"นายกฯอิ๊งค์"ยันไม่มีปรับครม. บอกสไตล์ต่างจาก"พ่อ"ต้องคุยก่อนให้ชัด ไม่เขิน"ทักษิณ"พูดก่อนยินดีฟังวิชั่น
เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายปรับลดค่าไฟฟ้า ตรงนี้ถือเป็นหลักประกันเก้าอี้ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และรมว.พลังงาน ด้วยหรือไม่ ว่า อันนี้ไม่ทราบเลยว่าทำไม หลังไมค์เคยคุยกับสื่อเลยด้วยซ้ำ ว่าไม่เคยพูดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และยังไม่ได้พูดเลยด้วยซ้ำ คิดว่าอำนาจการปรับ ครม.เป็นของนายกฯ แต่ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับ ครม.ซึ่งนายพีระพันธุ์ก็พูดคุยกันอยู่เมื่อสักครู่ และก็ไม่มีการจะปรับ
เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่ายังไม่ปรับ ครม.ตอนนี้ แต่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะเรียกรัฐมนตรีรายบุคคลเข้ามาประเมินผลงานภายใน 3 เดือน น.ส.แพทองธาร ตอบว่า เรื่องนี้เป็นแพลน ต้องโทษที่ตนเอง เพราะความจริงอยากคุยตั้งแต่เริ่มเป็นนายกฯ แต่พอหลายอย่างเข้ามา ก็ต้องแยกก่อนว่าแต่ละกระทรวงรับผิดชอบงานหัวข้ออะไรบ้าง ตอนนี้งานของแต่ละกระทรวงค่อนข้างเป็นรูปเป็นร่างเต็มที่มาก ฉะนั้น การเชิญรัฐมนตรีเข้ามาคุยได้แจ้งทุกท่านตั้งแต่ปี 2567 แล้ว เรื่องนี้รัฐมนตรีไม่ตกใจแน่นอน เพราะความจริงเป็นเพียงการอัพเดตว่าสถานะของแต่ละนโยบายทำถึงไหนแล้ว ตนกระจายงานต่างๆ ให้รองนายกฯ แต่ละท่าน แต่ที่อยากเรียกรัฐมนตรีเข้ามา เพราะต้องการทราบว่าคนที่อยู่หน้างานทำอะไรบ้าง จะได้คุยกันได้เพื่อจัดเวลาให้รัฐมนตรีแต่ละท่านในการนำเสนอพูดคุยและขอการสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งจะทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม คิดว่าภายในเดือนนี้จะมีการเชิญรัฐมนตรี 2 กระทรวงมาพูดคุย
เมื่อถามว่า หากแก้ทุนผูกขาดไม่ได้ จะเปลี่ยนคนทำงานแทนอย่างที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พูดบนเวทีปราศรัยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า ที่นายทักษิณพูด ถ้าฟังดีๆ คิดว่าเป็นสไตล์การทำงานของนายทักษิณ ซึ่งไม่เหมือนกับตน คนละแบบกัน การที่เรียกมาคุยตนไม่ได้เรียกมาคุย คือจริงๆ แล้วรัฐมนตรีทุกท่าน รองนายกฯ ทุกท่าน มีไลท์ส่วนตัวอยู่แล้ว สามารถพูดคุยได้ อย่างกับ รมว.พาณิชย์ เรื่องราคาสินค้าพูดคุยกันว่าจะช่วยสินค้าเกษตรนั้นๆ อย่างไรได้บ้าง แต่เรื่องผูกขาดราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค อันนี้เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ ไม่อยากให้มีการผูกขาดเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เน้นย้ำไป จากนั้นเป็นขั้นตอนการทำงาน การจะเปลี่ยนตัวอะไรยังไม่มีการพูดถึง
เมื่อถามว่า สไตล์การทำงานที่ต่างจากนายทักษิณ แต่การปรับ ครม.ของนายกฯ จะเป็น 3 เดือน หรือ 6 เดือน น.ส.แพทองธาร ตอบว่า "ที่นักข่าวถามสไตล์การทำงานดิฉันแตกต่างจากคุณพ่ออย่างไร ดิฉันจะคุยก่อน และคุยตรงๆ ว่าสิ่งนี้อยากให้เกิดขึ้นได้ไหม และส่วนกลางจะสนับสนุนเรื่องอะไรได้บ้าง ถ้าพูดไปแล้วไม่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไร ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าละเลยไม่สนใจ ทำงานมันเห็นได้ถึงเจตนาอยู่แล้วอันนี้คงไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นกระบวนการของมันเราเข้าใจได้ เราก็ต้องสนับสนุนให้เดินไปต่อ เพราะการมีเสถียรภาพทำให้งานมันเกิด ไม่ว่าจะในกระทรวงหรือในรัฐบาล ทำให้งานต่อเนื่อง ดิฉันคิดว่าดิฉันยังไม่มีแผนที่จะปรับ ครม.ถ้ามีหรืออย่างไรจะบอกอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องดังกล่าวเลย และทุกอย่างต้องดูจากผลงาน"
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่พูดทั้งเรื่องนโยบายและเรื่องการเมือง มองเป็นการบดบังรัศมีของนายกฯ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าทุกท่านเวลาที่พูดกันว่า นายกฯ ตัวจริงบ้าง นายกฯ กี่คนบ้าง อะไรก็ตามที่แปลว่าหลายๆ นายกฯ ทุกอย่างที่ผ่านมาคือมันต่างตรงที่ว่า พอดีตนเป็นลูก ตนไม่ได้เป็นคู่แข่งกับท่าน ตนโตขึ้นมาในบ้านที่นายทักษิณเป็นหัวหน้าครอบครัว การที่ท่านพูด หากเรานำมาประยุกษ์ได้มันคือสิ่งดี และตนมองทุกอย่างเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน นักวิชาการ รัฐมนตรี พูดอะไรที่เป็นประโยชน์มองว่าคนนำมาใช้ เราจะฟังไม่ได้เลยกับคนที่ไม่ชอบเราคงไม่ได้ อย่างตัวนายทักษิณเองเคยเป็นนายกฯ มาก่อน และประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉะนั้น การพูดตนรับฟังได้อยู่แล้ว และความจริงถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้เมื่อไหร่สื่อมวลชนก็ต้องรู้หลังไมค์กันแน่นอน เราคิดง่ายๆ ว่าเวลาคนในครอบครัวคุยกันอย่างไร ตนก็คือหนึ่งในนั้นเป็นแบบนั้น ถ้าถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ที่ท่านพูดออกไป ก็ไม่ มันเป็นสไตล์การพูดของท่าน
เมื่อถามย้ำว่า แต่นายทักษิณพูดนโยบายออกมาก่อนแล้วรัฐบาลมักจะตาม ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเป็นนายกฯ ตัวจริงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "ก็นั่นคือการคุยกันหลังไมค์ก่อน และตัวดิฉันก็กำหนดไว้ว่าการให้สัมภาษณ์ของดิฉันคือวันอังคาร หลัง ครม.เท่านั้น พอนายทักษิณออกไปพูดคุยก่อน ก็เป็นรอบที่ท่านได้พูดก่อน ก็ไม่เป็นไร เพราะประโยชน์อยู่ที่ประเทศถ้ามันเกิดขึ้นจริง และดิฉันไม่ได้กระทบอะไร ไม่ได้รู้สึกว่านายกฯ สองคน สามคน แล้วต้องเสียใจหรืออะไร"
เมื่อถามอีกว่า เหมือนแบ่งบทกันให้พ่อเป็นฝ่ายบู้ ลูกเป็นฝ่ายประนีประนอม น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณพูดหลายอย่างมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น หลายอย่างต้องผ่านมติ ครม. มติพรรค นายทักษิณเป็นคนมีวิศัยทัศน์คิดต่อยอด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไร เป็นวิศัยทัศน์ก็เป็นวิสัยทัศน์ จะนำมาปฏิบัติหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ต้องแยกว่าวิสัยทัศน์เป็นอย่างนั้น ฝ่ายบริหารว่าอย่างไรต้องแยกภาพให้ชัด มันไม่ได้กระทบกันทั้งหมด ถ้ากระทบเรื่องดีมันก็ดี
เมื่อถามว่า วันนี้ยังไม่มีพรรคไหนดื้อ หรือรัฐมนตรีคนไหนยังไม่ผ่านงานใช่หรือไม่ โดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ที่ยืนอยู่ด้านหลัง น.ส.แพทองธาร ได้หันไปจับแขน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย พร้อมกับถามว่า "ดื้อรึเปล่า" ก่อนจะตอบเองว่า "มีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อ" ทำให้ น.ส.แพทองธาร ถึงกับหัวเราะ และบอกว่า "ท่านบอกว่ามีแต่น่ารักไม่มีดื้อ สรุปนายกฯ ดื้อสุด"
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี