ที่ดินฮอกไกโด/บ้านเช่าลอนดอน2หลัง
‘อิ๊งค์’รวย1.39หมื่นล.
ปปช.เปิดกรุทรัพย์สินรัฐมนตรี
‘เศรษฐา’อู้ฟู่เกือบพันล้านบาท
‘ธรรมนัส’แจ้งภรรยา2คน/มี889ล.
‘ซาบีดา’234ล้าน/สะสมปืน-งาช้าง
ป.ป.ช.เปิดเซฟ นายกฯอิ๊งค์ รวยอู้ฟู่กว่า 1.39 หมื่นล้าน นาฬิกาหรู 75 เรือน กระเป๋าแบรนด์เนม 217 ใบ รถหรู 23 คันตุ๊กตาแบร์บริค 9 ตัว ทองคํา-เครื่องประดับ-เสื้อผ้าพรึ่บ! พบมีที่ดินที่ฮอกไกโด 1 แปลง-บ้านเช่าที่ลอนดอน 2 หลัง พร้อมรายการกู้เงินแม่-พี่ชาย-พี่สาว วันเดียวกันถึง 6รายการ กว่า 2.8 พันล้าน อดีตนายกฯ “เศรษฐา” รวย 985.4 ล้านบาท ลดลงจากที่เคยแจ้งไว้ 1,018ล้านบาท “ธรรมนัส”พ้น รมต.แจ้งป.ป.ช.ชื่อภรรยา 2 คน รวย 889 ล้าน ลดลงจากปี66 จำนวน 154 ล้าน ‘อัครา’น้องชายนั่ง รมช.เกษตรฯ 34.3 ล้าน ถือโฉนดที่ดินพะเยา เพียบ ‘ศักดิ์สยาม’ยื่นพ้นรมต.รวย111ล้าน/ไร้หนี้ “ซาบีดา” รมช.มท รวย234ล้านที่ดิน110ล้าน สะสมปืน งาช้าง เครื่องเพชรเพียบ ‘ชาดา ’ รวย 141 ล้าน ลดลง 5 ล้าน สะสมพระเครื่อง ของขลัง ปืน 23 กระบอก
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่ง จำนวน 6 คน และกรณีพ้นจากตำแหน่ง จำนวน 11 คน
‘อิ๊งค์’อู้ฟู่รวย1.39หมื่นล้านบาท
โดย น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 แจ้งสถานภาพอยู่กินกันฉันสามีภริยา กับนายปิฎก สุขสวัสดิ์ มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท แบ่งเป็นของ น.ส.แพทองธาร 13,846,208,451 บาท เป็นของนายปิฎก 147,118,452 บาท เป็นของบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 500,000 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 4,441,159,711 บาท แบ่งเป็นหนี้สินของ น.ส.แพทองธาร 4,439,980,600 บาท ซึ่งเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 5,458,262 บาท และเป็นหนี้สินอื่น 4,434,522,338 บาท เป็นหนี้สินของคู่สมรส 1,179,110 บาท
โดย น.ส.แพทองธาร แจ้งว่า มีรายได้ต่อปี 265,567,322 บาท แบ่งเป็นเงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส 3,409,682 บาท เงินปันผล 259,267,639 บาท ดอกเบี้ย 2,000,000 บาท ค่าเช่า 890,000 บาท และมีรายจ่ายต่อปี 57,720,000 บาท โดยมีรายนการที่น่าสนใจคือ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 45,000,000 บาท ค่าเบี้ยประกันภัย 1,200,000 บาท ค่าใช้จ่ายครัวเรือน 7,000,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 1,000,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 2,000,000 บาท
เก็บเงินสดหลากสกุล-หลายชาติ
ทรัพย์สินของ น.ส.แพทองธาร แบ่งเป็นเงินสด 7,272,743 บาท เงินฝาก 1,081,187,216 บาท เงินลงทุน 11,007,772,574 บาท เงินให้กู้ยืม 15,238,714 บาท ที่ดิน 724,922,982 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 168,615,386 บาท ยานพาหนะ 66,770,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 358,789,334 บาท ทรัพย์สินอื่น 415,639,500 บาท สำหรับเงินสดของ น.ส.แพทองธาร มีเงินสกุลหลายประเทศ ทั้งเงินบาท เยน ดอลลาร์ ดอลลาร์สิงคโปร์ ยูโร และปอนด์สเตอร์ลิง ส่วนเงินฝาก มี 29 บัญชี มูลค่า 1,081,187,216 บาท เงินลงทุนในกองทุนและหุ้นบริษัท 32 แห่ง
โชว์ที่ดินที่‘ฮอกไกโด’ญี่ปุ่น
ส่วนรายการให้กู้ยืม พบว่ามีรายชื่อของนายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย ทำสัญญากู้เงินเมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 15,238,714 บาท รายการที่ดิน แจ้งว่ามีทั้งหมด 12 แปลง ที่น่าสนใจคือ ที่ดินใน ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี 3 แปลง รวมทั้งหมด 9 งาน 180 ตารางวา รวมมูลค่า 9,900,600 บาท นอกจากนี้ ยังพบว่ามีที่ดินในเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (AZA-TOKIWA AKAIGAWAMURA YOICHI-GUN) ซื้อมาเมื่อ 15 ธันวาคม 2562 มูลค่า 30,000,000 บาทโดยแจ้งถือครองร่วมกับคู่สมรส แจ้งบัญชีคนละ 15,000,000 บาท
รถหรูทั้ง‘เบนท์ลีย์-โรลสรอยซ์’
ส่วนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง แจ้งว่ามี 9 หลัง แบ่งเป็น 5 ห้องชุด ใน กทม. พร้อมกับมีบ้าน 2 ชั้น จำนวน 2 หลังที่ อ.เมือง จ.นนทบุรี และ เขตคันนายาว กทม. นอกจากนี้ ยังมีตึกแถว 4 ชั้น ที่ ต.ชะอำ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในส่วนยานพาหนะ แจ้งว่ามีรถยนต์ 23 คัน อาทิ ยี่ห้อ BENTLEY รุ่น FLYING SPUR HYBRID มูลค่า 10,600,000 บาท ยี่ห้อ ROLLS-ROYCE รุ่น PHANTOM มูลค่า 6,700,000 บาท และ ยี่ห้อ TESLA แบบ MODEL X LONG RANGE มูลค่า 3,190,000 บาท
อึ้ง!เช่าบ้านที่อังกฤษนานเกือบพันปี
สำหรับรายการสิทธิและสัมปทานที่น่าสนใจ พบว่า มีการเช่าบ้านที่ Flat 11 Knaresborongh house, 7 Knaresborongh Place, London มูลค่า 111,612,250 บาท โดยเป็นสัญญาเช่า ตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์ 2550 ถึง 24 ธันวาคม 3537 รวมระยะเวลาเช่า 987 ปี และที่ Flat 6 14 Montpelier street, London มูลค่า 208,342,867 บาท โดยเป็นสัญญาเช่าตั้งแต่ 26 ก.ค. 2560 ถึง 21 ม.ค. 3552 รวมระยะเวลาเช่า 992 ปี นอกจากนี้ ยังมีการจ้างก่อสร้างบ้าน มูลค่า 38,034,227 บาท
สะสมกระเป๋า-เครื่องประดับเพียบ
ขณะที่ทรัพย์สินอื่น ประกอบด้วย ทองคำแท่ง จำนวน 75 บาท มูลค่า 3,000,000 บาท นาฬิกา 75 เรือน มูลค่ารวม 162,000,000 บาท ของสะสม (ตุ๊กตาแบร์บริค) 9 ตัว มูลค่า 1,900,000 บาท กระเป๋า 217 ใบ มูลค่า 76,650,000 บาท แหวน 108 วง มูลค่า 31,773,900 บาท เครื่องประดับกำไลข้อมือ 69 เส้น มูลค่า 28,559,700 บาท เครื่องประดับสร้อยคอ 67เส้น มูลค่า 35,675,400 บาท ต่างหู 205 คู่ มูลค่า 49,330,500 บาท เครื่องแต่งกาย 167 ชุด มูลค่า 26,750,000 บาท
ทำสัญญากู้เงินจากทั้ง‘พี่-แม่-ลุง’
สำหรับรายการหนี้สินอื่น พบว่า น.ส.แพทองธาร ได้ทำสัญญากู้เงินจาก น.ส.พิณทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ซึ่งเป็นพี่สาว เมื่อ 8 ก.ย. 59 ทั้งหมด 4 รายการ รวม 2,388,724,094 บาท นอกจากนี้ ยังกู้เงินจาก นายพานทองแท้ ชินวัตร ซึ่งเป็นพี่ชาย เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 335,420,541 บาท อีกทั้งยังกู้เงิน คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นมารดา เมื่อ 8 ก.ย. 59 จำนวน 136,517,701 บาท และกู้เงิน นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ซึ่งเป็นลุง จำนวน 2 รายการ เมื่อปี 2566 รวมจำนวน 1,315,460,000 บาท
‘อิ๊งค์’ยิ้มตอบ‘นายกฯที่รวยที่สุด’
วันเดียวกัยที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์กรณี ป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินนายกรัฐมนตรีและคู่สมรส รู้สึกสบายใจขึ้นหรือไม่ ว่า มีการประกาศแล้วใช่หรือไม่ ตนเพิ่งทราบข่าว เมื่อถามว่าทรัพย์สินมีมูลค่ารวม 13,993 ล้านบาท และแหวนจำนวนมากถึง 110 วง นายกฯ หันมายิ้ม พร้อมกล่าวว่า ไม่เคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินแบบนี้มาก่อนเลย เมื่อถามอีกว่า ถือว่าเป็นนายกฯ ที่รวยที่สุด นายกฯ ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยิ้มให้กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ทำเนียบรัฐบาล
‘เศรษฐา”รวย 985.4 ล้านบาท’
ด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน กรณีพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2567 แจ้งบัญชีทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรสคือ นางพักตร์พิไล ทวีสิน มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 985,437,437 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของนายเศรษฐา 625,310,943 บาท และคู่สมรส 360,126,494 บาท โดยมีหนี้สินรวม 754,255 บาท นายเศรษฐา แจ้งทรัพย์สินเป็นเงินสด 1,000,000 บาท เงินฝาก จำนวน 48 บัญชี รวมมูลค่า 99,524,406 บาท เงินลงทุน 1,394,738 บาท ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนในโทเคนดิจิทัลชื่อ SiriHubA มูลค่า 199,838 บาท
ที่ดิน มูลค่า 158,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างมูลค่า 156,423,120 บาท ยานพาหนะมูลค่า 50,000,000 บาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 22,827,987 บาท และทรัพย์สินอื่น มูลค่า 135,740,700 บาท โดยนายเศรษฐา แจ้งเงินเบิกเกินบัญชี 674,994 บาท คู่สมรสแจ้งว่ามีเงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก จำนวน 39 บัญชี รวม 38,199,762 บาท เงินลงทุน 58,998,824 บาท ยานพาหนะ รวมมูลค่า 2,050,000 บาท
สิทธิและสัมปทาน รวมมูลค่า 759,007 บาท และทรัพย์สินอื่น ๆ รวมมูลค่า 258,318,900 บาท โดยแจ้งเงินเบิกเกินบัญชี 79,261 บาท นายเศรษฐา ยังแจ้งอีกว่ามีรายได้ต่อปี 22,730,066 บาท เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 879,130 บาท เงินบำนาญชราภาพ 49,848 บาท ดอกเบี้ยจากทรัพย์สิน 450,845 บาท ผลประโยชน์หรือผลตอบแทนจากการถือครองโทเคนดิจิทัล 139 บาท รายได้จากบุตร 20,000,000 บาท
ขณะที่รายจ่ายต่อปี รวม 43,198,179 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 7,290,000 บาท ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,635,000 บาท และได้ค่าใช้จ่ายในการจัดงานฌาปนกิจของมารดา 24,816,000 บาท ก่อนหน้านี้ ในการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เมื่อพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2567 นายเศรษฐาและคู่สมรส แจ้งว่ามีทรัพย์สิน รวมทั้งหมด 1,018,719,225 บาท
‘ธรรมนัส’เมีย2คน/รวย889ล้าน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยื่นกรณีพ้นจากตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ แจ้งว่าตนเองและนางอริสรา คู่สมรส และ น.ส.ธนพร ศรีวิราช ที่อยู่กินฉันสามีภรรยา และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สินรวม 889,640,000 บาท มีหนี้สิน 116,431,879 บาท โดยเป็นทรัพย์สินของ ร.อ.ธรรมนัส 642,671,311 บาท และของนางอริสรา 185,606,335 บาท ร.อ.ธรรมนัส แจ้งว่ามีเงินฝาก 193,076,197 บาท เงินลงทุน 11,150,000 บาท ที่ดิน 163,515,755 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 53,101,176 บาท ยานพาหนะ 41,615,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 34,621,182 บาท
มีนาฬิกาหรู13เรือน41ล้าน
และทรัพย์สินอื่น มูลค่า 145,592,000 บาท ประกอบไปด้วย นาฬิกาหรู 13 เรือน มูลค่ากว่า 41 ล้านบาท เช่น PATEK PHILIPPE มูลค่า 9,200,000 บาท ขณะที่ทรัพย์สินของคู่สมรสประกอบไปด้วย เงินฝาก 5,587,164 บาท เงินลงทุน 4,300,000 บาท ที่ดิน 103,325,775 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 52,336,764 บาท ยานพาหนะ 11,330,000 บาท สิทธิและสัมปทาน 296,632 บาท ทรัพย์สินอื่น มูลค่า 8,430,000 บาท
ส่วนบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ มีทรัพย์สิน 61,182,354 บาท ประกอบไปด้วยเงินฝาก 32, 476,972 บาท มีที่ดิน 6,733,800 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 4,275,600 บาท ยานพาหนะ 2 ล้านบาทสิทธิ์และสัมปทาน 15,695,981 บาท ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยื่นบัญชีทรัพย์สินครั้งก่อนเมื่อเดือน ก.ค. 2566 พบว่ามีทรัพย์สิน 1,043 ล้านบาท พบว่าประมาณกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาทรัพย์สินลดลงราว 154 ล้านบาท
‘ศักดิ์สยาม’โสดร้อยล้าน/ไร้หนี้
ส่วนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่งรมว.คมนาคมเมื่อ 3 มี.ค.66 แจ้งสถานภาพโสด มีทรัพย์สินทั้งหมด 111,936,663.13 บาท ไม่มีหนี้ แบ่งเป็นเงินสด 1,700,000 บาท เงินฝาก 2 บัญชี รวม 69,488,973.13 บาท ที่ดินจำนวน 19 แปลง มูลค่า 34,248,450 บาท โดยเป็นที่ดินที่อ.สะตึก จ. บุรีรัมย์ ยานพาหนะ 2 คัน รวมมูลค่า 2,100,000 บาท
ส่วนรายการทรัพย์สินอื่น แจ้งมูลค่า 4,399,250 บาท เป็นพระเครื่องเลี่ยมทอง 2 องค์ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 1 เส้น หนัก 10 บาท จำนวน 1 เส้น นาฬิกาโรเล็กซ์ 1 เรือน แหวนเพชร 1 วง งาช้าง 1 คู่ และมีปืน 3 กระบอกและแจ้งมีรายจ่ายต่อปี 2,082,000 บาท โดยเป็นค่าเช่าบ้านปีละ 240,000 และเงินสมทบกองทุน 42,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวปีละ 1,800,000 บาท ซึ่งมีเงินได้พึงประเมินภาษี 1,388,880 บาท ขณะที่มีรายได้ต่อปี 1,388,880 บาท
ในการแสดงรายการทรัพย์สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง สส. เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2567 นายศักดิ์สยาม แจ้งมีทรัพย์สินรวม 110,476,563.58 บาท ไร้หนี้สิน ทรัพย์สินประกอบด้วย เงินสด 750,000 บาท เงินฝาก 2 บัญชี รวมมูลค่า 68,953,113.58 บาท ที่ดิน 19 แปลงใน จ.บุรีรัมย์ รวมมูลค่า 34,248,450 บาทยานพาหนะ รถยนต์ 2 คัน มูลค่า 2,100,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่น เช่น พระเครื่องเลี่ยมทอง งาช้าง สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 10 บาท ปืน 3 กระบอก แหวนเพชร นาฬิกาโรเล็กซ์ รวมมูลค่า 4,425,000 บาท
‘ชาดา’รวย141ล้าน-ลูก7คน
ขณะที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ กรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.มหาดไทย เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 แจ้งบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายจำนวน 3 คน และบุตรที่เกิดจากบิดามารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่ได้แสดงออกหรือรับรองโดยอุปการะเลี้ยงดูให้การศึกษา ดูแลรักษาพยาบาลและแสดงออกต่อสังคม ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมอีก 4 คน โดยแจ้งมีบัญชีทรัพย์สินทั้งสิ้น 141,739,103 บาท
โดยเป็นทรัพย์สินของนายชาดา 141,449,349 บาทและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ 289,753 บาท แบ่งเป็น เงินสด 1,500,000 บาท เงินฝาก จำนวน 16 บัญชี 18,112,087 บาท เงินลงทุน 14,396,000 บาท แบ่งเป็น ลงทุนใน THAI FOOD NETWORK TV จำนวน 20,000 หุ้น มูลค่ากว่า 696,000 บาท โค 250 ตัว มูลค่า 7,500,000 บาท กระบือ จำนวน 200 ตัว มูลค่า 6,000,000 บาท และม้า 2 ตัว มูลค่า 200,000 บาท
สะสม‘พระเครื่อง-ของขลัง’
โดยมีหนี้สินทั้งสิน 81,682 บาท เป็นหนี้เงินกู้จากธนาคารและสถาบันการเงิน ส่วนที่ดิน มีทั้งหมด 45 แปลง ในอำเภอเมือง อำเภอบ้านไร่ อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี และอำเภอเมือง จ.นครสวรรค์ มูลค่ารวม 33,844,040 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 5 หลัง มูลค่า 16,200,000 บาท ยานพาหนะ แบ่งเป็นรถยนต์ 5 คัน และรถจักรยานยนต์ 7 คัน มูลค่ารวม 4,850,000 บาท สิทธิและสัมปทาน มูลค่า 10,737,291 บาท
นายชาดายังแจ้งรายการทรัพย์สินอื่น มูลค่า 41,810,000 บาท แบ่งเป็น พระเครื่อง 18 องค์ มูลค่า 14,980,000 บาท ตะกรุดหลวงพ่อเดิม 6 ดอก และมีดหลวงพ่อเดิม 6 เล่ม มูลค่า 130,000 บาท แหวนและพลอย 2,000,000 บาท สิงห์แกะงาช้าง พระเครื่องและตะกรุด 12 ชิ้น มูลค่า 500,000 บาท สร้อยคอ และสร้อยข้อมือทองคำขาว จำนวน 5 เส้น มูลค่า 1,000,000 บาท สร้อยคอทองคำขาว จี้หยก และแหวนหยก จำนวน 5 ชิ้น มูลค่า 2,500,000 บาท แหวนเพชร และแหวนหยก จำนวน 2 ชิ้น มูลค่า 1,100,000 บาท
ครอบครองปืน23กระบอก
นอกจากนี้ นาฬิกา 24 เรือน มูลค่า 11,900,000 บาท กระเป๋าเดินทาง 500,000 บาท อาวุธปืน 23 กระบอก มูลค่ารวม 1,300,000 บาท นาฬิกา PATEK PHILIPPE 2 เรือน มูลค่ารวม 5,700,000 บาท และกล่องใส่นาฬิกาอัตโนมัติ 1 ใบ มูลค่า 200,000 บาท นายชาดา แจ้งเงินเกินบัญชี มูลค่า 81,682 บาท มีเงินฝากให้บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ จำนวน 6 บัญชี 289,753 บาท
ขณะที่รายได้ต่อปี รวม 19,014,057 แบ่งเป็น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าตอบแทน 1,362,720 บาท ค่าเช่าแผงเนื้อ 600,000 บาท รายได้จากการทำเกษตรกรรม ค่าอ้อย 51,337 บาท และธุรกิจค้าโคกระบือ 10,000,000 บาท ค้าโคกระบือชำแหละ 7,000,000 บาท พร้อมแจ้งว่ามีรายจ่ายต่อปี มูลค่า 9,000,650 บาท โดยเป็นรายจ่ายส่วนตัว 5,000,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงโคกระบือ 2,500,000 บาท
ทรัพย์สินลดลงเกือบ6ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายทำไร่อ้อย 300,000 บาท เบี้ยประกันชีวิต 850,000 บาท ค่าท่องเที่ยว 1,000,000 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและค่าเล่าเรียน 2,300,000 บาท ทั้งนี้ นายชาดา เคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งตำแหน่ง เมื่อวันที่ 4 ก.ค.66 พร้อมบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งขณะนั้นมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 147,727,537 บาท และปัจจุบันมีทรัพย์สินลดลง 5,988,434 บาท ขณะที่รายการทรัพย์สินอื่นยังคงเดิม
‘พัชรวาท’อีกรมต.ไร้หนี้สิน
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ยื่นทรัพย์สินกรณีพ้นจากรองนายกฯ และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 แจ้งบัญชีทรัพย์สินพร้อมนางสมถวิล วงษ์สุวรรณ คู่สมรสว่ามีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 292,293,600 บาท เป็นของ พล.ต.อ.พัชรวาท 128,029,300 บาท นางสมถวิล 164,264,299 บาท ไม่มีหนี้สิน โดยพล.ต.อ.พัชรวาท แจ้งว่ามีเงินฝาก 11 บัญชี รวม 84,027,823 บาท ที่ดิน จำนวน 4 แปลง รวมมูลค่า 10,135,500 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2 หลัง รวมมูลค่า 16,000,000 บาท ยานพาหนะ จำนวน 3 คัน รวมมูลค่า 8,5574,000 บาท
สะสมพระเครื่อง82องค์-ทอง1เส้น
ขณะที่รายการทรัพย์สินอื่น มูลค่า 7,597,500 บาท ประกอบด้วย พระสมเด็จ พระเครื่องเหลี่ยมกรอบทอง เหรียญทอง เหรียญรัชกาลทอง และสร้อยทอง จำนวน 82 องค์ และ 1 เส้น และแจ้งว่ามีรายได้ต่อปี 647,140 บาท โดยเป็นเงินเดือนค่าจ้างค่าตอบแทน เบี้ยประชุมหรือโบนัส และมีรายจ่ายต่อปี 500,000 บาท แบ่งเป็นค่าน้ำมันรถ 200,000 บาท และค่าอุปโภคบริโภค 300,000 บาท
นางสมถวิล แจ้งว่ามีเงินฝาก 6 บัญชี รวม 116,636,058 บาท เงินลงทุน 31,097,605 บาท ที่ดิน 1 แปลง รวมมูลค่า 324,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1 หลัง มูลค่า 300,000 บาท ยานพาหนะ 1 คัน มูลค่า 325,000 บาท รายการทรัพย์สินอื่น มูลค่า 13,630,000 บาท ที่ประกอบด้วย ต่างหูเพชร แหวนเพชร สร้อยเพชร กำไลเพชร นาฬิกา 3 เรือนและกระเป๋า 12 ใบ
‘อรรถกร’มี10ล.หลังพ้นรมช.เกษตรฯ
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร แจ้งทรัพย์สินหนี้สินกรณีพ้นจากตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 67 ว่าตนเองและภศิรา คู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 10,829,245 บาทโดยมีหนี้สิน 243,489 บาท เป็นทรัพย์สินของนายอรรถกร 1,976,893 บาท ประกอบด้วยเงินสด 350,000 บาท เงินฝาก 1,446,352 บาท สิทธิและสัมปทาน 120,541 บาทและทรัพย์สินอื่นมูลค่า 60,000 บาท
ส่วน ภศิรา ศิริลัทธยากร มีทรัพย์สิน 8,750,336 บาท และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมีสิทธิ์และสัมปทานมูลค่า 102,015 บาท โดยรายการทรัพย์สินอื่นของนายอรรถกร มีแหวนเพชร 1 วง มูลค่า 60,000 บาท ที่เหลือเป็นของคู่สมรส มีแหวนเพชร 1 วง มูลค่า 500,000 บาท ซอยและต่างหูเพชร 1 ชุด มูลค่า 275,000 บาท มีนาฬิกาหรู 5 เรือน ยี่ห้อ Rolex มูลค่ารวม กว่า 2,200,000 บาท มีกระเป๋าแบรนด์เนม HERMES 1 ใบ มูลค่า 350,000 บาทและกระเป๋าแบรนด์เนม CHANEL 1 ใบ มูลค่า 380,000 บาท เป็นต้น
รมต.ป้ายแดง‘ซาบีดา’มี200ล้าน
น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาวของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมช. มหาดไทย โดย น.ส.ซาบีดา แจ้งอยู่กินฉันสามีภรรยากับนายอนันต์ ปาทาน มีทรัพย์สินรวม 234,805,675 บาท หนี้สินรวม 2,948,814 บาท เป็นทรัพย์สินของ น.ส.ซาบีดา 211,837,780 บาท ประกอบด้วยเงินสด 300,000 บาท เงินฝาก 5 บัญชี 30,687,948 บาท เงินให้กู้ยืม 7.1 ล้านบาทกับ หจก.ทรัพย์ดินทำธุรกิจขายแร่เมื่อวันที่ 1ธ.ค 66 โดยยอดหนี้ยังเหลือเต็มจำนวน
ที่ดิน 64 แปลงทั้งในจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ ชัยนาท รวม 110,279,800 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 5 หลังเป็น บ้านพักอาศัยและอาคารโรงเรือนเลี้ยงสัตว์มูลค่า 19.5 ล้านบาท ยานพาหนะ 7 ล้านบาทสิทธิและสัมปทาน 2,079,032 บาท ทรัพย์สินอื่น 29,691,000 บาท หนี้สิน 76,902 บาท แจ้งมีรายได้ต่อปีรวม 3.4 ล้านบาทแบ่งเป็นค่าตอบแทน 240,000 บาทค่าเช่าที่ดิน 160,000 บาทรับจากสามี 3 ล้านบาท มีรายจ่ายต่อปีรวม 2,537,352บาทเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 2.5 ล้านบาท ค่าเบี้ยประกัน 37,352 บาท
สะสมงาช้าง-ปืน-เครื่องประดับ
ส่วนนายอนันต์ ซึ่งแจ้งว่าเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทสิงห์เมืองอุทัย มีทรัพย์สินรวม 22,967,894 บาท เป็นเงินสด 200,000 บาทเงินฝาก 6 บัญชี 13,514,979 บาท ที่ดิน 6 แปลงในจังหวัดอุทัยธานีรวม 4,920,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.2 ล้านบาท ยานพาหนะ 1.7 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 22,915 บาท ทรัพย์สินอื่น1,410,000 บาท หนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ 2,873,559 บาท แจ้งมีรายได้ต่อปี 11,327,741 บาทจากเงินเดือนและเบี้ยประชุม 1,327, 741 บาท จากธุรกิจ 10 ล้านบาท
มีรายจ่ายต่อปี 6,062,278 บาท เป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 3 ล้านบาทเบี้ยประกันชีวิต 62,278 ค่าใช้จ่ายภรรยา 3 ล้านบาท สำหรับทรัพย์สินอื่นที่น่าสนใจของทั้งคู่อาทิ งาช้างรวม 4 กิ่งมูลค่า ล้านบาทปืน 3 กระบอก รวมมูลค่า 300,000 บาท นาฬิกา Rolex 1 เรือน500,000 บาท แหวนเพชร1 วง 500,000 บาท เข็มกลัดเพชร ต่างหู แหวนมูลค่า 2.12 ล้านบาท สร้อยคอทองคำและสร้อยเพชรมูลค่า 1ชุด 6.72 ล้านบาทนาฬิกา Patek Philippe 2 เรือน รวมมูลค่า 2.4 ล้านบาทสร้อยคอทองคำสร้อยข้อมือ 2.82 ล้านบาท สร้อยคอเพชร 4.75 ล้านบาท เป็นต้น
‘อัครา’มีทรัพย์สิน34.3ล้านบาท
นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ น้องชายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แจ้งสถานะโสด มีทรัพย์สินรวม 34,346,057 บาท หนี้สิน 3,284,480 บาท ทรัพย์สินแบ่งเป็นเงินฝาก 75,322บาท ที่ดินมูลค่า 23,810,675 บาท ใน จ.พะเยา 11โฉนด ทั้งที่เป็นมรดกและซื้อเอง ยานพาหนะมูลค่า 6,500,000 บาท และทรัพย์สินอื่นมูลค่า 3,960,000 บาท ส่วนทรัพย์สินอื่นเช่นนาฬิกาหรูยี่ห้อปาเตะ 1 เรือน มูลค่า 2,500,000 บาท ทั้งนี้ นายอัครา เคยยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินตอนพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.พะเยา เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2567 มีทรัพย์สินทั้งสิ้น 34,473,723 บาท
‘อิทธิ’รมช.เกษตรรวย200กว่าล้าน
นายอิทธิ ศิริลัทธยากร บิดาของนายอรรถกร ศิริลัทธยากร และนางสุพัตรา คู่สมรส ยื่นบัญชีทรัพย์สินเนื่องจากนายอิทธิเข้ารับตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งมีทรัพย์สินรวม 225,894,914 บาท มีหนี้สิน 16,266,106บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายอิทธิ 210,019,017 บาทประกอบด้วยเงินฝาก 11,557,366 บาท เงินลงทุน 486,141 บาท เงินให้กู้ยืม 19 ล้านบาท ที่ดิน 165,155,510 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 12,550,000 บาท ยานพาหนะ 220,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 1,050,000 บาท ส่วนนางสุพัฒตรา มีทรัพย์สิน 15,875,896 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 1,457,840 บาท เงินลงทุน 364,606 บาท ที่ดิน 12,173,450 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 850,000 บาท ยานพาหนะ 30,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 1 ล้านบาท
‘อ.แหม่ม-สามี’รวย110ล้าน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กรณีเข้าดำรงตำแหน่งรมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อ 6 ก.ย. 67 โดยนางนฤมลและนายจุมพลคู่สมรสแจ้งมีทรัพย์สินรวม 110,802,758 บาท มีหนี้สิน 178,216 บาท แบ่งเป็นทรัพย์สินของนางนฤมล 43,945,643 บาท ประกอบด้วยเงินสด 200,000 บาทเงินฝาก 4 บัญชี 1,665,834 บาทเงินลงทุนในหน่วยลงทุนต่างๆ 4,048,348บาท ที่ดิน1 แปลงเขต คันนายาว กรุงเทพฯ มูลค่า 12.72 ล้านบาท ยานพาหนะ 1 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน7,311,460 บาท ทรัพย์สินอื่น 1 ล้านบาท
มีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 155,385 บาท แจ้งมีรายได้ต่อปีจากเงินเดือน 3,309,752 บาท มีรายจ่ายต่อปี 1.58 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 480,000 บาทและเบี้ยประกันชีวิต 1.1 ล้านบาท ส่วนนายจุมพลซึ่งเป็นผู้พิพากษา มีทรัพย์สินรวม 66,857,115 บาทเป็นเงินสด 250,000 บาท เงินฝาก 6,356,164 บาท เงินลงทุน 13,753,266 บาท ที่ดิน 4 แปลงในเขตลาดพร้าว หนองจอกและลาดกระบัง กทม.รวม 43 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 1.2 ล้านบาทยานพาหนะ 1.5 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 297,683 บาททรัพย์สินอื่น 500,000 บาท
มีแหวนเพชร2วง-ต่างหูเพชร1คู่
และมีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 22,831 บาท แล้วแจ้งมีรายได้ต่อปีเป็นเงินเดือน 1,968,480 บาทมีรายจ่ายต่อปี 2,875,900 บาทเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 500,000 บาท ค่าเล่าเรียนบุตร 1.6 ล้านบาท เบี้ยประกันชีวิต 275,900 บาทค่าจ้างคนงานในบ้าน 500,000 บาท สำหรับทรัพย์สินอื่นของทั้งคู่เป็นแหวนเพชร 2 วงมูลค่า 1 ล้านบาทและต่างหูเพชร 1 คู่มูลค่า 5 แสนบาท ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับช่วงที่นางนฤมลพ้นจากตำแหน่ง รมช. แรงงาน เมื่อวันที่ 8 ก.ย 64 เวลานั้นแจ้งว่ามีทรัพย์สินรวม 112,110,485 ล้านบาท ดังนั้นถึงปัจจุบันมีทรัพย์สินลดลง 1,307,727บาท
‘เฉลิมชัย’รมว.ทรัพยากรฯมี101ล้าน
ส่วนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน แจ้งทรัพย์สินกรณีเข้ารับตำแหน่งรมวทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 3 ก.ย.67 ว่าตนเองและนางธันยวีร์ คู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 101,769,629 บาท มีหนี้สิน 10,030,200บาท โดยเป็นทรัพย์สินของนายเฉลิมชัย 42 ล้าน 115,836 บาทแบ่งเป็นเงินฝาก 5 บัญชี 3,415,836 บาทที่ดิน 11 แปลงใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมมูลค่า 32.9 ล้านบาทยานพาหนะ 300,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 5.5 ล้านบาท
และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ10ล้านบาทโดยกู้ยืมจาก น.ส.นุชจรีย์ ศรีอ่อน พี่สาว เมื่อ 26 มิ.ย.56 และแจ้งมีรายได้ต่อปี 1,212,952 บาทจากเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 941,352 บาท เงินทุนเลี้ยงชีพ 171,600 บาทค่าเช่าที่ดิน 100,000 บาท รายจ่ายต่อปีไม่มี ส่วนนางธันยวีร์มีทรัพย์สินรวม59,653 ,792 บาทแบ่งเป็นเงินฝาก 7 บัญชี 5,753,792 บาทเงินให้กู้ยืม 1.1 ล้านบาท แบ่งกับนายสุรพงษ์ ใจงาม 1 ล้านบาทและนางพรรณนิดา นิลพันธ์ 100,000 บาท ในปี 2555
ที่ดิน40แปลง-ปืน10กระบอก
ที่ดิน 40 แปลงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มูลค่า 42.4 ล้านบาทโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาทยานพาหนะ 400,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 8 ล้านบาท และมีหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชี 30,200 บาท แล้วแจ้งมีรายได้ต่อปี 567,600 บาท ส่วนรายจ่ายต่อปีไม่มี ทรัพย์สินอื่น พี่น่าสนใจของทั้งคู่ อาทิ อาวุธปืน 10 กระบอกมูลค่า 550,000 บาทสร้อยคอทองคำ-พระเครื่อง มูลค่า 1 ล้านบาท แหวนเพชร-พลอย มูลค่า 800,000 บาทนาฬิกา 8 เรือนมูลค่ารวม 5.15 ล้านบาท กระเป๋าถือ 5 รายการ 1.5 ล้านบาท
สร้อยคอมุก 2 รายการมูลค่า 300,000 บาทต่างหูเพชร 4 รายการมูลค่า 400,000 บาท สร้อยคอ-ต่างหูพลอยนพเก้า 2 รายการมูลค่า 300,000 บาท เป็นต้น ทั้งนี้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนนายเฉลิมชัยเคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สินไว้คราวเข้าดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อ 5ก.ย.66 ว่าตนเองและคู่สมรสมีทรัพย์สินรวม 102,537,251.90 บาท มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 10,530,001 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี