'หญิงหน่อย'ประกาศจับตารัฐบาล กล้าปฏิรูปโครงสร้างพลังงานทุบราคาค่าไฟฟ้า-ค่าน้ำมันช่วยประชาชนจริงหรือไม่ จี้หามาตรการเพิ่มรายได้ สร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางขนาดย่อม พร้อมหนุนการสร้างแรงงานทักษะสูง รับการลงทุนของโลกยุคเมกะเทรนด์
เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2568 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า ปัญหาสำคัญของพี่น้องประชาชน ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข คือปัญหาหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงถึง 90%ของจีดีพี หรือมูลค่ากว่า 16 ล้านล้านบาท ประกอบกับการก่อหนี้เพิ่มเติมมหาศาลจากการแจกเงินหมื่น ซึ่งเฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 กำลังจะถูกขับเคลื่อนในปีนี้ ทั้งที่ตัวเลขในการกระตุ้นเศรษฐกิจมีความสามารถในการเพิ่มจีดีพีได้เพียง 0.2 ถึง 0.3% เท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าไม่ได้ก่อให้เกิดการสร้างรายได้ใหม่ แต่เป็นเพียงการนำ เงินภาษีอากรของประชาชน ไปใช้ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เพื่อคะแนนนิยมทางการเมืองในช่วงหาเสียงนายก อบจ.เท่านั้นหรือไม่
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำในปี 2568 คือการสร้างรายได้ อย่างยั่งยืน และมั่นคงให้เกิดขึ้นกับประชาชน การแจกเงินหมื่นคงไม่ใช่การสร้างรายได้อย่างแท้จริง แต่สิ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้น ประชาชนมีกินมีใช้ ผู้มีอำนาจจะต้องกลับไปปรับการสร้างรายได้พื้นฐาน ของประชาชนให้เกิดความเข้มแข็ง ทั้งการสร้างรายได้จากฐานความเข้มแข็งเดิม เช่น ส่งเสริมและสนับสนุนSMEs ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ภาคเกษตร การท่องเที่ยว หรือภาคการส่งออกให้มีแต้มต่อ
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า ภาคส่วนที่กล่าวมานั้นคือกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เป็นกลไกในการจ้างงาน สร้างอาชีพให้กับคนไทย ให้เกิดพลังในการต่อสู้ กับทุนต่างชาติที่เข้ามาทุบตลาดในประเทศไทย โดยทำควบคู่ไปกับการส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างศักยภาพและทักษะให้กับแรงงานไทย เพื่อความพร้อมรองรับการลงของโลกยุคใหม่ซึ่งเป็นยุคของเมกะเทรนด์ เช่นบริการด้านสุขภาพ เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานสะอาด ลิเธียมและแบตเตอรี่ คลาวด์ เมตาเวิร์ส เป็นต้น
ทั้งนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ เห็นด้วยกับอดีตนายกรัฐมนตรี และจะคอยติดตาม หลังได้ประกาศผ่านเวทีหาเสียงว่า จะทุบราคาค่าไฟให้ลงมาเหลือ 3.70 บาท ต่อหน่วย ซึ่งหากทำได้จะถือเป็น จุดเริ่มต้นในการแก้ไขปัญหาด้านพลังงาน แต่การดำเนินการต้องไม่ใช้รูปแบบของการนำเงินภาษีประชาชนไปอุดหนุนเพียงชั่วคราวเหมือนที่ผ่านมา หรือลักษณะควักกระเป๋าซ้ายไปจ่ายกระเป๋าขวา ซึ่งไม่ใช่การปรับโครงสร้างค่าไฟฟ้าหรือค่าน้ำมันอย่างแท้จริง แต่การจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างพลังงานได้นั้น รัฐบาลต้องปฏิรูปพลังงานทั้งระบบ ต้องกล้าเข้าไปทลายทุนผูกขาดด้านพลังงาน จึงจะช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่นค่าน้ำมันและค่าไฟฟ้าให้ประชาชนได้อย่างยั่งยืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี