‘อนุทิน’ยัน‘รัฐบาลอิ๊งค์’ผนึกสามัคคี ทำงานดี ถ่อมตัวขอไม่ประเมินผลงาน‘หัวหน้ารัฐบาล’ ยาหอม‘ภาวะผู้นำสูง’ โยนปรับ ครม.เป็นอำนาจ‘ผู้นำ’ ลั่น‘ภูมิใจไทย’ยึดโควตาเดิม เดินหน้าผลักดันภารกิจมหาดไทย‘ปราบมาเฟีย-แก้ยาเสพติด-เพิ่มมิติป้องกันภัยพิบัติหลังลดงบเยียวยาพุ่งสูง’
29 ธันวาคม 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินการทำงานน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีอะไรต้องปรับปรุงหรือไม่ว่า ตนเป็นรองนายกฯ ผู้บังคับบัญชาคือนายกรัฐมนตรี ยกตัวอย่างหากไปถามปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสอบผ่านหรือไม่ ซึ่งหากสอบไม่ผ่าน ก็ต้องบอกว่าสอบผ่าน แต่ถ้าหากถามว่ารัฐบาลทำงานด้วยกันได้หรือไม่ คำตอบก็ว่าทำได้
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรี มีภาวะผู้นำสูง และรัฐมนตรีคนอื่นๆ รวมทั้งตน ก็พร้อมรับคำแนะนำแนวปฏิบัติตามนโยบายของนายกฯ รวมถึงหากไม่ใช่นโยบายหลักของรัฐบาลก็ทำมาโดยตลอด และดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วย รวมถึงความสามัคคีของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นได้ชัดก็มีรูปหมู่รวมกับนายกฯ และเนคไทที่ใช้อยู่ นายกฯ ก็มอบให้โดยมีตราทำเนียบรัฐบาลประดับเต็มไปหมด ฉะนั้นหากเราไม่ชอบกัน ตนคงไม่ใส่เนคไทนี้
เมื่อถามว่าปี 2568 มีอะไรต้องเร่งดำเนินการหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ฝั่งพรรคเพื่อไทย (พท.) กังวลเรื่องเศรษฐกิจ ส่วนพรรคภูมิใจไทย ก็เน้นเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ ที่ต้องทยอยทำให้ครบทั้งประเทศ ต้องเจรจากับคณะกรรมการไตรภาคีให้เรียบร้อย และในส่วนกระทรวงมหาดไทย ก็มีงานมากทั้งการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผู้ค้ายาเสพติด การอำนวยความสะดวกดูแลประชาชน การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น การพัฒนาท่องเที่ยวภูมิภาค การพัฒนาประปาและน้ำดื่มสะอาด ไฟฟ้าต้องเข้าถึงทุกพื้นที่ รวมถึงภารกิจป้องกันภัยต่างๆ ต้องเร่งเดินหน้ามิติการป้องกันให้เพิ่มมากขึ้น เพราะช่วงหลังใช้งบในเรื่องการบรรเทาสูงเพราะปีนี้เฉพาะงบเยียวยาก็ 1 หมื่นกว่าล้านบาทแล้วเพื่อเป็นการป้องกันแก้ไขในระยะยาว และต้องทำให้เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องมีการสังคายนาระบบหน่วยงานต่างๆ ทั้งหมด
เมื่อถามว่า ถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วหรือไม่ และพรรคภูมิใจไทย ยังพอใจในบทบาทกระทรวงเดิมหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า อะไรที่ไม่มีปัญหาก็อย่าให้มันมีปัญหา ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. เป็นอำนาจนายกรัฐมนตรี หากมีการปรับเมื่อไหร่ก็จะแจ้งมายังพรรคร่วมรัฐบาล
“พรรคภูมิใจไทย ก็ยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแปลงอะไรตั้งแต่นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ มีการปรับ ครม. แล้วครั้งหนึ่งพรรค ภท. ก็ขอยืนยันว่าขออยู่ที่เดิม ไม่มีการขอหรือไปอ้างสิทธิ์ เมื่อมาถึงรัฐบาลของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ก็ยังยืนยันว่าสามารถทำงานได้” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
เมื่อถามว่า มองอย่างไรกับวาทะ “สามีคนใต้” นายอนุทิน กล่าวด้วยสำเนียงใต้ว่า “ผมก็ภรรยาคนใต้” ก่อนอธิบายต่อว่า มันไม่เกี่ยวกันเพราะเป็นการเปรียบเปรยของนายกฯ เพราะมีคนพูดว่านายกฯ ไม่สนใจภาคใต้ ซึ่งจริงๆ ไม่ใช่เพราะเมื่อเกิดอุทกภัยก็ต้องลงไปตามลำดับชั้น เพราะบางทีเป็นผู้ใหญ่มากๆ เวลาลงไปก็ต้องมีคนมาดูแล นอกจากจะไม่ได้ช่วยแล้วจะทำให้เกิดความล่าช้า และเป็นไปไม่ได้หากลงไปจะไม่มีข้าราชการมาดูแลเพราะระบบมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ เมื่อเกิดอุทกภัยสิ่งสำคัญที่สุดคือ การลงไปช่วยเหลือหลังน้ำลดเพื่อฟื้นฟูเยียวยาซ่อมแซมซึ่งจะเป็นจังหวะที่เหมาะสม ซึ่งคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นคนที่มีวุฒิภาวะ ไม่มีทางจะบอกว่าไม่ลงพื้นที่เพราะไม่ชอบ ในทางกลับกันไม่ชอบยิ่งต้องลงพื้นที่จึงขอให้ตัดประเด็นนี้ออกไปได้เลย และในที่สุดท่านก็ลงสิ่งที่ได้ทำในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดอุทกภัยคือเน้นให้การช่วยเหลือเยียวยา
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า หากถามว่ารัฐบาลสามัคคีกันหรือเปล่า ถ้าสำหรับการทำงานให้พี่น้องประชาชนเราสามัคคียิ่งกว่า เพราะมีทุกกระทรวงเห็นพ้องต้องกัน ระดมกำลังเข้าไปช่วย แต่ตอนนี้สิ่งที่เบื่อคือต้องให้เกิดเหตุก่อนแล้วค่อยลงไปช่วย ซึ่งมีความเสียหายเกิดขึ้น แต่ของบางอย่างหลีกเลี่ยงได้
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี