกฎหมายที่กังวลว่า กพช. ไม่สามารถก้าวก่าย กกพ.ที่อยู่ในฐานะองค์กรอิสระ จึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาข้อกฎหมายไว้ก่อน ตนมองว่า หากนายกพูดชัดๆ เช่นนี้ ประเด็นน่าจะจบ และพวกเราพร้อมรอการพิจารณาของคณะกรรมการต่อไป

- 006