‘ทักษิณ’ปราศรัยแรงอัดพวกด่ารบ.

สบถลั่น‘ไอ้ควาย’

อยากโยนเชือกให้ผูกคอตาย

ลั่นชนะแน่ศึกอบจ.เชียงราย

มั่นใจไปจว.ไหนคนหนุนพท.

ยืนกรานยังไม่มีการปรับครม.

“ทักษิณ” ลุยเชียงราย ขึ้นปราศรัย3 เวทีรวด ช่วย “สลักจฤฎดิ์” สู้ศึกนายกอบจ.เชียงราย มั่นใจชนะแน่ไม่หนักใจ เชื่อปชช.พร้อมหนุน ชี้เลือกสลักจฤฎดิ์เพื่อทำงานเชื่อมกับรัฐบาล ปราศรัยเดือดกลางเวทีสมเพช 4-5 ตัวด่ารบ.เช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ สงสัยอยากได้เชือกไปแขวนคอตาย ฉะยับคนรุ่นเก่าพวกควายตามมาจ้องด่าลูกเดียว ติดตลก ยอมรับเสียแชมป์นายกฯไทยรวยที่สุด ให้‘แพทองธาร’ สวนทางฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวให้ลูกเลี้ยง ยันคุยกับ “พีระพันธุ์”รู้เรื่อง ยังไม่มีเหตุให้ปรับครม. นายกฯอิ๊งค์บอกว่าทำงานกับครม.ชุดนี้สบาย ไร้ปัญหา ‘เพื่อไทย’เตรียมขอมติสส.พรรคคอนเฟิร์ม ชงร่างแก้ไขรธน.มุ่งสาระสำคัญ ไม่แตะ‘หมวด1-หมวด2-พระราชอำนาจ”ประกบร่างของฝ่ายค้าน ห่วงเกิดความขัดแย้งรอบใหม่ ด้านนิด้าโพล ฟันธงปี 68 การเมืองวุ่นวาย เศรษฐกิจย่ำแย่-ประชาชนบักโกรก

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 ธันวาคม ที่จ.เชียงราย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางถึงสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และเดินทางโดยรถตู้เล็กซัสสีดำ ทะเบียน ขย 111 กรุงเทพมหานคร ไปขึ้นเวทีปราศรัยจุดแรกที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม อำเภอเทิง ช่วงบ่ายที่โรงเรียนห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ และช่วงเย็น นายทักษิณจะขึ้นปราศรัยที่โรงเรียนแม่จันวิทยาคม ทันทีที่มาถึงนายทักษิณได้เข้าไปทักทายกับกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ที่มารอต้อนรับ โดยคนเสื้อแดงได้มอบพวงมาลัย ขอถ่ายภาพร่วมกับนายทักษิณแน่นสนามบินแม่ฟ้าหลวง

แม้วลั่นคว้าชัยอบจ.เชียงรายชัวร์

นายทักษิณให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย ในฐานะเป็นผู้ช่วยหาเสียงตั้งเป้าอย่างไรว่า ไม่หนักใจ เท่าที่ดูน่าจะชนะ ส่วนที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย ปราศรัยว่าเวทีไหนที่นายทักษิณมาชนะทุกจังหวัดนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ตนมองว่าประชาชนยังคงให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดบัญชีทรัพย์สิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นนายกฯที่รวยที่สุดของไทย นายทักษิณกล่าวติดตลกว่า เสียแชมป์ไปแล้ว ก็ไม่เป็นอะไร อย่างมากอีกหน่อยก็ให้ลูกเลี้ยง มีคนเขาบอกว่ารัฐบาลพ่อเลี้ยง แต่เราดีหน่อยบอกว่าลูกเลี้ยงเรา

ผู้สื่อข่าวถามถึงหลายคนมองว่าน.ส.แพทองธาร รวยมาก มีทรัพย์สินเยอะ นายทักษิณ กล่าวว่า ตอนที่ตนอยู่ต่างประเทศ ไม่รู้ทำอะไร เวลาเจอของสวยๆงามๆ ก็ซื้อให้ลูก ก็ช้อปปิ้ง

ปีนี้เห็นศก.ฟื้นแน่นายกฯลุยเอาจริง

นายทักษิณยังกล่าวถึงเศรษฐกิจปีนี้ที่รัฐบาลต้องทำงานอย่างหนักว่า เรื่องที่คือเราต้องมองโครงสร้างของปัญหาเศรษฐกิจ ต้องเร่งแก้ไขก่อน เช่น เม็ดเงินที่ไม่ได้อยู่ในระบบ ทำให้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจไม่ได้ ขณะเดียวกันต้องพัฒนาคนในระบบเศรษฐกิจว่าจะส่งเสริมความรู้ความสามารถที่มีอยู่อย่างไร อย่างเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ คนไทยมีศักยภาพอยู่ แต่ต้องฝึกฝนให้ดี รวมถึงอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวก็ต้องฝึกคนให้รองรับ เมื่อเม็ดเงินมีคนรองรับ ระบบไปได้ก็ต้องทำพร้อมกัน ยอมรับว่าอาจต้องมีเรื่องของการใช้จ่ายภาครัฐเมกะโปรเจ็กต์บ้าง ทั้งนี้ การจะฟื้นเศรษฐกิจ ถ้าต่างจังหวัดไม่ฟื้น กรุงเทพฯฟื้นยาก มันต้องฟื้นไปด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะรับเป็นที่ปรึกษาให้นายกฯเรื่องเศรษฐกิจหรือไม่ เพราะดูเหมือนการฟื้นเศรษฐกิจจะยาก นายทักษิณกล่าวว่า ปีนี้จะเห็นเยอะ นายกฯกำลังเรียกประชุมหลายฝ่าย เพื่อตกผลึกวิธีการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ต้องยอมรับว่ากลไกของรัฐปัจจุบันเปลี่ยนไปจากเดิม อุ้ยอ้ายขึ้น และอำนาจก็ไปอยู่กับราชการ ต้องอาศัยความร่วมมือ

ไร้เหตุปรับครม.-อิ๊งค์บอกยังสบาย

นายทักษิณกล่าวถึงแนวทางทุบค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วยว่า ตนไปดูมาแล้ว มันสามารถรีดไขมันจากค่าไฟได้อยู่จำนวนหนึ่ง น่าจะเป็นไปได้และดูว่าน่าจะลงได้อีก ซึ่งนายกฯก็ดูแล้ว และจะเรียกทุกคนประชุมให้ทุกคนเต็มใจยอมรับการรีดไขมันครั้งนี้ ทุกฝ่ายรวมถึงภาคเอกชนต้องช่วยกัน วันนี้ถ้าชาวบ้านจนเอกชนไม่มีรวย ถ้าอยากรวยต้องให้ชาวบ้านหายจน ส่วนตัวเลข 3.70 ดูเหมือนหนัก แต่เป็นไปได้

นายทักษิณยังยอมรับว่าได้คุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน รวมถึงการไฟฟ้าฯให้หาทางช่วยกัน ส่วนกระแสข่าวปรับนายพีระพันธุ์ออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)รอบนี้ ไม่มี คุยกันรู้เรื่อง ไม่มีอะไร นายพีระพันธุ์เป็นคนตั้งใจ รู้จักกันมานาน คุ้นเคยกัน รู้เรื่องทุกเรื่อง สำหรับการปรับครม.ช่วงนี้นั้น นายกฯไม่ได้เปรยอะไร คุยกัน เขาบอกว่าพ่อ อิ๊งค์ยังสบายๆ ถ้าทำงานกับ ครม.ชุดนี้ ไม่มีปัญหา ยังไปกันได้ดี ยังไม่มีเหตุปัจจัย

ชวนเลือกสลักจฤฏดิ์ทำงานเชื่อมรบ.

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่สนามโรงเรียนบ้านปล้องวิทยาคม ตำบลปล้อง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย มีประชาชนทั่วไปและที่เป็นฐานคะแนนของพรรคเพื่อไทย ตลอดจนกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงกว่า 3,000 คน เดินทางมาร่วมรับฟังการปราศรัยของพรรคเพื่อไทย นำโดยนายทักษิณ ที่ขึ้นปราศรัยช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ภรรยาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้ลงสมัครชิงนายก อบจ.เชียงราย เบอร์ 2 ในนามพรรคเพื่อไทย โดยการปราศรัยได้มีผู้สนับสนุนหลายคน เช่น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎ (ส.ส.) พรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิก อบจ.เชียงราย ฯลฯ มีเนื้อหาว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคนมีความรู้ความสามารถ สืบทอดมาถึงน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ถ้าเลือกตั้งท้องถิ่นจะเชื่อมกับรัฐบาลได้

ขณะที่นายทักษิณขึ้นเวทีปราศรัยเป็นภาษาเหนือประมาณ 40 นาที เนื้อหาโดยสรุปว่า คิดถึงชาวเชียงราย เพราะห่างหายไปกว่า 17 ปี และมีนายยงยุทธเป็นน้องรักของตนอยู่แล้ว เคยร่วมกันสร้างพรรค เมื่อครั้นตนเป็นนายกฯก็ให้เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอยู่ด้วย ต่อมาได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น เมื่อได้ส่งนางสลักจฤฎดิ์ลงสมัครจึงต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่ อีกประการคือลูกสาวตนเป็นนายกรัฐมนตรี ขณะที่ผู้สมัครก็ลงเลือกตั้งในนามพรรคเพื่อไทยด้วย เดิมตนไม่ค่อยเท่าไหร่กับการเมืองท้องถิ่น เพราะเดิมเคยเป็นรัฐบาลจากพรรคการเมืองใหญ่ แต่เมื่อได้กลับมาก็มุ่งจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างอาชีพและรายได้ให้ประชาชนจึงอยากให้ประชาชนเลือกนางสลักจฤฎดิ์เข้าไปทำงานประสานกับนายกฯ โดยในส่วนรัฐบาลจะมีการจ่ายเงินให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปทั่วประเทศประมาณ 3 ล้านคน คนละ 10,000 บาท ในวันที่ 29 มกราคม ใช้งบประมาณ 30,000 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ จากนั้นยังอยู่ระหว่างปรับโครงสร้างการผ่อนบ้านและรถอยู่ด้วย

สมเพช15ตัวด่ารบ.เช้า-สาย-บ่าย-ค่ำ

อดีตนายกฯกล่าวต่อว่า ตนไม่อยู่บ้านนานถึง17-18ปี เมื่อกลับมาพบว่าระบบที่เคยทำไว้เสียหายหมด จึงกลับมาคิดว่าจะทำอย่างไร และเห็นว่าการฟื้นเศรษฐกิจต่างจังหวัดสำคัญ ถ้าชาวบ้านมีกินมีใช้เศรษฐกิจประเทศก็จะเดินหน้า เพราะทุกวันนี้ประชาชนไม่มีเงินใช้ ขาดสภาพคล่อง ร้านค้าปลีกต่างจังหวัดก็แย่เพราะมีแต่ห้างสรรพสินค้า หรือร้านใหญ่ที่มาจากกรุงเทพฯ เงินก็ไหลเข้าสู่ส่วนกลางหมด สินค้าเกษตรขายไมได้ ฯลฯ ดังนั้น จึงตั้งใจแก้ปัญหาโดยพัฒนาในสิ่งที่ชาวบ้านเก่งอยู่แล้ว เช่น งานหัตถกรรม ดนตรี เกษตรกรรม

“รัฐบาลจะนำมหาวิทยาลัยเชื่อมกับ อบจ.ในการสร้างงาน สร้างรายได้ จะเจียระไนคนไทยที่เก่งๆ ทั่วประเทศ ทั้งที่มีบุคลิกเป็นนางแบบ ทำอาหารเก่ง เป็นนักศิลปะ มีฝีมือหัตถกรรม ฯลฯ สิ่งนี้เกิดขึ้นในปีนี้ ปี 2568 นี้ กลไกสำคัญอยู่ที่ อบจ. จึงขอให้เลือกนางสลักจฤฎดิ์เพื่อให้ค้นหาเพชรเม็ดงามในเชียงรายต่อไป” อดีตนายกฯระบุ และว่า ยามว่างได้เข้าไปดูสื่อสาธารณะ หรือโซเซียลมีเดีย ได้เห็นบางคนชีวิตน่าจะเหลือน้อยลงไปทุกที อาจจะแขวนคอตายไปเสียก่อนได้ เพราะมองโลกแย่หมด อีกไม่กี่วันตนจะเอาเชือกไปให้มัน เพราะเช้า สาย บ่าย ค่ำ ด่ารัฐบาลหมด มีอยู่แค่ 15 ตัว พวกนี้สงสัยอยากได้เชือก อย่างไรก็ตาม เราจะทำในสิ่งสร้างสรรค์มากกว่า โดยใช้โซเชียลอย่าง TikTok มาขายของให้ชาวบ้าน โซเซียลจึงควรใช้ในทางสร้างสรรค์ แต่มีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่เข้ามาแล้วก็ด่าอย่างเดียว จึงรู้สึกสมเพชเพราะลักษณะพวกนี้เหมือน “แตงไม่ขึ้นซ้าง” (แตงไม่เลื้อยขึ้นนั่งร้าน)

ฉะยับคนรุ่นเก่าพวกควายจ้องตามด่า

นายทักษิณกล่าวต่อว่า เมื่อครั้นตนยังไม่เล่นการเมืองก็สบายดีอยู่ กระทั่งปี 2536 มีเงินถึง 6 หมื่นล้านแล้ว พอเล่นการเมืองหมดไปเรื่อยๆ พวกควายยังมาด่าตนอีก ตนรวยมาตั้งแต่ปี 2535-36 แล้ว ตนคิดแบบคนสมัยใหม่ แต่คนรุ่นเก่ากลับด่าตนสารพัด มีอยู่คนหนึ่งบอกว่าตนสร้างความวุ่นวายเพราะแค้นตนมาตั้งแต่ปี 2544 ที่บ้านของเขาหน่วยเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาเพียงแค่ 47 คน ประชาชนยังไม่เลือกเลย ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยโดยการนำของนายกฯอุ๊งอิ๊งจะแก้ปัญหาประเทศได้ ตั้งเป้าว่าปี 2568 ทุกฝ่ายจะทำงานให้หนักและเศรษฐกิจดีขึ้น และปี 2569 เปรียบเหมือนเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต่อไป จากนั้นขอเวลาอีก 2 ปีหนี้ประเทศจะลดลง

ย้ำแก้ยาเสพติด-แก๊งคอลฯ-พนันออนไลน์

นายทักษิณยังกล่าวถึงเรื่องยาเสพติดว่า เกิดจากในประเทศเมียนมามีการสู้รบกัน บางกลุ่มจึงขายยาเสพติดเพื่อนำเงินไปซื้ออาวุธและมีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่แล้ว ดังนั้น ในปี 2568 จะจัดการให้เรียบ ส่วนเรื่องการพนันออนไลน์ มีคนเข้าไปเล่นมากมาย บางครั้งหลายล้านคน ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคนเหล่านี้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือไม่ ดังนั้น จึงถึงเวลาเอาสิ่งที่ควบคุมไม่ได้ขึ้นมาบนดิน เพราะถ้าถูกกฎหมายจะเก็บภาษีได้ โกงไม่ได้ อายุต่ำกว่า 20 ปีเล่นไม่ได้ คนที่ติดงอมแงมก็ส่งให้หมอบำบัดได้ นอกจากนี้ ปัญหายาเสพติด คอลเซ็นเตอร์ การผูกขาด ต้องเอาให้เกลี้ยงหมด นอกจากนี้ ยังพูดถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชนมีโฉนดที่ดินเพื่อให้ประชาชนมีอนาคตที่ดี

เอาจริงลดค่าไฟช่วยชาวบ้าน

นายกทักษิณยังพูดถึงเรื่องการใช้พลังงานไฟฟ้าว่า ในปี 2568 จะต้องเอาตัวเลขการใช้ไฟให้เหลือเลข 3 (บาท) ดูแล้วน่าจะให้ถึง 3.70 น่าจะได้ ขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กผฟ.) เป็นองค์กรผลิตไฟฟ้าเพื่อขายเอากำไรส่วนหนึ่ง และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และเอกชน ก็จะนำมาจ่ายต่อ สุดท้ายประชาชนก็ตายกันพอดี จึงต้องแก้ปัญหาและยืนยันให้ค่าไฟฟ้าลดลง เมื่อนั้นสินค้าอื่นๆก็จะลดลงตาม เพราะธุรกิจย่อมหวังผลกำไร แต่ไม่ใช่ได้กำไรแล้วอยู่อย่างสุขสบาย สุดท้ายขอให้ประชาชนเลือกนางสลักจฤฎดิ์เป็นนายก อบจ.เชียงราย และไปบอกคนอื่นว่าตนขอให้ช่วยเลือกด้วย

‘ณัฐวุฒิ’อวยแม้วไปจว.ไหนชนะทุกที่

ที่โรงเรียนปล้องวิทยา นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 ว่า นายทักษิณเป็นเจ้าของสถิติที่ไปจังหวัดไหนก็ชนะทุกที่ ไม่ว่าจะจ.ปทุมธานี อุดรธานี อุบลราชธานีก็ชนะมาหมด และมาที่เชียงราย เวทีไหนก็เวทีนั้นไม่เคยแพ้ และเวทีนี้นายทักษิณมาเอง และนายกฯ ที่มีผลงานและประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทย และเป็นคนเหนือ เป็นคนที่พูดภาษาเดียวกันกับพี่น้อง ก่อนที่นายณัฐวุฒิจะเล่นมุกว่า “ยอดรัก สลักใจ นายกเชียงรายต้อง ‘สลักจฤฎดิ์’”

ชี้นายกฯมีพ่อเป็นอดีตนายกฯปชช.ได้กำไร

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า หลายคนถามตนขึ้นปีใหม่นายกฯจะไปรอดหรือไม่ ตนเลยตอบกลับไปว่า รัฐบาลอยู่ครบเทอมอีก 2 ปี จนถึงเลือกตั้ง แล้วก็กลับมาใหม่ หลายคนบอกว่านายกฯต้องมีพ่อคอยสอนมีพ่อคอยแนะ ก็เขาเป็นพ่อลูกกัน แล้วพ่อก็เคยเป็นนายกฯมาก่อน ทำงานมีประสบการณ์มีผลงานมาก่อน จะแนะนำให้คำปรึกษาลูกมันแปลกตรงไหน หรือพวกคุณต้องการนายกฯ ที่พ่อแม่ไม่สั่งสอน ขนาดนายกฯมาเลเซียยังเชิญนายทักษิณไปเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน นับภาษาอะไรกับนายกฯแพทองธาร ที่เป็นลูกสาวจะขอคำชี้นำไม่ได้ ตนมองว่าเป็นกำไร เพราะนายกฯแพทองธารกำลังสดใหม่ บวกกับนายทักษิณก็เป็นนายกฯระดับโลก และการลงไปเจรจากับนายกฯมาเลเซียในเรือกลางทะเล ซึ่งถือว่าเป็นการลงเรือลำเดียวกัน อาเซียนไปไหนไปด้วยกัน ทุกนโยบายที่รัฐบาลประกาศกำลังจะเกิดขึ้นในปีนี้ และพรรคเพื่อไทย ทำให้คนรวยทุกคนไม่ได้ แต่สร้างโอกาสให้ทุกคนได้ปลดหนี้ และต้นปีรัฐบาลจะประกาศการปรับโครงสร้างหนี้ให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นในเวลา 13.00-15.00 น. นายทักษิณจะไปเปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรัยนห้วยซ้อวิทยาคม อ.เชียงของ และในเวลา 15.00-17.00 น. จะไปเปิดเวทีปราศรัยที่โรงเรียนแท่จันวิทยาคม อ.แม่จัน เป็นการเสร็จสิ้นกิจกรรมหาเสียงให้กับนางสลักจฤฎดิ์ และผู้สมัครสมาชิก อบจ.เชียงราย และเดินทางกลับกรุงเทพฯในวันนี้ทันที

แก้รธน.ไม่กระทบคนส่วนใหญ่

วันเดียวกัน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในที่ประชุมรัฐสภาช่วงกลางเดือนม.ค.นี้ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย เตรียมขอมติจากที่ประชุมสส.ของพรรควันที่ 7ม.ค.นี้ก่อนว่าจะเห็นชอบกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคจัดทำไว้เสนอประกบกับร่างของพรรคประชาชนหรือไม่ ทั้งนี้ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรรคเพื่อไทยนั้น ยึดสาระสำคัญคือจะไม่แตะหมวด 1 บททั่วไป และหมวด2 พระมหากษัตริย์ รวมถึงมาตราที่เกี่ยวข้องกับพระราชอำนาจทุกมาตรา

อีกทั้งต้องไม่แก้ไขในประเด็นที่อาจจะสร้างความแตกแยก ขัดแย้งในสังคมรวมถึงต้องคำนึงถึงประโยชน์ประชาชนและทำให้ประเทศเดินหน้าผาสุข

“ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างกับพรรคประชาชน ซึ่งเรายึดหลักการคือไม่กระทบกับคนส่วนใหญ่ รวมถึงไม่กระทบกับจิตใจของคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นรายละเอียดแบบสุดโต่งไม่ต้องการให้เกิดขึ้น หากคิดว่าจะเอาแบบนั้น เชื่อว่าจะมีความขัดแย้ง สังคมแบ่งเป็นสองฝ่าย จะมีการชุมนุม ดังนั้นในการทำตามสัญญาประชามคมเรื่องแก้รัฐธรรมนูญต้องทำให้เป็นประโยชน์กับประชาชนไม่ใช่ยึดแต่เรื่องการเมืองเหนือสิ่งอื่นหรือยึดแต่ผลแพ้ และชนะ” นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญทางพรรคเพื่อไทยประเมินว่าต้องมีผู้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องดีเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ชี้ขาดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นเดินหน้าได้ เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของพรรคประชาชนที่ต้องการให้นำร่างแก้ไขมาตรา256 และเพิ่มหมวดสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาพิจารณาในวันที่ 14 -15 ม.ค. นี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ยังไม่สามารถสรุปได้แบบนั้น เพราะต้องหารือกับทุกฝ่าย ซึ่งมีพรรคร่วมรัฐบาล สว.ด้วย เพราะการทำงานร่วมกันต้องให้เกียรติกัน และหารือกันอย่างรอบคอบเพื่อให้เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องพึ่ง สว.ด้วย ดังนั้นจะฟันธงให้เป็นแบบที่ต้องการไม่ได้ ต้องหารือร่วมกัน

ไม่ริดรอนสิทธิของสว.

เมื่อถามว่าขณะนี้มีเสียงสว.สะท้อนว่าหากแก้ไขเพื่อประโยชน์ฝ่ายการเมืองจะไม่เอาด้วย เกรงว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะไปไม่รอดหรือไม่ ประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ต้องหารือกัน ในประเด็นที่เสนอแก้ไขต่างๆ ต้องให้พรรคร่วมรัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้องพิจารณาด้วย ซึ่งของพรรคเพื่อไทยนั้นจะเสนอรายละเอียดให้พรรคร่วมพิจารณาหลังจากที่สส.มีการลงมติแล้วในวันที่ 7 ม.ค. นี้ เบื้องต้นนั้นเนื้อหาจะไม่ริดรอนสิทธิของ สว.การจะเปลี่ยนแปลงต้องมีเวลาเริ่มต้นและปรับปรุงหลายปี การจะหักด้ามพร้าด้วยเข่านั้นไม่สำเร็จ จะหักทันทีทำไม่ได้ในประเทศนี้ ดังนั้นการจะไปสู่ยุคเปลี่ยนผ่านต้องมีระยะเวลา ทั้งนี้ต้องให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสามัคคี ไม่ใช่นำเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาสร้างความขัดแย้งให้บ้านเมือง

‘วันชัย’=2จุดตายแก้รธน.-ศก.

นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว.โพสต์ข้อความผ่านยเฟซบุ๊ก ระบุว่า“ปีนี้..ชี้ชะตาเพื่อไทย”ปีใหม่นี้เห็นมีอยู่ 2เรื่อง ที่รัฐบาลและฝ่ายค้านกำลังทำ คือ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญและเรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน เฉพาะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญดูแล้วทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลยังเห็นไม่ตรงกัน ฝ่ายค้านต้องการแก้ทั้งหมดทั้งฉบับ เห็นว่าเป็นซากเดนของเผด็จการไม่ควรที่จะให้มีอยู่อีกต่อไป เอาของใหม่ที่มาจากประชาชนจะดีกว่า แต่ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่าไม่ควรที่จะไปรื้อหมดทั้งฉบับ อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง และในที่สุดก็ไม่อาจจะแก้ได้ ควรเดินสายกลางอะไรทำได้ก็ทำ อะไรที่ทำแล้วจะก่อให้เกิดความขัดแย้งก็อย่าไปทำ “ดูแล้วทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลอาจจะมีแนวทางไปคนละทิศคนละมุม ไม่แน่ใจว่าหมดวาระของสภาชุดนี้แล้วจะได้เริ่มแก้กันหรือยัง”นายวันชัย ระบุ

ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญ

นายวันชัย ระบุอีกว่า เรื่องแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ทั้งรัฐบาลและฝ่ายค้านน่าจะเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องเร่งเครื่องอย่างเต็มที่เต็มกำลัง เป็นรัฐบาลมาเกือบ 2 ปี มีแต่นโยบายแผนงานและราคาคุย เนื้องานที่ออกมาแล้วทำให้ลืมตาอ้าปากได้จริงๆ ยังไม่เห็น ทั้งฝ่ายค้านและประชาชนก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยอยู่

“ดังนั้นภายใน3เดือน6เดือนนี้ ถ้ายังไม่มีอะไร ในสภาก็คงระอุ นอกสภาก็คงจะระเบิด พรรคเพื่อไทยจะชนะพรรคประชาชนได้หรือไม่ ก็วัดกันที่ผลงานในเรื่องนี้นี่แหละ เพราะพี่น้องประชาชนเขาให้โอกาสรัฐบาลมานานแล้ว ต่อแต่นี้เป็นการชี้ชะตาและเป็นความเป็นความตายของรัฐบาลและฝ่ายค้านว่าใครจะอยู่ยงคงกระพันกว่ากัน เรื่องแก้รัฐธรรมนูญจะสาละวันรำวงไปอย่างไรก็ได้ แต่เรื่องปากเรื่องท้อง เรื่องการกินดีอยู่ดี การทำมาค้าขาย เงินทองคล่องมือเป็นเรื่องสำคัญของชีวิตประชาชน พรรคเพื่อไทยจะอยู่หรือไปก็ในปีนี้แหละ“นายวันชัย ระบุ

ถามปชช.ก่อนแก้ไขรัฐธรรมนูญ

นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความพร้อมเอกสารคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และร่างแก้ไข รธน.พรรคประชาชน เลือกตั้ง สสร.200คน จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยระบุว่า อ่านคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ดี ต้องทำประชามติถามประชาชนก่อนว่าเห็นด้วยหรือไม่ ก่อนคิดล้มรัฐธรรมนูญแล้วร่างใหม่ #ระวังถูกสอยร่วงยกสภา ทั้งนี้ ในเอกสารข่าวศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญ ฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูฉบับใหม่เสร็จแล้ว ต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ขณะเดียวกันยังมีการขีดเส้นใจความสำคัญ ในหนังสือคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยระบุว่า การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจึงต้องอยู่ในเงื่อนไขที่มี ความผูกพันกับรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ยึดโยงกับหลักการพื้นฐาน และให้เหมาะสมและสอดคล้องกับมติมหาชน รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ หมวด ๑๕ เพียงบัญญัติให้สามารถแก้ไขเพิ่มเดิมรัฐธรรมนูญได้เท่านั้น ไม่มีบทญัญญัติให้จัดทำขึ้นใหม่ทั้งฉบับ ๆ

ย้ำการออกเสียงประชามติ

การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยวิธีการร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ให้มีหมวด ๑๕/๑ ย่อมมีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ อันเป็นการแก้ไขหลักการสำคัญที่มีผู้อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญดั้งเดิมต้องการปกป้องคุ้มครองไว้ หากรัฐสภาต้องการจัดทำรัฐธธรรมนูญฉบับใหม่ ต้องจัดให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญออกเสียงประชามติเสียก่อนว่า สมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ถ้าผลการออกเสียงประชามติเห็นชอบด้วย จึงดำเนินการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อไป เมื่อเสร็จแล้ว ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติว่า เห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง