บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย ชี้ MOU44 ถูกปั่นจนออกนอกอวกาศ ยันเป็นเพียงสนธิสัญญาตีกรอบให้เกิดการเจรจากันโดยสันติ “หมอวรงค์”ฟันเปรี้ยงเขมรต้องการมากกว่าที่คิด จี้เปิดเวทีสาธารณะ
วันที่ 28 ธันวาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี MOU44 ที่อาจจะส่งผลให้มวลชนบางกลุ่ม ออกมาเคลื่อนไหวในปีหน้าว่า ตนยังยึดหลักการเดิมว่าควรใช้ความอดทน อดกลั้นและความเข้าใจ MOU44 ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ที่บ่น หรือพูดคุยกันทั้งหมดนั้นรัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรที่แตกต่างจากรัฐบาลในอดีตทุกยุคทุกสมัย และยังไม่มีจุดเริ่มต้นเลย แต่กลับถูกปลุกขึ้นมาโดยอะไรก็ไม่รู้และกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ซึ่งเราพยายามอธิบาย ก็กลายเป็นว่า เรื่องมันเกิดแล้วเรามาแก้ตัว หรือออกมาปกป้อง
“ เรื่อง MOU44 กรมสนธิสัญญาและกฎหมายกระทรวงการต่างประเทศรู้ดีที่สุด ไม่มีใครรู้เรื่องหลักกฏหมาย ระหว่างประเทศเรื่องดินแดนดีเท่ากรมสนธิสัญญาฯ นักกฏหมายระหว่างประเทศที่เชี่ยวชาญเป็นที่ยอมรับในนานาประเทศก็อยู่ที่กรมสนธิสัญญาฯ เราถึงได้ให้กรมสนธิสัญญาฯ แถลงข่าว ซึ่งเขาก็แถลงข่าวชัดเจน แต่กลับถูกจับมาเป็นประเด็น ทั้งเกาะกูดจะถูกยึด ตนไปเยี่ยมมาเขาก็อยู่กันมีความสุขดีไม่มีปัญหาอะไร และก็ยังไม่เคยมีใครมาอ้างสิทธิว่าเกาะกูดเป็นของคนนั้นคนนี้ อีกทั้งตนไปเยี่ยมกองทัพเรือ ที่ดูแลเกาะกูดเขาก็ยังตั้งอยู่ในที่มั่น”
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ที่จริงแล้วตนไม่ควรจะพูด หรือตอบเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่ภารกิจโดยตรง แต่ในช่วงนั้นปรากฏข่าวว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิคฝ่ายไทย หรือ JTC และจะตั้งตนเองเป็นประธาน สื่อก็มาถามซึ่งตนเองก็พยายามที่จะอธิบาย
“มันเป็นแค่สัญญาว่า อะไรที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ ก็ให้สองฝ่ายมาเจรจากัน โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือต้องเป็นเรื่องที่ประชาชน และรัฐสภาทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันและเป็นเรื่องที่ต้องอิงหลักกฏหมายทั่วไป มันเป็นเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เป็นเพียงสนธิสัญญาที่ตีกรอบให้เกิดการเจรจากันโดยสันติ แต่ก็มาปั่นกันไปไกลมากจนจะออกนอกอวกาศอยู่แล้ว ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็น และขณะนี้ ที่ช้าก็เพราะว่ามีการรับฟังความเห็น“ นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม ยังกล่าวว่า เช่นเดียวกับกรณีของดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลมีการรับฟังความคิดเห็น จึงทำให้โครงการมีความล่าช้าไปเยอะ การจ่ายเงิน 100% ที่จริงไม่ใช่วิถีที่เราอยากจะทำ เพราะการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องอาศัยความร่วมมือจากคนไทยทุกคนได้ร่วมมือกันกระตุ้น หัวใจสำคัญอีกอย่างของเรื่องนี้คืออยากให้ทุกคนมีประสบการณ์ที่จะก้าวเข้าสู่สังคม สังคมเศรษฐกิจดิจิทัล เดี๋ยวนี้เขาเป็นอย่างนี้กันหมดแล้ว ไม่ถือเงินสดแล้ว เช่นสิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง เงินสดแทบไม่ต้องใช้แม้กระทั่งการขายของข้างทาง ยังจ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งเราต้องเรียนรู้การจะใช้ดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านกลไกทางดิจิทัลซึ่งถือเป็นการเรียนรู้ครั้งใหญ่ที่จะใช้ตรงนี้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“ปัญหาที่เราต้องทำ ไม่ใช่เพราะอยากแจกเงิน แต่ต้องทำเพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้มีศักยภาพเพราะกำลังซื้อขณะนี้กำลังขาดแคลนทำให้หน่วยการผลิตต่างๆหยุดหมดเพราะฉะนั้นกลไกเศรษฐกิจไม่มี จะมีเฉพาะการลงทุนภาครัฐเท่านั้นที่มากระตุ้นเศรษฐกิจขณะนี้ ส่วนการท่องเที่ยวก็เจอปัญหาที่ติดขัดแต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ ดังนั้นขณะนี้เรากำลังเพิ่มกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเพิ่มกำลังซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศด้วยการดึงการลงทุนเข้ามา”
ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า เขมรต้องการมากกว่าที่คิด ผมไม่รู้ว่า รัฐบาลอุ๊งอิ๊งจะรู้ไหมว่า ทางฝั่งเขมรโดยเฉพาะฝ่ายค้าน กำลังออกมาเรียกร้องให้ รัฐบาลฮุน มาเนต ยกเลิก MOU44 โดยจะไปฟัองศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) เพื่อแบ่งเกาะกูดไปเป็นของเขมรครึ่งหนึ่ง การรุกคืบของฝ่ายเขมร เขาไม่เพียงแต่ต้องการเกาะกูดครึ่งหนึ่ง ถ้าเขาได้ หมายถึงพื้นที่ที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเล จะเป็นของเขมรด้วย โดยอาศัยศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ซึ่งพวกเราน่าจะทราบดีว่า กระบวนการต่างๆ ขององค์กรระหว่างประเทศนั้น ไม่ตรงไปตรงมา
ผมคิดว่ารัฐบาลต้องกลับมาตั้งหลักให้ดี การมีMOU44 มีแต่สร้างปัญหาและเป็นจุดอ่อน ที่จะทำให้ไทย แม้จะไม่เสียเกาะกูด แต่เรามีโอกาสสูงมาก ที่จะเสียพื้นที่ทางทะเล ซึ่งไทยเราต้องรักษา พื้นที่เหล่านี้ไว้ให้ได้
คงต้องเรียกร้องรัฐบาลอุ๊งอิ๊งอีกครั้ง อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน อย่ามัวแต่พักผ่อนกับครอบครัว เปิดใจให้กว้างที่จะรับฟังข้อมูลของภาคประชาชน เพราะที่ผ่านมาพิสูจน์แล้วว่า ข้อมูลของฝ่ายรัฐบาล ชี้แจงแล้วฟังไม่ขึ้นจริงๆ จึงไม่แปลกใจที่รัฐบาลไม่กล้าเปิดเวทีสาธารณะถึงเวลาต้องรีบตัดสินใจ ก่อนที่จะสายเกินไป และทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เขมรต้องการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี