‘วิปรัฐบาล’รับปาก‘ประธานสภา’
แจ้ง‘อิ๊งค์’มาตอบกระทู้
‘วันนอร์’แนะอย่าถามแต่นายกฯ
หวั่นอภิปรายยาว-ทำเสียเวลา
‘จตุพร’ปูดเตรียมปรับครม.
‘พีระพันธุ์-ภูมิธรรม’พ้นเก้าอี้
นายกฯ เผยสมเด็จพระสังฆราชฯ ประทานพรให้แข็งแรง ดูแลบ้านเมืองให้สงบ บอกได้รับน้ำมนต์รู้สึกสบายใจ “วันนอร์” เผย หารือวิปรัฐบาล แจ้ง “นายกฯอิ๊งค์” เข้าตอบกระทู้บ่อยขึ้น แนะสมาชิกถามกระทรวงที่รับผิดชอบโดยตรง หวั่นถามแต่นายกฯ จะเสียเวลา
เสี่ยงถูกซัดทอดไปเรื่อยๆ “อนุสรณ์”มั่นใจรัฐบาลผ่านศึกซักฟอกฉลุย ไม่มีอะไรน่าห่วง อยู่ครบเทอมแน่นอน “นพดล”ไม่กังวลสถานการณ์การเมืองทั้งในและนอกสภา เชื่อคัดค้าน MOU44ไม่บานปลาย ขอคุยด้วยเหตุผล “อนุทิน” ยันไม่มีสัญญาณปรับ ครม. “จุรินทร์” ยก 4 ประเด็นประเมินแก้ รธน.17ฉบับของฝ่ายค้าน 14-15 ม.ค.นี้ เชื่อ สว.ลงมติมีเหตุผลรองรับ ขณะที่ฝั่ง สส.ควรเป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรคการเมืองตามจุดยืน “จตุพร”ปูด “พีระพันธุ์”ส่อถูกปรับพ้น ครม. “ภูมิธรรม” อาจถูกปลด เอานายทหารยศไม่สูงเสียบแทน
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พุทธศักราช 2568 ณ พระตำหนักอรุณ โดยวันเดียวกันนี้นายกฯสวมชุดไทยเรือนต้น สีฟ้าคราม
ต่อมาเวลา 10.20 น. นายกฯ เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราชฯ ว่า สมเด็จพระสังฆราชได้ประทานพรให้สุขภาพแข็งแรง ทำงานรักษาความสงบสุข ไม่อยากให้มีขึ้นๆ ลงๆ ให้บ้านเมืองสงบสุข ซึ่งก็เป็นความตั้งใจของตนอยู่แล้ว ท่านได้อวยพรปีใหม่ และวันนี้ตนได้รับน้ำมนต์ก็รู้สึกสบายใจ ซึ่งความจริงอยากให้สื่อมวลชนไปรับน้ำมนต์ด้วย เพราะปีนี้ทำงานหนักด้วยกัน
วิปรบ.รับปากแจ้งนายกฯมาตอบกระทู้
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีสมาชิกรัฐสภาเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ถาม หลังจากปีที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีไม่เคยเดินทางมาตอบ ว่า เรื่องนี้ได้รับปากกันแล้ว โดยคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล จะนำเสียงของสภาที่มีการตำหนิเรื่องนี้ไปแจ้งต่อนายกรัฐมนตรี
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้ต่างคนต่างทำหน้าที่ ฝ่ายค้านมีหน้าที่ตั้งกระทู้ต่างๆ ทั้งกระทู้ถามสด กระทู้ถามทั่วไป และญัตติ ให้รัฐบาลชี้แจง ทางรัฐบาลก็มีหน้าที่ต้องมาตอบกระทู้ ตอบญัตติของสมาชิก ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะไม่มาแล้วให้สภาฯ ทำอย่างเดียว เพราะต่างคนต่างมาจากการเลือกตั้งด้วยกัน ต้องทำงานเพื่อประชาชน หากรัฐบาลไม่มาชี้แจงจะเป็นความเสียหาย เพราะเป็นรัฐบาลของประชาชน จึงควรเดินทางมาสภา โดยเฉพาะวันที่มีกระทู้ถาม คือวันพฤหัสบดี ส่วนวันพุธก็ควรต้องมา เพราะมีญัตติที่แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้วว่ากระทรวงไหนต้องมาชี้แจง ส่วนกระทู้สดแม้ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า แต่ก็ควรเป็นความพร้อมของรัฐบาล
“วันนอร์”ชี้ถือเป็นโอกาสดีที่ได้ชี้แจง
“ผมเองก็เคยเป็นรัฐบาล ส่วนตัวรู้สึกชอบและดีใจมากหากฝ่ายค้านยื่นกระทู้ถามผม หรือกระทรวงที่ผมรับผิดชอบ จะได้ชี้แจง ตอบข้อสงสัยของฝ่ายค้าน ส่วนชี้แจงแล้วจะเป็นที่พอใจหรือไม่ ก็เป็นเรื่องธรรมดา ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่าจะให้คะแนนใคร จริงๆ แล้ว รัฐมนตรีไม่ต้องกลัวการตอบกระทู้หรือญัตติ เพราะเราตอบไปตามความสามารถที่จะชี้แจงได้” นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าว
หวั่นถามแต่นายกฯ ทำให้เสียเวลา
เมื่อถามว่าปี 2568 จะสามารถประสานให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาตอบกระทู้ได้หรือไม่นั้น นายวันมูหะมัดนอร์ระบุว่า หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ตนเองเคยแจ้งสมาชิกแล้วว่า อย่าถามกระทู้นายกรัฐมนตรีคนเดียว เพราะบางเรื่องไม่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรี ควรถามโดยตรงกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เตรียมตัวมาตอบได้ ซึ่งหากถามนายกรัฐมนตรี กว่าจะถึงนายกรัฐมนตรีก็ต้องอ้อม เพราะต้องมอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นำเรื่องไปให้รัฐมนตรีว่าการ แล้วจึงมอบหมายให้รัฐมนตรีช่วย เป็นการเสียเวลามาก
“ดีไม่ดีรัฐมนตรีก็อาจจะไม่มาตอบ เพราะรู้ว่าตนเองจะถูกตำหนิน้อย เนื่องจากเขาถามนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ถามเจ้ากระทรวง การตั้งกระทู้ถามควรถามเจ้ากระทรวงโดยตรง ยกเว้นเรื่องของนายกรัฐมนตรีก็ถามได้ ไม่ใช่ถามนายกรัฐมนตรีทุกเรื่อง เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่ได้คำตอบ และจะมีการซัดทอดไปเรื่อยๆ มอบหมายรัฐมนตรีว่าการ มอบหมายรัฐมนตรีช่วย แล้วติดภารกิจก็จะไม่ได้มา จึงคิดว่าเรื่องนี้น่าจะแก้ไขให้ดีขึ้นได้” นายวันมูหะมัดนอร์กล่าว
“อนุสรณ์”มั่นใจรบ.ผ่านซักฟอกฉลุย
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล แต่เมื่อยื่นแล้ว ประเด็นที่นำมาอภิปรายจะมีน้ำหนักมากพอหรือไม่ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญ ถ้าเป็นการตัดแปะข้อมูลเก่า หาข้อมูลตามหน้าสื่อ ตามโลกโซเชียลมาผสมปนเป จะใช้ได้หรือไม่ เพราะหลายเรื่องรัฐบาลตอบได้เคลียร์คัทชัดเจนไปหมดแล้ว เช่น ประเด็นเอ็มโอยู 44 รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยก็ชี้แจงครบถ้วนไปหมดตั้งนานแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ฝ่ายค้านจะนำกลับมารีรันฉายซ้ำตลอดไม่น่าจะได้ ประชาชนก็จะเบื่อหน่ายการเมือง
ส่วนประเด็นชั้น 14 ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ออกมาตั้งนานแล้ว เหลือแต่ฝ่ายค้านเท่านั้นที่ขังตัวเองไว้ที่ชั้น 14 แทน จนหาทางออกมาไม่ได้จนกระทั่งปัจจุบัน ทั้งหมดทั้งมวล ประชาชนรู้ทางการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านหมดแล้ว เพราะแทบทุกครั้งการปล่อยทีเซอร์ใช้หนังตัวอย่างกับอภิปรายจริงไม่ตรงปกกลายเป็นคนละเรื่องกันทุกครั้ง
ไม่มีอะไรน่าห่วง-อยู่ครบเทอม
“จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตรไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูน หรือการเฉลิมฉลองวันวาเลนไทน์แต่อย่างใดเมื่อเข้ามาทำงานเป็นรัฐบาลก็ทำงานอย่างเต็มที่เพราะรู้ดีว่าปัญหาของประเทศชาติและประชาชนรอประชาชนรู้ทันว่าสิ่งที่อวดอ้างว่าเป็นอาวุธหนักนั้น เอาเข้าจริงอาจเป็นแค่ปืนลม ที่เป็นลมที่เบามาก ถ้าหนักด้วยข้อมูลหลักฐานเพื่อตรวจสอบรัฐบาล ประชาชนได้ประโยชน์คงไม่มีใครมีปัญหาอะไร รัฐบาลมั่นใจว่าพร้อมชี้แจงได้ทุกประเด็น และมั่นใจว่าสถานการณ์การเมืองตั้งแต่ปี 2568 ถึงปี 2570 ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ตระหนักและเข้าใจว่าปัญหาของประเทศชาติและประชาชนรอไม่ได้ และเชื่อว่าสถานการณ์การเมือง ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงรัฐบาลอยู่ครบเทอมแน่นอน” นายอนุสรณ์ กล่าว
“นพดล”ชี้เรื่องการเมืองไม่น่ากังวล
นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในปี 2568 ว่า สำหรับการเมืองในสภาครึ่งปีแรก ก็คงจะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน รัฐบาลนายกฯแพทองธารทำงานมาไม่กี่เดือน แต่ก็ได้ผลักดันงานสำเร็จหลายเรื่อง น่าจะสามารถชี้แจงการอภิปรายได้ ส่วนการเมืองนอกสภา ถ้าเคลื่อนไหวในกรอบรัฐธรรมนูญก็ไม่น่ากังวล เพราะเป็นสิทธิ์
ส่วนการคัดค้าน MOU 44 ของแกนนำกลุ่มพันธมิตรเดิมนั้น รัฐบาลรับฟังความเห็นต่าง คุยกันด้วยเหตุผล โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากกองทัพและกระทรวงการต่างประเทศให้ข้อมูล แต่ตนไม่ค่อยสบายใจกับท่าทีของแกนนำผู้คัดค้าน ขอถามว่าการพสต์เฟซบุ๊ก ตั้งคำถามในเชิงด้อยค่ากระทรวงการต่างประเทศว่าเพลี่ยงพล้ำและเสียท่าให้เขมรมาโดยตลอด และกล่าวว่า กัมพูชาชนะสติปัญญาข้าราชการและนักการเมืองไทยมาอย่างต่อเนื่อง เป็นทัศนคติดูแคลนต่อคนที่ถูกพาดพิงหรือไม่ ซึ่งข้าราชการคงไม่เสียเวลามาตอบโต้ทางการเมือง และโดยมารยาททางการทูต เขาคงไม่ป่าวประกาศว่าตนชนะการเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างไร เพราะการทูตและการต่างประเทศนั้นใช้ความรู้ สติปัญญาและมารยาท แต่ที่พวกเขาขาดคือการยกตนข่มท่าน
‘อนุทิน’ยันไม่มีสัญญาณปรับ ครม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ชี้มูลความผิด นายณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สส.สงขลา พรรคภูมิใจไทย ผิดจริยธรรมร้ายแรง และโทษอาญา กรณีรับค่ารักษาพยาบาลจำนวน 1 ล้านบาทแลกกับการได้รับแต่งตั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตั วว่า จากที่ตนเช็กข่าว และสอบถามคนที่เกี่ยวข้อง และ นายณัฏฐ์ชนน ก็ทราบว่าเขาทำเรื่องทบทวนอุทธรณ์เข้าไป และยังไม่ได้มีการชี้ขาด ซึ่งตนก็ไม่ก้าวล่วงอยู่แล้ว เราทำให้เขามาเป็น สส.ได้ แต่พฤติกรรมในอดีตไม่รู้ว่าใครไปทำอะไรไว้ ซึ่งพฤติกรรมเขาบอกว่าไม่สบายและรักษาตัว ซึ่งไม่ใช่ตนจึงไม่ทราบ ยืนยันว่าผิดก็ว่าไปตามผิด ซึ่งพรรคภูมิใจไทยอดีตเลขาธิการพรรค มีคำวิจฉัยออกมาก็น้อมรับและไม่มีปัญหาอะไร และยังเหลือสส.อีก 69 คน และ นายณัฏฐ์ชนน ไม่ต้องมารายงานมาที่ตน หากใครทำอะไรผิดก็ไปรับในสิ่งที่กระทำ หากมีเลือกตั้งใหม่ตนก็ไปหาคนใหม่มาลงสมัคร
เมื่อถามว่ายังมี สส.ในพื้นที่นครศรีธรรมราช และ บึงกาฬ ที่กำลังการตัดสินโดยศาลฎีกา ดังนั้นหากถูกตัดสินในทางลบจำนวน สส.ลดลงจะกระทบกับโควต้าครม.ของพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หากถูกตัดสินว่าผิด ก็มีการเลือกตั้งใหม่ ก็ต้องรอผล จากนั้นนายอนุทิน ถามกลับว่าลดไปกี่คนและถึงครึ่งพรรคหรือไม่
เมื่อถามว่าขณะนี้มีสัญญาณการปรับ ครม.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ทุกเป็นไปตามปกติ และยังคงทำงานปกติ
“จตุพร”ปูด“พีระพันธุ์”ส่อพ้น ครม.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน จากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มีแววจะถูกปรับออกจาก ครม. เพราะเป็นรัฐมนตรีต้องการล้างบางทุนผูกขาดน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้าที่มีสัมพันธ์แน่นหนากับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย แม้ขณะนี้นายพีระพันธุ์ มีภูมิต้านทานจากสังคม เพราะความนิยมเริ่มขยับเพิ่ม แต่การจัดการต้องเร็วมากขึ้นตามด้วย ส่วนพรรคภูมิใจไทย เป็นพรรคมีประสบการณ์และรู้เท่าทันผู้นำพรรคเพื่อไทย จึงเป็นเกราะกำบังให้อยู่ร่วมรัฐบาลไปได้เรื่อยๆ
“คงมีแต่ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะทำให้พีระพันธุ์ รอดได้ เพราะ รทสช.เป็นพรรคอกแตกเหมือนพลังประชารัฐ (พปชร.) จึงจัดการได้ง่าย และเชื่อว่าปฏิบัติการเชือดครั้งนี้คงเกิดขึ้นอีกไม่นาน โดยพรรคประชาชนจะถูกดึงมาเสริมร่วมรัฐบาล” นายจตุพร ระบุ
“ภูมิธรรม”มีโอกาสโดนปลดระวาง
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.กลาโหม มีโอกาสถูกปลดระวางเช่นกัน ซึ่งข่าววงในระบุจะมีทหารยศไม่สูงมาเสียบแทน ดังนั้น การเมืองจึงเป็นความอำมหิต ตัดขาดพี่-น้อง ไม่เหลือพวกพ้อง และสิ้นความทรงจำในอดีต อย่างไรก็ตาม สูตรการปรับ ครม.ขณะนี้ยังไม่นิ่ง แต่ข่าวปล่อยสะท้อนถึงความง่อนแง่นของพรรครัฐบาล
“จุรินทร์”ขอดูร่าง รธน.เป็นรายฉบับ
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ประธานรัฐสภา จะบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 14 - 15 ม.ค.นี้ว่า เท่าที่ตรวจสอบล่าสุดมีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่การพิจารณารวม 17 ฉบับ ซึ่งเป็นร่างของพรรคการเมืองฝ่ายค้านทั้งหมด ส่วนการลงมติต้องถือว่าเสียงส่วนใหญ่ของ สส. ก็เป็นเสียงของฝ่ายรัฐบาล ซึ่งในช่วงของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ได้กำหนดเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้เป็นนโยบายเร่งด่วน แต่พอมาถึงรัฐบาลชุดนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ระบุไว้เป็นนโยบายเร่งด่วนแล้ว ซึ่งทางวิปรัฐบาลก็คงจะต้องไปพิจารณากันอีกต่อไปว่าจะมีความเห็นไปในทางใด
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับความเห็นตนนั้นก็จะพิจารณาเป็นรายฉบับ ซึ่งก็จะต้องดูหลายส่วนประกอบกัน เช่น ประการแรกเรื่องความชอบด้วยรัฐธรรมนูญว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาได้เลยหรือไม่ หากเข้าข่ายต้องมีการทำประชามติก่อนตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ ก็จะต้องมีคำถามว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาได้เลยหรือไม่หากยังไม่มีการทำประชามติ หรือประการที่สองก็จะต้องดูว่ามีการแตะหมวด 1 หมวด 2 หรือไม่ หากแตะ ก็ไม่เห็นชอบ ประการที่สามก็ต้องดูที่เนื้อหาว่า มีความเหมาะสมและนำไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นหรือไม่ ประการที่สี่ แก้แล้วทำให้มาตรฐานเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตและมาตรฐาน จริยธรรมหรือมาตรฐานทางการเมืองของประเทศลดต่ำลงหรือไม่ ถ้าต่ำลงก็ไม่ควรเอาด้วย เป็นต้น
ชี้ สส.ควรเห็นชอบตามมติพรรค
“คำถามที่ว่าจะติดด่านวุฒิสภาหรือไม่นั้น ผมก็เชื่อว่าวุฒิสมาชิกจะลงมติอย่างไรก็ต้องมีเหตุผลอยู่แล้ว สำหรับเสียงของ สส.หรือพรรคการเมืองนั้น ผมเห็นว่าควรจะเป็นสิทธิ์การพิจารณาของแต่ละพรรคการเมือง เพราะแต่ละพรรคอาจมีจุดยืนเรื่องรัฐธรรมนูญที่มีความแตกต่างกัน” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนที่ว่าจะมีนักร้องเกิดขึ้นหรือไม่ ตนไม่อาจคาดเดาล่วงหน้าได้ แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 256(9) ก็เปิดโอกาสให้ สส.หรือ สว. หรือทั้ง สส. สว. รวมกันจำนวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 สามารถเข้าชื่อกันเสนอต่อประธานสภา ที่ตนเป็นสมาชิกเพื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วย รัฐธรรมนูญของร่างแก้ไขที่ผ่านรัฐสภาแล้ว ก่อนนำขึ้นทูลเกล้าฯได้ ส่วนร่างของพรรคประชาชนแต่ละร่างนั้นก็ยังไม่ขอวิจารณ์แต่ก็จะพิจารณาเป็นร่างๆ ไปในการตัดสินใจลงมติในวันที่ 14-15 ม.ค.นี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี