ปราศรัยเดือดส่อเหยียดผิว-เชื้อชาติ
รุมถล่ม‘ทักษิณ’
สว.จี้รีบขอโทษก่อนบานปลาย
แนะ‘อุ๊งอิ๊งค์’ควรตักเตือนพ่อ
‘เทพไท’เหน็บแก้ได้ทุกปัญหา
ต้องแต่งตั้งเป็น‘นายกฯอาวุโส’
“ภูมิธรรม”เย้ยเรื่องตลก ปรับครม.เขี่ยทิ้ง“รทสช.”วอนอย่าฟังคนปล่อยข่าว-ปั่นประเด็น เย้ยทายผิดตลอด ขอฟังนายกฯคนเดียว ยันพรรคร่วมยังกลมเกลียวชี้ไม่มีปัญหา ฝ่ายค้านเตรียมเปิดศึกซักฟอก ขอทำงานแข่งกับตัวเองให้เห็นผลงาน ด้าน‘วิสุทธิ์’โดดป้องพ่อนายกฯปราศรัยเดือดเรื่องดี ได้เจรจาให้ความหวังประชาชน คุยทิศทางประเทศ‘ชูศักดิ์’ยกระเบียบพูดอะไรก็ได้ แจ้ง กกต.เรียบร้อยแล้ว’อังคณา’ซัด’ทักษิณ’ควรขอโทษคนผิวสี หลังปราศรัยเชียงราย ส่อเหยียดเชื้อชาติ-สีผิว นายกฯอิ๊งค์ควรตักเตือนพ่อบ้าง‘สมชัย’แนะอบรมมารยาทผู้ช่วยหาเสียง ไม่ให้น่าสมเพช ด้าน’เทพไท’เย้ยตั้ง’แม้ว’นายกรัฐมนตรีอาวุโส
เมื่อวันที่ 6มกราคม2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ จ.เชียงราย ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)และยืนยันว่า จะไม่มีการปรับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ออก ถือเป็นการเกินอำนาจในการแต่งตั้งรัฐมนตรีหรือไม่ ว่า ตนไม่ทราบว่า นายทักษิณ มีข้อมูลอะไร หรือพูดในสถานะไหน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องตลกมาก มันไม่มีความรู้สึกในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล หรือครม.ที่อยู่ๆจะปรับคนนู้นปรับคนนี้ ตนว่าสื่อต้องเลือกฟังแหล่งข่าวที่มีความน่าเชื่อถือมากกว่านี้ ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นเครื่องมือให้เขาปั่นประเด็นต่างๆ ไปมากมาย
‘ภูมิธรรม’ลั่นไม่ปรับครม.ตามข่าวลือ
“ขอยืนยันได้เลยว่า เรื่องนี้ไม่เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้นๆและยังไม่มีประเด็นที่จะไปคุยกัน ซึ่งอำนาจในการปรับ ครม.ทั้งหมดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี ถ้านายกฯบอกว่าโอเค ก็โอเค แต่ถ้านายกฯบอกว่ายังไม่ทราบก็ยังไม่ทราบ ไม่ว่าใครจะมา ซึ่งต้นข่าวก็ทำนายผิดมาตลอดก็ยังจะไปให้เครดิตอะไรเขา” นายภูมิธรรม กล่าว เมื่อถามว่า จะทำให้เกิดการระวังตัวในรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องระวัง เพราะเราคุยกันแบบตลก ทุกคนที่ถูกเอ่ยชื่อก็มานั่งคุยกันว่า มันตลกดีว่า ไปเอาข่าวมาจากไหน เมื่อรู้แหล่งข่าวก็รู้สึกตลกใหญ่ อย่าไปฟังเขามาก ทายมาหลายครั้งก็ผิดมาหลายครั้ง
เมื่อถามอีกว่า วันนี้พรรคร่วมรัฐบาลกลมเกลียวกันดีใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “โอเคดี ไมเห็นมีปัญหาอะไรเลย”ถามต่อไปว่า จะนัดกินข้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำ ก็แล้วแต่ส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะบางทีก็ไม่ต้องตรงเวลาเสียทีเดียว เนื่องจากมีภารกิจและมีงาน เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคร่วมรัฐบาลจะมีการนัดพูดคุยหารือกันหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ฝ่ายค้านก็มีหน้าที่ และก็เห็นพูดมายังไม่เห็นมีการตัดสินใจจริงๆ บางทีพูดไปอย่าง ออกมาอีกอย่าง ก็รอดูเขาตัดสินใจให้ชัดเจน ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้ในเมื่อทำงานร่วมกันได้อย่างดี และยังประสานงานกันได้ดี ก็ไม่มีอะไรที่น่ากังวล
‘วิสุทธิ์’ชี้ปราศรัยเดือดเป็นเรื่องดี
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย หาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.เชียงราย จนถูกวิจารณ์ว่า ไม่เหมาะสมว่า ตนไม่ได้ฟังว่าท่านทักษิณปราศรัยว่าอย่างไร แต่ตนคิดว่าสามารถทำได้ในขอบเขตที่ กกต. อนุมัติให้ทำในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ก็เป็นสิทธิของท่านที่จะไปพูดอะไร ไปทั้งทีก็ไปช่วยผู้สมัครนายก อบจ.หาเสียงอยู่แล้ว
“ไปแล้วไม่พูดหาเสียงแล้วจะไปทำไมครับ เป็นผู้ช่วยหาเสียงก็ต้องไปหาเสียงครับ ไม่มีอะไรแปลกหรอก ท่านไปมาหลายจังหวัดแล้ว ผมไม่ได้ฟังแต่เชื่อว่าจากที่ท่านไม่ได้เยี่ยมพี่น้องประชาชนมานาน ท่านอาจจะดีใจ พี่น้องประชาชนก็ไปต้อนรับท่าน ก็เป็นเรื่องปกติ คนไทยทั้งประเทศรอพบท่านอยู่ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี ไปพบกัน ได้เจรจา ได้พูดให้ความหวังกับพี่น้องประชาชนเห็นว่า อนาคตของประเทศชาติจะเป็นอย่างไร ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี” นายวิสุทธิ์ กล่าว
หาเสียงให้พรรคเพื่อไทยถูกต้องแล้ว
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า การเมืองระดับชาติจะเชื่อมกับท้องถิ่นอย่างไรก็ถือเป็นเรื่องที่ดี มันจะเป็นประโยชน์ ท้องถิ่นจะเป็นกำลังเสริมให้รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ ท้องถิ่นกับรัฐบาลเชื่อมกัน นำงบประมาณไปแก้ปัญหาความยากจนให้กับพี่น้องประชาชน ถือเป็นที่ดีทั้งหมด เมื่อถามว่า คนวิจารณ์ว่า นายทักษิณเลือกปฏิบัติ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องเลือกปฏิบัติหาเสียงให้พรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว จะไปหาเสียงให้พรรคอื่นได้อย่างไร เมื่อถามว่า จะไม่โดนข้อครหาเรื่องเกินหน้าที่ใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ท่านเป็นผู้ช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร อบจ.พรรคเพื่อไทย จะไปหาเสียงให้พรรคอื่นได้อย่างไร
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเสริมติดตลก โดยชี้ไปที่นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พร้อมกล่าวว่า“นี่ก็ผู้ช่วยหาเสียงอุบลราชธานี”ไม่มีระเบียบอะไรว่าพูดอะไรได้แค่ไหน หาเสียงก็ต้องแจ้งว่า พรรคจะทำอะไร ผู้สมัครจะทำอะไร อันไหนที่เป็นประโยชน์ก็ต้องพูดกัน ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า รอบนี้ นายทักษิณ ดุดันขึ้น นายชูศักดิ์ ยิ้ม ก่อนกล่าวว่า “ไม่ได้ดุดันอะไรครับ เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการหาเสียง”
มั่นใจ’พท.’กวาดทุกสนามชิงนายกอบจ.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเดินสายหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั่วประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าจะชนะทุกสนามใช่หรือไม่ ว่า ทุกสนามที่นายทักษิณไปช่วยผู้สมัคร ก็ชนะมาทุกสนาม ซึ่งการเลือกตั้งแต่ละแห่ง พรรคเพื่อไทยก็มียุทธศาสตร์แตกต่างกัน เพราะฉะนั้น ชัยชนะที่ได้มาแต่ละครั้งเกิดจากหลายเรื่องด้วยกัน พรรคเพื่อไทยมองว่าเรื่องท้องถิ่นสำคัญ และท้องถิ่นจะช่วยผลักดันการทำงานในอนาคตได้หลายอย่าง ดังนั้น เราให้ความสำคัญกับทุกสนามที่ส่ง
เมื่อถามว่า นายทักษิณต้องไปช่วยหาเสียงทุกที่ที่พรรคส่งใช่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องของพรรคดำเนินการ เมื่อถามว่า เป็นจุดประสงค์ของพรรคเพื่อไทยที่จะวางรากฐานไปสู่การเลือกตั้งสนามใหญ่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า การเมืองระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะ อบจ.เป็นเรื่องสำคัญ หากทำงานสอดคล้องกับการเมืองระดับประเทศได้ ก็จะทำให้ประเทศเดินหน้า และทำให้การขับเคลื่อนในหลายมิติสอดคล้องกัน เมื่อถามว่า นายทักษิณตั้งเป้าว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยจะได้เสียงข้างมากเป็นอันดับ 1 เพื่อสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคใหญ่ การได้ สส.อันดับ 1 เป็นไปได้ ซึ่งในอดีตเราก็เคยทำมาแล้ว ทั้งนี้ เรามุ่งหวังว่านโยบายหลายอย่างที่ออกไปจะตรงใจประชาชน และมั่นใจว่าจะนำชัยชนะการเลือกตั้งในอนาคตมาได้
เมื่อถามว่า หลายพื้นที่ต้องชนกับพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่มี ต้องแยกแยะให้ออก การเมืองท้องถิ่นเป็นเรื่องที่แต่ละพรรคมีสิทธิส่ง ไม่เกี่ยวกับการร่วมรัฐบาล อย่างไรก็ตาม หากเป็นการเลือกตั้งซ่อม หรือการเลือกตั้งใหญ่ ต้องมีการคุยกัน แต่ระดับท้องถิ่น แต่ละพรรคมีนโยบายของตัวเอง ดังนั้น ใครจะส่งก็เป็นสิทธิ
‘แม้ว’ลุยหนัก-หวังยึดนายกฯ16จว.
นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษของพรรคเพื่อไทย และอดีตส.ส.ศรีสะเกษห้าสมัย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ได้ประสานทีมงานงพรรคเพื่อไทยถึงการลงพื้นที่เพื่อช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกฯอบจ.ของ นายทักษิณ เบื้องต้นมีการประสานว่า นายทักษิณ จะมาช่วยหาเสียงที่ศรีสะเกษ ในวันที่ 24มกราคม แต่ต้องรอการยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง นายกฤษดา ตันเทอดทิตย์ เลขานุการ รมว.ท่องเที่ยวฯ และอดีตส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า นายทักษิณ จะมาช่วยหาเสียงนายกฯอบจ.หนองคาย โดยจะมาวันที่ 19มกราคมนี้ โดยก่อนหน้านั้นทราบว่า จะไปหาเสียงที่ จ.บึงกาฬ
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า นายทักษิณ มีคิวเดินสายหาเสียงเลือกตั้งนายกฯอบจ.อีกหลายจังหวัด เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคที่ลงในสามพรรค 14จังหวัดและลงในนามสมาชิกพรรค 2จังหวัด เช่น จ.เชียงใหม่ รวม 16จังหวัด ให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออีกประมาณ 4สัปดาห์ก่อนวันเลือกตั้ง 1ก.พ.2568 โดยวันที่ 12 ม.ค.นี้จะบินไป จ.ลำปาง เพื่อช่วย น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปางของเพื่อไทยและเป็นอดีตนายกฯอบจ.ลำปางสมัยที่ผ่านมา วันที่ 18มกราคม จะไปช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม วันที่ 19มกราคม อาจไปช่วย นายภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น ผู้สมัครนายก อบจ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่แข่งขันกันหนักระหว่างเพื่อไทยกับสีน้ำเงิน วันที่ 20มกราคม มีคิวไปต่อที่ จ.มุกดาหาร เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ นายบุญฐิณ ประทุมลี ผู้สมัคร นายก อบจ.มุกดาหาร อดีตส.ส.เพื่อไทย ที่หันมาลงสมัครนายกฯอบจ.หลังสอบตกในการเลือกตั้งที่ผ่านมาและปิดท้ายวันที่ 24มกราคม ที่ จ.ศรีษะเกษ
‘หนู’ยันไม่ใช่’ภท.’ถูกปรับพ้นครม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวปรับ ครม.ได้มีการส่งสัญญาณมาทางพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ ว่า สำหรับตนไม่มีสัญญาณ ไม่มีการแจ้งอะไรมา ยังทำงานตามปกติ เมื่อถามว่าต้องตรวจการบ้านรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องทำ ต้องตรวจทุกวันอยู่แล้ว ทุกคนต้องทำงานเต็มที่ เมื่อถามว่า มีรายงานว่า อาจปรับบางพรรค นายอนุทิน กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า“คงไม่ใช่พรรคผมมั้ง ผมก็ทำงานขนาดนี้ น่ารักแบบนี้”
ควรอบรมมารยาทผู้ช่วยหาเสียง
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.โพสต์เฟซบุ๊ก’ปั่นไปไหน-สมชัย ศรีสุทธิยากร” เรื่อง “สิ่งที่ ผู้ช่วยหาเสียง ควรรู้ในการหาเสียง”ดังนี้ สิ่งที่ผู้ช่วยหาเสียงควรรู้ในการหาเสียง 1.ค่าแรงที่ผู้สมัครต้องจ่าย คือ อย่างน้อยต้องเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ เช่น จ.เชียงราย ค่าแรงขั้นต่ำตั้งแต่ 1 มกราคม2568 คือ 352บาท ทั้งยังสามารถจัดหาเสื้อผ้า อาหาร เครื่องดื่มให้ด้วยได้ โดยถือเป็นค่าใช้จ่ายในการหาเสียงที่ต้องรายงานต่อ กกต. 2.ใครที่ถูกเอาเปรียบ เช่น ไปประกาศบนเวทีว่าได้แค่วันละ300บาท แปลว่า อาจถูกเอาเปรียบจากผู้สมัคร สามารถร้องเอาผิดผู้สมัครว่า ทำผิดระเบียบการหาเสียงได้ 3.ผู้ช่วยหาเสียง พึงศึกษาระเบียบว่าด้วยการหาเสียง ของ กกต.ที่มีอยู่หลายฉบับ ถึงสิ่งที่ทำได้และทำไม่ได้ เช่น การห้ามหาเสียงด้วยถ้อยคำที่รุนแรง การใส่ร้ายด้วยข้อความเป็นเท็จ การนำนโยบายที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้บริหารท้องถิ่นมาหาเสียง ซึ่งถ้าหากทำผิด นอกจากเป็นความผิดอาญาเฉพาะตัวแล้ว ยังอาจสร้างความเสียหายไปยังผู้สมัคร หรือพรรคที่ส่งผู้สมัคร 4.กกต.ควรมีโครงการอบรมความรู้และมารยาทหาเสียงให้ผู้ช่วยหาเสียง เพื่อป้องกันมิให้เกิดการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และยกระดับมาตรฐานการหาเสียงของประเทศไทย ไม่ให้เป็นที่น่าสมเพชครับ
‘อังคณา’จี้รีบขอโทษพูดส่อ‘เหยียดผิว’
นางอังคณา นีลไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะอดีตกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในฐานะผู้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกออจ.เชียงราย ให้กับ นางสลักจฤษฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ขอโทษ หลังพูดบนเวทีหาเสียงช่วงหนึ่งกล่าวถึงความสวยและเปรียบเทียบกับผู้หญิงผิวสี รวมถึงขอให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เตือน นายทักษิณ ฐานะบิดา ให้ระวังคำพูด เนื่องจากการพูดลักษณะเหยียดสีผิว อาจทำให้มีผลกระทบกับหลักการของสหประชาชาติได้ อย่างไรก็ดีแม้ว่า นายทักษิณ ไม่มีตำแหน่งใดทางบริหาร แต่เป็นที่รู้กันอย่างกว้างขวางว่านายทักษิณ เป็นผู้มีอิทธิพลของพรรคเพื่อไทย นายทักษิณ พูดหาเสียงเป็นสิทธิ แต่ไม่สามารถพูดอย่างไรก็ได้ได้ เนื่องจากต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ด้อยค่า หรือลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้กรณีดังกล่าวอาจไม่ทำให้เกิดขัดแย้ง เป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ แต่เพื่อเป็นการป้องกัน นายทักษิณควรออกมาขอโทษ
ดักคอห้ามเอาภาษีไปอุ้มซ้ำรอย‘ปู’
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง“ค่าไฟฟ้าหน่วยละ3บาท 70 สตางค์” ระบุว่า #ค่าไฟฟ้าหน่วยละ 3บาท70สตางค์ ประเด็นที่น่าสนใจที่ นายทักษิณ ประกาศแนวทางการทุบค่าไฟให้เหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย ซึ่ง นายทักษิณ กล่าวว่า ตนเองไปดูมาแล้ว มันสามารถรีดไขมันจาก ค่าไฟ ได้อยู่จำนวนหนึ่ง ผมสนับสนุนนะ อะไรที่ประชาชนได้ประโยชน์ ผมคิดว่าถ้าคุณรีดไขมันได้ ไม่เห็นจะต้องรออะไร ตอนนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อน เงินหมื่นที่แจกไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้าวของแพง เศรษฐกิจแย่ คุณก็น่าประกาศ 1ก.พ.นี้ไปเลยว่า ค่าไฟฟ้า จะเหลือหน่วยละ3.70บาท ที่สำคัญคุณอย่าลดเหมือนลดราคาน้ำมันสมัยยิ่งลักษณ์นะ ประกาศลดลิตรละ6-7บาท แต่ลดแค่สามเดือน เอาเงินภาษีไปอุ้ม หลังจากนั้นราคาน้ำมันก็กลับมาปกติขอย้ำนะครับเรื่องลดไฟฟ้าเหลือ 3.70บาท ถ้าคุณไม่ได้โม้ โฆษณาชวนเชื่อ ให้คุณรีบทำ รีบลดราคาเลย แต่ต้องลดตลอดไปและห้ามเอาภาษีมาอุ้ม ให้รีดไขมันอย่างที่คุณพูด ถ้าคุณลดไม่กี่เดือน ด้วยการเอาภาษีมาอุ้มหรือให้ กฟผ.เป็นหนี้ไปก่อน แบบนี้ใครก็ทำได้
‘เทพไท’เย้ยตั้ง’นายกรัฐมนตรีอาวุโส’
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมเนื้อหาบนเฟซบุ๊ก“เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ฤาไทยจะมีตำแหน่ง“นายกรัฐมนตรีอาวุโส” ดังนี้ ฤาไทยจะมีตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาวุโส ถ้าใครได้ติดตามการปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.เชียงราย ของนายทักษิณ จะเห็นว่าการปราศรัยเต็มไปด้วยความมั่นใจ และเชื่อมั่นในตัวเองมาก เปรียบเหมือนกับเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารประเทศ ในนามรัฐบาลได้อย่างละเอียด ในหลายประเด็น เช่น 1.การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้ความมั่นใจ ว่า ปีหน้าปี 2568 เศรษฐกิจจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เป็นการขายฝันให้ประชาชนแทนรัฐบาล เหมือนเป็นนายกรัฐมนตรีเอง 2.ได้ปราศรัยเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลประกาศไว้เทคโนโลยีจะเสร็จเดือน มี.ค. พอเสร็จแล้ว จะโอนเงินให้คนที่มีต่ำกว่าอายุ 60 ปีลงมา ส่วนวันที่ 29 ม.ค. นี้ จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60ปีขึ้นไปและจะให้คนหนุ่มสาว เรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะอีกหน่อยการติดต่อกับรัฐบาล จะผ่านดิจิทัลวอลเล็ตทั้งหมด 3.ยังพูดถึงการขันน๊อตรัฐมนตรีให้ทำงานให้ได้ โดยอ้างคำพูดของ นางสาวแพทองธาร ว่ากำลังนั่งไล่ให้รัฐมนตรีไปพูดกับข้าราชการ ก็มีคำแก้ตัวสารพัด นายกฯก็ไปพูดกับรัฐมนตรีว่า ต้องทำให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะเปลี่ยนคนมาแทน รัฐมนตรีจึงจะกระเตื้อง ทั้งที่เป็นความคิดของนายทักษิณทั้งสิ้น นางสาวแพทองธาร คงไม่กล้าที่จะไปคาดโทษกับรัฐมนตรีคนใดเลย
เหน็บเก่งทุกอย่างแก้ได้ทุกปัญหาปท.
4.เรื่องไฟฟ้านายทักษิณบอกว่า ปีนี้ค่าไฟฟ้าจะต้องลงไปอยู่ที่เลข3 ไม่ใช่เลข4 ใจอยากให้เหลือ 3.50 บาท แต่คงได้แค่ 3.70บาท กำลังให้เขาช่วยทุบอยู่ ปีนี้ค่าไฟลงแน่เห็นตัวเลขแล้วทุบได้ 5.ได้ประกาศแก้ปัญหาค่าอาหารสัตว์ ค่าปุ๋ย ค่ายาก็จะให้ลง เรื่องนี้จะต้องทำให้เป็นจริงภายในปีนี้ให้หมดทุกอย่าง ทั้งที่รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบยังไม่ได้พูดอะไรเลย 6.แถลงแผนงานรัฐบาลว่า ปีนี้ต้องทำงานหนัก 1.ยาเสพติด ต้องเอาให้เกลี้ยง 2.Call Center ต้องเอาให้เกลี้ยง 3.การผูกขาดทุกรูปแบบต้องเอาให้หมด เพื่อให้พี่น้องมีค่าใช้จ่ายในชีวิตต่ำลง ทำรายได้ให้ดีขึ้น มีโอกาสดีขึ้น ทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นในปี2568 7.ยังตอบคำถามเรื่องข่าวการปรับครม.ว่ายังไม่ปรับตอนนี้ กระแสข่าวจะปรับนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานออก นายทักษิณ ก็ตอบว่า ยังทำงานกันได้ ยังไม่มีการปรับ ครม.จากคำปราศรัยและการตอบคำถามของผู้สื่อข่าว จะเห็นได้ว่า นายทักษิณ คือนายกรัฐมนตรีตัวจริง จึงไม่จำเป็นต้องเหนียมอายอะไรอีกแล้ว ถ้าจะรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการ ก็ให้ น.ส.แพทองธาร แต่งตั้งขึ้นมา หรือจะเอาแบบอย่างประเทศสิงคโปร์ ที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีอาวุโส แต่ถ้าเพื่อให้สมศักดิ์ศรี ก็ตั้งตำแหน่งใหม่ขึ้นมา เป็นนายกรัฐมนตรีอาวุโสเสียเลย
สงสัยทุบค่าไฟฟ้าพูดในฐานะอะไร
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตเลขานุการ รมว.ต่างประเทศและอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า ต้องถามว่า คุณพูดในฐานะอะไร เป็นนายก หัวหน้าพรรค หรือเป็นอะไร คุณสั่งรัฐบาลได้ หรือสั่งใครได้ สั่งกระทรวงพลังงาน หรือสั่ง กกพ.ได้ ตกลง คุณเป็นใครกันแน่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี