เปิดร่างแก้รธน.ฉบับพรรคประชาชน! โทษเหตุต้องรื้อหนักเพราะ ‘มรดก คสช.’ ปรับเงื่อนไข ม.256 แก้หมวด1 - 2 คุณสมบัติ ‘นักการเมือง’ ไม่ต้องผ่าน ‘ประชามติ’ ออกแบบเลือกตั้งส.ส.ร. 200 คน ให้สิทธิ ‘นักการเมือง’ ถูกเพิกถอนสิทธิ สมัคร ‘ส.ส.ร.’ ได้ ขีดเส้นทำรธน.ใหม่ 360วัน ตั้ง ‘45อรหันต์’ ยกร่างทำรธน. ให้โควตาคนนอก 15 คน เขียนให้รัฐสภามีหน้าที่แค่แสดงความเห็น
วันที่ 2 มกราคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนและคณะ ได้นำร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เมื่อช่วงกลางเดือนธ.ค.2567 และประธานรัฐสภา เตรียมนัดประชุมวิป 3 ฝ่าย หารือถึงการนัดประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อเตรียมวาระพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 8 ม.ค. นั้น
ล่าสุด สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้เผยแพร่เอกสารร่างแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ 2560 และเพิ่มเติมหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่พรรคประชาชนเสนอแล้ว โดยมีสาระสำคัญ ระบุในเหตุผลว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางประชาธิปไตย เพราะเชื่อมโยงกับคณะรัฐประหาร ถูกรับรองโดยกระบวนการประชามติที่ไม่เสรีและเป็นธรรม รวมถึงมีบทบัญญัติหลายประการที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย จึงสมควรแก้ไข โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนดำเนินการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และแก้ไข มาตรา 256 ของรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่เป็นอุปสรรคต่อการแก้ไข
สำหรับสาระที่แก้ไขที่สำคัญ ได้แก่ แก้ไข มาตรา 256 ว่าด้วยหลักเกณฑ์การออกเสียงรับหลักการวาระแรก และเสียงเห็นชอบในวาระสาม ที่กำหนดให้ใช้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกรัฐสภาที่มีอยู่ โดยตัดเงื่อนไขที่ต้องใช้เสียงเห็นร่วมด้วยของ สว. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ออกไปและแทนที่ด้วย เสียงเห็นชอบจาก สส. ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 แทน
นอกจากนั้นได้ตัดเงื่อนไขของการนำไปออกเสียงประชามติก่อนการทูลเกล้าฯถวาย ในมาตรา 256 (8) ในกรณี เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ เรื่องที่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามรัฐธรรรมนูญเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่หรืออำนาจศาลหรือองค์กรอิสระ เรื่องที่ที่ทำให้ศาลหรือองค์กรอิสระไม่อาจปฏิบัติหน้าที่หรืออำนาจได้
รวมถึงได้แก้ไขความในมาตรา 256(9) ที่กำหนดสิทธิให้ สส. สว. หรือสมาชิกทั้ง2สภารวมกันเข้าชื่อ เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ชี้ว่าร่างรัฐธรรมนูญนั้นขัดต่อ มาตรา 255 หรือมีลักษณะตาม (8) เดิมใช้เกณฑ์เสียงไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 แต่ได้ปรับลดเหลือ 1 ใน 5
ขณะที่หมวด 15/1 ซึ่งเพิ่มใหม่ ว่าด้วยการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้น กำหนดให้มี ส.ส.ร. 200 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนด้วยกติกาบัตร 2 ใบ แบ่งเป็นเลือกแบบเขต โดยสมัครในนามบุคคล จำนวน 100 คน ให้ใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง และเลือกแบบบัญชีรายชื่อ จำนวน 100 คน ใช้เขตประเทศเป็นเขตเลือกตั้ง ทั้งนี้ได้กำหนดให้การเลือกแบบบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครเป็น สส. ต้องลงสมัครเป็นทีม ทีมละไม่น้อยกว่า 20 คนแต่ไม่เกิน 100 คน
ในขณะที่คุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส.ร. อาทิ อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี มีสัญชาติไทย ส่วนลักษณะต้องห้ามลงสมัครนั้น กำหนดไว้ 13 ข้อ โดยได้นำบทบัญญัติการห้ามลงสมัคร สส.มาบังคับใช้ ยกเว้น ข้อห้ามที่ระบุว่า อยู่ระหว่างต้องห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อยู่ระหว่างการระงับการใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นการชั่วคราวหรือถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนและเพิ่มเติมคือ ห้ามข้าราชการการเมืองลงสมัคร รวมถึงเป็น สส. สว. รัฐมนตรี สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นด้วย
ทั้งนี้ได้กำหนดให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดการเลือกตั้ง ส.ส.ร.ให้เสร็จภายใน 60 วันนับแต่มีเหตุให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เมื่อเลือกตั้งแล้วเสร็จให้ กกต.รับรองผลภายใน15 วัน จากนั้นให้ส่งประธานรัฐสภาประกาศรายชื่อ สส.ในราชกิจจานุเบกษาภายใน 5 วัน อย่างไรก็ดี ในคราวแรกเมื่อรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมใช้บังคับ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชน ระบุว่าภายใน 30 วัน ให้ตราพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้ง ส.ส.ร. และดำเนินการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ให้เสร็จภายใน 60 วัน
สำหรับการทำงานของ ส.ส.ร. นั้น ยังกำหนดไว้ด้วยคือ ต้องจัดประชุมส.ส.ร.ภายใน 15 วัน นับแต่ที่กกต.ประกาศผลเลือกตั้งส.ส.ร. และให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ พร้อมกำหนดระยะเวลาทำให้แล้วเสร็จภายใน 360 วัน นับจากวันประชุมนัดแรก หาก ส.ส.ร. ทำไม่เสร็จตามกรอบเวลาให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส่วนการจัดทำพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญต้องทำทันทีที่รัฐธรรมนูญใหม่ประกาศใช้ และทำให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน แต่หากทำไม่เสร็จตามกรอบเวลาให้เป็นอำนาจของรัฐสภาดำเนินการ
ทั้งนี้ในส่วนของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น พรรคประชาชนได้เสนอว่า ให้มีจำนวน 45 คน มาจาก การแต่งตั้งบุคคลที่เป็น ส.ส.ร. 2 ใน 3 หรือ 30 คนและกรรมาธิการอื่นประมาณ 15 คน โดยสามารถตั้งจากส.ส.ร.หรือไม่เป็นก็ได้ โดยให้คำนึงถึงความเชี่ยวชาญในการทำหน้าที่และมีจำนวนกรรมาธิการตามจำเป็น
ทั้งนี้ในขั้นตอนการเห็นชอบร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น พรรคประชาชน กำหนดไว้ว่า ต้องให้เสนอต่อรัฐสภาเพื่อให้อภิปรายแสดงความคิดเห็นโดยไม่มีการลงมติ ภายใน 7 วัน เมื่อเสร็จสิ้นให้ กกต. นำไปออกเสียงประชามติภายในเวลา 90 - 120 วัน พร้อมกำหนดการตั้งคำถามประชามติด้วยว่าต้องชัดเจน เข้าใจง่าย ไม่ชี้นำ และเป็นกลางต่อทุกฝ่าย พร้อมให้สิทธิ เสรีภาพกับประชาชนในการแสดงความเห็น เมื่อทำประชามติเสร็จให้ กกต.ประกาศผลภายใน 15 วัน
กรณีที่ผลประชามติเห็นชอบด้วยให้ประธานส.ส.ร.นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย แต่หากประชามติไม่เห็นชอบให้ถือว่าตกไป พร้อมกำหนดบทที่ใช้บังคับกรณีที่การจัดทำรัฐธรรมนูญนั้นตกไปด้วยว่า ให้สิทธิสมาชิกรัฐสภาเสนอญัตติเพื่อจัดทำรัฐธรรรมนูญฉบับใหม่ ได้ 1 ครั้งในสมัยของรัฐสภา โดยใช้เสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีอยู่ และต้องมี สส.เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ทั้งนี้ บุคคลที่เป็น ส.ส.ร. มาแล้วจะเป็นส.ส.ร. อีกไม่ได้
ตามร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชน ยังได้กำหนดเพิ่มเติมด้วยว่า ภายในระยะเวลา 5 ปี ที่สมาชิกภาพส.ส.ร. สิ้นสุด ห้ามดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี สส. สว. สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ผู้พิพากษาศาลฎีกา ตุลาการศาลปกครองสูงสุด ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระ และอัยการสูงสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี