หากนับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ย. 2567 ซึ่งเป็น “ครั้งแรก” ที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร หวนคืนสู่ “สนามการเมือง” อย่างเต็มตัว ในการไปช่วยหาเสียงให้ตัวแทนของ พรรคเพื่อไทย ที่ลงสมัครชิงเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี หลังจากที่นายทักษิณหลบหนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี ก่อนจะกลับมาในประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2566 และต้องรับโทษจำคุก 1 ปี (ซึ่งก็ไม่เคยต้องอยู่ในเรือนจำ แต่ได้รับอนุญาตให้ไปอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ) กระทั่งพ้นโทษในวันที่ 17 ส.ค. 2567
11 ธ.ค. 2567 ทักษิณ ชินวัตร (กลาง) ปราศรัยที่ จ.อุบลราชธานี
ก็ต้องบอกว่า “ชัดขึ้นเรื่อยๆ” กับท่าทีของนายทักษิณที่มี “อิทธิพล (ทางความคิด)” ต่อรัฐบาลปัจจุบันที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำและมี แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวสุดที่รักของนายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยหลายนโยบายของรัฐบาล ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเชื่อมโยงกับความเห็นของนายทักษิณ ซึ่งกล่าวในงานต่างๆ ที่ได้รับเชิญให้ไปบรรยาย รวมถึงในการปราศรัยทุกเวทีที่นายทักษิณช่วยหาเสียงให้กับตัวแทนพรรคเพื่อไทยสู้ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. ทั้งที่ จ.อุบลราชธานี วันที่ 11 ธ.ค.2567 และที่จ.เชียงใหม่ วันที่ 23-24 ธ.ค. 2567
รายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในตอนที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2567 เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราชให้สัมภาษณ์ในประเด็นการเมืองไทย ณ ปัจจุบัน ว่า นายทักษิณถือเป็นศูนย์กลางของทั้งหมด หรือก็คือทุกอย่างพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณ หรือนายทักษิณก็คือผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองสูงสุดของประเทศไทยในเวลานี้
ส่วนความเป็นไปได้ที่นายทักษิณจะหวนคืนสู่การเมือง ถึงขั้นกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งตนจับสัญญาณได้จากเวทีหาเสียงนายก อบจ. อุบลราชธานี ที่นายทักษิณไปช่วยปราศรัยหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย ในตอนหนึ่งได้กล่าวว่า ตนเองอายุ 75 ปี มีเงิน มีเวลา มีกำลังช่วยเหลือประเทศชาติ ไม่ต้องมีตำแหน่งก็ได้ ตนได้ยินตรงนี้ก็เห็นว่า ที่นายทักษิณเคยบอกว่าจะกลับมาเลี้ยงหลาน ตอนนี้ไม่ได้เลี้ยงหลานแล้วแต่มาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกแทน และคิดรุกคืบกลับมาสู่การมีตำแหน่งทางการเมือง
ประกอบกับการเห็นลูกสาวอย่างน.ส.แพทองธาร ที่นายทักษิณพยายามผลักดันขึ้นมาแต่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ นายทักษิณจึงออกมาเคลื่อนไหวเพื่อสร้างการยอมรับในสังคม ทั้งนี้ ปัจจุบันนายทักษิณไม่สามารถเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้เพราะติดเงื่อนไขทางกฎหมาย ทำได้เพียงอยู่หลังฉาก แต่นายทักษิณก็พยายามเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเพื่อให้เห็นว่านี่คือผู้นำตัวจริง
รวมถึงการไปเป็นวิทยากรในการสัมมนาของพรรคเพื่อไทย ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายทักษิณก็บอกว่าพรรคเพื่อไทยเกิดมาเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และคนที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ก็คือ นายทักษิณ อย่างการลงพื้นที่ของนายทักษิณก็จะมีภาพชาวบ้านออกมาชื่นชมดังนั้นการเคลื่อนไหวของนายทักษิณก็เพื่อ 1.สร้างการยอมรับในสังคม ให้คนนึกถึงมากที่สุด 2.สร้างความไว้วางใจให้กับฝ่ายอนุรักษ์นิยมให้เห็นว่าบ้านเมืองไปไม่รอดหากไม่มีคนแบบนายทักษิณ ซึ่งหากฝ่ายอนุรักษ์นิยมสนับสนุนหรือไม่ขัดขวาง นายทักษิณก็มีโอกาสกลับมาสู่การเมืองได้
ส่วนกรณีที่นายทักษิณพูดจาข่มขู่พรรคร่วมรัฐบาล ตนมองว่านายทักษิณรู้อยู่แล้วว่าพรรคการเมืองเหล่านี้ขู่อย่างไรก็ไม่ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล เพราะพรรคเหล่านั้นลงทุนกับการเลือกตั้งในปี 2566 ไปมาก และต้องสะสมทุนเพื่อเตรียมตัวสู่การเมืองเลือกตั้งปี 2570 บางพรรคเคยรบกับนายทักษิณเป็นสิบปียังมาเข้าร่วมด้วย ดังนั้น นายทักษิณจึงสามารถแสดงบทบาทเป็นผู้จัดการรัฐบาลได้ คือจะไม่เกรงใจ น.ส.แพทองธาร ก็ต้องเกรงใจนายทักษิณ
แต่ในทางกลับกัน บรรดาพรรคร่วมรัฐบาลก็รู้และพยายามกดดันนายทักษิณเช่นกัน เพราะรู้ว่านายทักษิณสลัดตนเองออกจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่ได้ การต่อสู้ครั้งก่อนกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ทำให้นายทักษิณต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง 17 ปี สู้มาจับมือกับฝ่ายอนุรักษ์นิยมดีกว่า เพราะนายทักษิณก็รู้อีกว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมกลัวผีสีส้ม จึงพยายามทำให้ผีสีส้มดูน่ากลัว จากที่คนกลัวนายทักษิณเหมือนผี ตอนนี้นายทักษิณกลายมาเป็นหมอผีเพื่อปราบผีสีส้ม ตราบใดที่ผีสีส้มแรงขึ้น นายทักษิณก็ยังมีบทบาทเป็นหมอผีเพราะฝ่ายอนุรักษ์นิยมจำเป็นต้องเลี้ยงนายทักษิณไว้
“ฝ่ายอนุรักษ์ นิยมที่จะไปสู้กับผีส้ม สู้พรรคประชาชน ดูสิว่ามีใครบ้าง? ใครที่จะสู้? มันไม่มี อย่างไรเขาก็คิดว่าให้ทักษิณ ใช้ทักษิณดีกว่า อย่างน้อยก็เรียกว่ามีชนักปักหลังไว้แล้ว ถ้าย่ามใจมาก ผยองมากก็กระตุกได้ แล้วเรื่องอะไรจะให้ผีส้มมันขึ้นมา ก็เลยใช้ทักษิณ คือ 2 ส่วนนี้นะ ในพรรคร่วมรัฐบาลมันไม่ต่างอะไรกับละครทีวีหรือหนังไทย ตบจูบ! คือทะเลาะกันแล้วก็ดีกัน ไปกันอย่างนี้จนจบ เว้นแต่มันถึงที่สุดแล้วก็ต้องยุบสภาแล้วก็ไปเลือกตั้งใหม่ แต่ถามว่าพร้อมไหม? มันก็ไม่พร้อม ไม่มีใครพร้อมสักคนวันนี้ ยุบสภาก็เสร็จพรรคประชาชนมันเอาหมด” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไทกล่าวต่อไปว่า ส่วนเรื่องที่มองว่าหมอผีจะไปรวมกับผีส้ม เรื่องนี้ยากเพราะหมอผีก็รู้ดีว่าหากไปร่วมแล้วตนเองจะต้องเจออะไรบ้าง ไหนจะคดีมาตรา 112 ไหนจะเรื่องต่างๆ ที่อยู่ในองค์กรอิสระ ดังนั้นนายทักษิณรู้ว่า ณ ปัจจุบัน จุดที่ตนเองยืนอยู่คือสบายที่สุด คือพยายามอยู่ใต้ร่มเงาฝ่ายอนุรักษ์นิยม แต่ที่ผ่านมานายทักษิณก็ถูกฝ่ายอนุรักษ์นิยมเล่นงาน แต่เมื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยมดึงนายทักษิณมา นายทักษิณจึงเป็นอนุรักษ์นิยมใหม่ ขึ้นมาเป็นหัวหอกของฝ่ายอนุรักษ์นิยมแล้วจะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปอยู่กับผีสีส้ม
เพราะต้องยอมรับว่านายทักษิณไม่ใช่นักการเมืองที่มีอุดมคติหรืออุดมการณ์ แต่เป็นเพียงพ่อค้าหรือนักธุรกิจที่เข้ามาอยู่ในการเมืองหลักคิดของนายทักษิณจึงไม่ใช่อุดมการณ์หรือจุดยืน แต่เป็นอะไรก็ได้ที่ได้ประโยชน์กับตนเอง ครอบครัวและธุรกิจ และถึงนายทักษิณจะถูกยกเป็นรัฐบุรุษในต่างประเทศ แต่ไม่สามารถเป็นรัฐบุรุษในประเทศไทยได้ เพราะเป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ และต้องเป็นบุคคลที่เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศในระยะยาวแต่นายทักษิณถูกตัดสินจำคุกคดีทุจริต
ส่วนกรณีที่ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่งตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาในฐานะประธานอาเซียน ตนมองว่าเป็นเพราะสายสัมพันธ์ส่วนตัวของนายทักษิณ ซึ่งต้องการใช้ยุทธศาสตร์โลกล้อมประเทศ แบบเดียวกับที่ก่อนหน้านี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของ ฮุนเซน ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประเทศต่อไปที่นายทักษิณพยายามจะมีบทบาทคือ เมียนมา จากที่มีข่าวเชิญตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ มากินข้าวที่ จ.เชียงใหม่ ใครจะรู้ว่าในอนาคต พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา อาจตั้งนายทักษิณเป็นที่ปรึกษาก็ได้
ซึ่งนี่คือความพยายามของนายทักษิณในการทำให้ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเห็นว่าตนเองเป็นนายกฯ อินเตอร์ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านและประชาชนคนไทยยอมรับหมด หากผลการเลือกตั้งออกมาแล้วได้คะแนนมากที่สุด เอาชนะพรรคประชาชนได้ ถามว่าใครจะไปขวางได้ และตนขอเป็นคนแรกที่ฟันธงว่านายทักษิณมีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ เพราะประเทศไทยมีอภินิหารทางกฎหมายเกิดขึ้นบ่อยมาก ดังนั้น อะไรก็เกิดขึ้นได้
“ข้อจำกัดของคุณทักษิณที่ไม่สามารถเข้าไปสู่ตำแหน่งได้เพราะมีเงื่อนไขทางกฎหมายห้ามไว้ อันดับแรกคุณทักษิณมีเรื่องมีคดี สมมุติว่ารัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลของคุณทักษิณออกพระราชกฤษฎีกาล้างมลทินให้กับคุณทักษิณ พระราชกฤษฎีกาล้างมลทินออกมาหลายครั้งแล้วในประเทศไทยที่ล้างมลทินให้แล้วก็เขียนท้ายพระราชกฤษฎีกาว่าล้างมลทินให้คดีอะไรบ้าง” นายเทพไท ระบุ
นายเทพไท ยังกล่าวอีกว่า การออกพระราชกฤษฎีกาล้างมลทิน สามารถทำได้โดยไม่ต้องแก้รัฐธรรมนูญเสียด้วยซ้ำไป หรือหากไม่เลือกทางนี้ จะไปใช้ช่องทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้ เพราะจะมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หาก ส.ส.ร. ไปกำหนดคุณสมบัติที่อาจ
แตกต่างไปจากรัฐธรรมนูญฉบับ 2560 หรือฉบับ 2550 นายทักษิณก็มีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ อย่างที่ตนย้ำว่าประเทศไทยมีอภินิหารทางกฎหมายเกิดขึ้นเสมอ เพียงแต่ประชาชนจะยอมรับหรือไม่
ส่วนที่มีผู้โต้แย้งว่า หากนายทักษิณกลับมาจะมีคนออกมาชุมนุมประท้วงเต็มบ้านเต็มเมือง ตนก็ขอถามกลับว่าจะมีม็อบที่ไหนออกมา เอาง่ายๆ นายทักษิณถูกลงโทษจำคุก 1 ปี แต่ไม่ต้องอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว หากเป็นในอดีตม็อบออกมาเยอะแล้ว ถามว่าวันนี้มีที่ไหน เห็นมีเพียงแกนนำที่เดินทางไปสำนักงานคณะ
กรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คือเป็นเพียงสัญลักษณ์
ส่วนที่มีภาพการรวมตัวกันของภาคส่วนต่างๆ จะมีผลอะไรหรือไม่ ในชั่วโมงนี้ตนมองว่าม็อบไม่เข้มแข็งอย่างเมื่อก่อน เพราะมีแต่ความสับสนกันทุกฝ่ายทั้งเสื้อเหลืองพันธมิตร กปปส. นกหวีด นปช. เสื้อแดง เพราะต่อสู้กันไป-มา สุดท้ายแกนนำก็มาจูบปากร่วมเป็นรัฐบาล ฮั้วประโยชน์ทางการเมืองลงตัว แล้วมวลชน
จะอยู่อย่างไร ดังนั้น หากจะมีใครมาเป็นแกนนำชวนมวลชนออกมาชุมนุมอีก มวลชนก็จะต้องถามตนเองแล้วว่าจะออกไปดีไหม จะเหมือนรอบก่อนหรือไม่ ที่มวลชนไปเป็นนั่งร้านให้แกนนำจูบปากกันอีก มวลชนก็อาจไม่อยากจะออกไป
นอกจากนั้น ตนมองว่าสถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว ในอดีตการชุมนุมคือการไปนอนกลางถนน ตั้งโรงครัว ถ่ายทอดสดผ่านช่องดาวเทียม แต่คนยุคทุกวันนี้เดือดร้อนอะไรก็ชุมนุมทางออนไลน์ เว้นแต่สถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆ ก็อาจจะออกมา แต่ถึงออกมาก็ไม่นาน ประเภทปักหลักค้างคืนพักแรมจะมีน้อย คือจากม็อบก็เป็นเพียงกระแสสังคมกดดัน เรื่องนี้นายทักษิณก็อ่านขาดอีกว่าวันนี้ไม่มีอะไร
ส่วนสื่อมวลชนปัจจุบันสปอนเซอร์ก็หายากอยู่แล้ว และสปอนเซอร์ที่มากที่สุดก็คือหน่วยงานของรัฐ ถ้านายทักษิณบอกว่าไม่ให้สปอนเซอร์แล้วจะเอาโฆษณามาจากไหน ซึ่งการแทรกแซงสื่อนั้นนายทักษิณก็ทำมาโดยตลอดรวมถึงการใช้กลไกรัฐเข้าไปตรวจสอบฝ่ายตรงข้ามอย่างที่ไปเปรยบนเวทีสัมมนาที่หัวหิน ที่เอ่ยถึงคนที่มีเมีย 3 ลูก 5 น่าจะให้สรรพากรไปตรวจสอบหรือคดียิงกันที่ จ.ปราจีนบุรี แค่นายทักษิณเปรยว่าเป็นพื้นที่ผู้มีอิทธิพลมานาน ยังไม่ทันที่น.ส.แพทองธาร จะตั้งคณะกรรมการอะไร ตำรวจก็ลงพื้นที่ตรวจค้นกวาดเรียบแล้ว
ส่วนคำถามว่าแล้วจะมีอะไรที่หยุดนายทักษิณได้บ้างหรือไม่ ตนมองว่าหากมีเหตุการณ์บางอย่าง เช่น กรณีที่ ป.ป.ช. กำลังตรวจสอบการที่นายทักษิณได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนจำไปพักที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายทักษิณป่วยจริงหรือไม? หากไม่ป่วยจริงก็จะเข้าข่ายหลอกลวง หรือกรณีที่ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ จะไปยืนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หาก ป.ป.ช. ชี้ว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง ก็อาจถูกจับเข้าคุกอีกครั้งก็ได้
“คุณทักษิณคือนายกฯ ตัวจริง สั่งหมดทุกอย่าง คุณทักษิณก็เลยตีเมืองขึ้นหมดฉะนั้นคุณทักษิณเห็นว่าอำนาจมีหมด จะทำอะไรก็ได้ ดังนั้น ม็อบที่ว่า หรือใครถามผมว่าถ้าทักษิณกลับคืนตำแหน่งนายกฯ แล้วไม่กลัวม็อบหรือ? แกไม่กลัวหรอก แล้วยิ่งแกกดดันได้หมด สื่อกระบอกเสียงแกคุมได้หมด แล้วใครจะไปเอาอะไรมา? คือผมว่า นอกจากคุณทักษิณจะพลาดทำร้ายตัวเอง” นายเทพไท กล่าว
หมายเหตุ : สามารถรับชมรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ดำเนินรายการโดยบุญระดม จิตรดอน ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 11.00-12.00 น. โดยประมาณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี