ไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ/อ้างแค่เพิ่มโอกาส
‘อิ๊งค์’โดดป้อง‘พ่อ’
ยืนกรานยังไม่มีแผนปรับครม.
‘สรวงศ์’ย้ำพรรคร่วมไร้ปัญหา
‘หนู’ควง‘เนวิน’อวยพร‘แม้ว’
ฝ่ายค้านเล็งก.พ.ยื่นซักฟอกรบ.
ปมดราม่าปราศรัยเชียงราย นายกฯ “อิ๊งค์” ป้อง “ทักษิณ” ยืนยันไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ ชี้เป็นเรื่องการเพิ่มโอกาส นายกฯยืนยันชัดๆ ยังไม่มีแผนปรับครม.บอกสไตล์ทำงานต่างจากพ่อต้องคุยก่อนให้ชัด เรียกรมต.จี้งานรายคน ย้ำไม่เสียใจ “ทักษิณ” พูดนำก่อน ยินดีฟังวิชั่น เผยพรรคร่วม-รมต.ไม่มีใครดื้อ ตบมุขนายกฯดื้อที่สุด “สรวงศ์” โต้รัฐบาลรับลูก “ทักษิณ” ทุกอย่าง เป็นแค่วิสัยทัศน์อดีตผู้นำ ย้ำพรรคร่วมไร้ปัญหาด้าน‘อนุทิน’รับควง‘เนวิน’อวยพรปีใหม่‘ทักษิณ’ ปัดคุยการเมือง แค่กิน‘บะหมี่’กับอดีตผู้บังคับบัญชา ‘ฝ่ายค้าน’จ่อยื่นญัตติซักฟอกรบ.ช่วงก.พ. คาดอภิปรายปลายก.พ.-ต้นมี.ค.โวมีไม้เด็ดเซอร์ไพรส์รัฐบาล เล็งจองกฐินทุกพรรคร่วม ย้ำเรื่องชั้น14มีแน่นอน ลั่นตรวจสอบเข้มข้น
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานประชุมคณะรับมนตรี (ครม.)ถึงประเด็นดราม่ากรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯปราศรัยหาเสียงนายกอบจ.เชียงรายถึงการผลักดันหญิงไทยให้เป็นนางแบบระดับโลกโดยเปรียบเทียบกับชาวแอฟริกาว่าจากที่ฟังเนื้อความพูดเหยียดจริงๆหรือไม่ขอให้ลองไปฟังที่คุณพ่อพูดดูก็ค่อนข้างมั่นใจ100เปอร์เซ็นต์ เลยว่าเจตนาเรื่องการเหยียดผิวไม่มีแน่ๆซึ่งคุณพ่อเคยบอกก่อนหน้านี้ว่าคนไทยจะไปทำศัลยกรรมทำไม เราก็สวยแบบไทยของเรารวมถึงการเพิ่มโอกาสให้กับคนที่ไม่ต้องเสียเงินไปทำจมูก ไปทำศัลยกรรม เราก็สามารถประกวดในแบบของเราได้นี่คือความตั้งใจของพ่อในเรื่องของโอกาส
‘อิ๊งค์’ป้อง‘พ่อ’ไม่ได้เหยียดเชื้อชาติ
“ลองไปฟังต้นฉบับก่อน มั่นใจเลยว่าพ่อไม่เคยเหยียดเรื่องนี้พ่อเป็นคนที่ไม่ได้เหยียดคนอยู่แล้วถ้าได้ยินหรือเข้าใจผิดอย่างนั้นคิดว่าไม่ใช่แน่นอน”นายกฯย้ำ
เมื่อถามว่าแต่เมื่อพูดถึงภาพอื่นก็อาจจะเป็นการไปเหยียดเชื้อชาติเขาหรือเปล่านายกฯกล่าวว่า”โอ้ยไม่มีทาง ทุกชาติเขาก็มีความสวยเป็นธรรมชาติของเขา เหมือนที่เรามองว่าคนนี้ต้องเป็นคนญี่ปุ่นแน่เลย คนนี้ต้องเป็นคนเกาหลีแน่เลย ก็เป็นเรื่องเชื้อชาติ มองเห็นว่าเป็นคนชาติไหนก็แค่นั้น”เมื่อถามอีกว่าสว.อยากให้นายกฯไปเตือนนายทักษิณในเรื่องนี้นายกฯกล่าวว่าก็มีการคุยกันอยู่แล้วและทราบถึงความตั้งใจเพราะเรื่องนี้นายทักษิณพูดมาก่อนที่จะสัมภาษณ์ด้วยซ้ำ มันไม่ใช่เรื่องของการเหยียดฉะนั้นก็ไม่ต้องเตือนอะไร
นายกฯคุย‘พีระพันธุ์’ปกติ/ไร้ปรับ
เวลา 11.40น.ภายหลังประชุม ครม.น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงนโยบายปรับลดค่าไฟฟ้าตรงนี้ถือเป็นหลักประกันเก้าอี้ของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงานด้วยหรือไม่ ว่า อันนี้ไม่ทราบเลยว่าทำไมหลังไมค์เคยคุยกับสื่อเลยด้วยซ้ำว่าไม่เคยพูดเรื่องการปรับ ครม.และยังไม่ได้พูดเลยด้วยซ้ำ คิดว่าอำนาจการปรับครม.เป็นของนายกฯแต่ตนยังไม่ทราบว่าจะมีการปรับครม.ซึ่งนายพีระพันธุ์ก็พูดคุยกันอยู่เมื่อสักครู่ และก็ไม่มีการจะปรับ
เมื่อถามว่าที่นายกฯระบุว่ายังไม่ปรับครม.ตอนนี้แต่ก่อนหน้านี้เคยบอกว่าจะเรียกรัฐมนตรีรายบุคคลเข้ามาประเมินผลงานภายใน 3 เดือน น.ส.แพทองธารตอบว่า เรื่องนี้เป็นแพลน ต้องโทษที่ตนเองเพราะความจริงอยากคุยตั้งแต่เริ่มเป็นนายกฯแต่พอหลายอย่างเข้ามา ก็ต้องแยกก่อนว่าแต่ละกระทรวงรับผิดชอบงานหัวข้ออะไรบ้าง
เดือนนี้เชิญรมต.2กระทรวงมาคุย
“ตอนนี้งานของแต่ละกระทรวงค่อนข้างเป็นรูปเป็นร่างเต็มที่มากฉะนั้นการเชิญรัฐมนตรีเข้ามาคุยได้แจ้งทุกท่านตั้งแต่ปี 2567แล้ว เรื่องนี้รัฐมนตรีไม่ตกใจแน่นอน เพราะความจริงเป็นเพียงการอัพเดตว่าสถานะของแต่ละนโยบายทำถึงไหนแล้ว ตนกระจายงานต่างๆให้รองนายกฯแต่ละท่าน แต่ที่อยากเรียกรัฐมนตรีเข้ามาเพราะต้องการทราบว่าคนที่อยู่หน้างานทำอะไรบ้าง จะได้คุยกันได้เพื่อจัดเวลาให้รัฐมนตรีแต่ละท่านในการนำเสนอพูดคุยและขอการสนับสนุนซึ่งกันและกัน จะทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมคิดว่าภายในเดือนนี้จะมีการเชิญรัฐมนตรี 2 กระทรวงมาพูดคุย”นายกฯระบุ
บอกสไตล์ทำงานแตกต่างจากพ่อ
เมื่อถามว่าหากแก้ทุนผูกขาดไม่ได้จะเปลี่ยนคนทำงานแทนอย่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯพูดบนเวทีปราศรัยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนตอบว่า ที่นายทักษิณพูดถ้าฟังดีๆคิดว่าเป็นสไตล์การทำงานของนายทักษิณซึ่งไม่เหมือนกับตนคนละแบบกัน การที่เรียกมาคุยตนไม่ได้เรียกมาคุยคือจริงๆแล้วรัฐมนตรีทุกท่าน รองนายกฯทุกท่านมีไลท์ส่วนตัวอยู่แล้วสามารถพูดคุยได้อย่างรมว.พาณิชย์เรื่องราคาสินค้าพูดคุยกันว่าจะช่วยสินค้าเกษตรนั้นๆอย่างไรได้บ้างแต่เรื่องผูกขาดราคาทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภคอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ ไม่อยากให้มีการผูกขาดเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่เน้นย้ำไปจากนั้นเป็นขั้นตอนการทำงาน การจะเปลี่ยนตัวอะไรยังไม่มีพูดถึง
เมื่อถามว่าสไตล์การทำงานที่ต่างจากนายทักษิณ แต่การปรับครม.ของนายกฯจะเป็น 3 เดือนหรือ 6 เดือน น.ส.แพทองธาร ตอบว่า“ที่นักข่าวถามสไตล์การทำงานดิฉันแตกต่างจากคุณพ่ออย่างไร ดิฉันจะคุยก่อนและคุยตรงๆว่าสิ่งนี้อยากให้เกิดขึ้นได้ไหมและส่วนกลางจะสนับสนุนเรื่องอะไรได้บ้าง ถ้าพูดไปแล้วไม่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าละเลยไม่สนใจทำงานมันเห็นได้ถึงเจตนาอยู่แล้วอันนี้คงไม่ใช่ แต่ถ้าเป็นกระบวนการของมันเราเข้าใจได้ เราก็ต้องสนับสนุนให้เดินไปต่อ เพราะการมีเสถียรภาพทำให้งานมันเกิดไม่ว่าจะในกระทรวงหรือในรัฐบาลทำให้งานต่อเนื่อง
ยันชัดๆยังไม่มีแผนการปรับครม.
“ดิฉันคิดว่าดิฉันยังไม่มีแผนที่จะปรับครม.ถ้ามีหรืออย่างไรจะบอกอีกที แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องดังกล่าวเลย และทุกอย่างต้องดูจากผลงาน”นายกฯย้ำ
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรกับการเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ที่พูดทั้งเรื่องนโยบายและเรื่องการเมือง มองเป็นการบดบังรัศมีของนายกฯหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนเข้าใจว่าทุกท่านเวลาที่พูดกันว่านายกฯตัวจริงบ้าง นายกฯกี่คนบ้าง อะไรก็ตามที่แปลว่าหลายๆนายกฯทุกอย่างที่ผ่านมาคือมันต่างตรงที่ว่าพอดีตนเป็นลูก ตนไม่ได้เป็นคู่แข่งกับท่าน ตนโตขึ้นมาในบ้านที่นายทักษิณเป็นหัวหน้าครอบครัว การที่ท่านพูดหากเรานำมาประยุกต์ได้มันคือสิ่งดี และตนมองทุกอย่างเป็นแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน นักวิชาการ รัฐมนตรี พูดอะไรที่เป็นประโยชน์มองว่าคนนำมาใช้ เราจะฟังไม่ได้เลยกับคนที่ไม่ชอบเราคงไม่ได้ อย่างตัวนายทักษิณเองเคยเป็นนายกฯมาก่อน และประสบความสำเร็จอย่างมาก ฉะนั้นการพูดตนรับฟังได้อยู่แล้ว และความจริงถ้ารู้สึกไม่แฮปปี้เมื่อไหร่สื่อมวลชนก็ต้องรู้หลังไมค์กันแน่นอน เราคิดง่ายๆว่าเวลาคนในครอบครัวคุยกันอย่างไร ตนก็คือหนึ่งในนั้นเป็นแบบนั้น ถ้าถามว่ารู้สึกอะไรหรือไม่ที่ท่านพูดออกไป ก็ไม่ มันเป็นสไตล์การพูดของท่าน
ย้ำไม่เสียใจ’ทักษิณ’พูดนำก่อน
เมื่อถามย้ำว่าแต่นายทักษิณ พูดนโยบายออกมาก่อนแล้วรัฐบาลมักจะตามทำให้หลายคนตั้งคำถามว่าเป็นนายกฯตัวจริงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ก็นั่นคือการคุยกันหลังไมค์ก่อน และตัวดิฉันก็กำหนดไว้ว่าการให้สัมภาษณ์ของดิฉันคือวันอังคารหลังครม.เท่านั้น พอนายทักษิณ ออกไปพูดคุยก่อน ก็เป็นรอบที่ท่านได้พูดก่อน ก็ไม่เป็นไร เพราะประโยชน์อยู่ที่ประเทศถ้ามันเกิดขึ้นจริง และดิฉันไม่ได้กระทบอะไร ไม่ได้รู้สึกว่านายกฯสองคนสามคน แล้วต้องเสียใจหรืออะไร”
เมื่อถามอีกว่าเหมือนแบ่งบทกันให้พ่อเป็นฝ่ายบู๊ลูกเป็นฝ่ายประนีประนอม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณพูดหลายอย่างมันก็ไม่ได้เกิดขึ้น หลายอย่างต้องผ่านมติครม.มติพรรค นายทักษิณ เป็นคนมีวิสัยทัศน์คิดต่อยอดซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งอะไรเป็นวิสัยทัศน์ก็เป็นวิสัยทัศน์จะนำมาปฏิบัติหรือไม่อยู่ที่ฝ่ายบริหาร ต้องแยกว่าวิสัยทัศน์เป็นอย่างนั้นฝ่ายบริหารว่าอย่างไรต้องแยกภาพให้ชัด มันไม่ได้กระทบกันทั้งหมดถ้ากระทบเรื่องดีมันก็ดี
พรรคร่วมมีแต่น่ารักไม่มีใครดื้อ
เมื่อถามว่าวันนี้ยังไม่มีพรรคไหนดื้อหรือรัฐมนตรีคนไหนยังไม่ผ่านงานใช่หรือไม่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ที่ยืนอยู่ด้านหลัง น.ส.แพทองธารได้หันไปจับแขนนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย พร้อมกับถามว่า“ดื้อรึเปล่า”ก่อนที่นายอนุทินตอบว่า“มีแต่น่ารัก ไม่มีดื้อ”ทำให้น.ส.แพทองธาร ถึงกับหัวเราะและบอกว่า“ท่านบอกว่า มีแต่น่ารักไม่มีดื้อ สรุปนายกฯดื้อสุด”
‘สรวงศ์’ย้ำพรรคร่วมไร้ปัญหา
นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬาในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯระบุจะทำให้ราคาไฟฟ้าอยู่ที่3.70บาท จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)เกิดความรู้สึกอึดอัดในการทำงานร่วมกันหรือไม่ว่าสิ่งที่นายทักษิณพูดถือเป็นวิสัยทัศน์ เพราะท่านเองมีประสบการณ์ออกมาพูด เพราะอยากให้เป็นอย่างไร ส่วนวิธีการจะไปถึงจุดนั้นได้หรือไม่ เป็นหน้าที่ของนายกฯซึ่งนายกฯบอกแล้วว่าไม่ว่าใครจะพูดอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นผลพลอยได้ของประชาชนไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วและยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีปัญหาอะไรกัน ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี วันเดียวกันก็คุยกันดี เมื่อวันที่ 6 ม.ค.นายพีระพันธุ์ก็ไปตอบกระทู้สว.ชัดเจนว่านายกฯได้กำชับถึงสิ่งที่ต้องการให้ประชาชนมีรายจ่ายน้อยลง
โต้รัฐบาลรับลูก’ทักษิณ’ทุกอย่าง
เมื่อถามว่าตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้ใช่หรือไม่ว่านายทักษิณพูดแล้วรัฐบาลรับลูกต่อนายสรวงศ์กล่าวว่า“มันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะในบ้านเขาก็คุยกันในฐานะพ่อลูกซึ่งก็เป็นไปได้ที่นายทักษิณจะเอาไปพูดบ้าง มันไม่ใช่ว่านายทักษิณพูดอะไรแล้วรัฐบาลต้องทำตามทุกสิ่งทุกอย่าง มันไม่ใช่ ถือเป็นวิสัยทัศน์ของท่านเท่านั้น” เมื่อถามย้ำว่าแต่ไฮไลท์ควรจะอยู่ที่รัฐบาลหรือไม่เพราะตอนนี้จุดสนใจไปอยู่ที่นายทักษิณนายสรวงศ์ กล่าวว่า อยู่กับสื่อมวลชนว่าจะโฟกัสไปที่ไหน เพราะความจริงพวกเราทราบกันดีว่า ครม.ทำงานกันขนาดไหน และสิ่งที่เป็นประเด็นขณะนี้คือนายทักษิณไปช่วยปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียง ไปพูดบนเวที ความจริงมันไม่ได้มีอะไรเสียหายกับประเทศ เป็นวิสัยทัศน์ของอดีตนายกฯซึ่งเป็นพ่อของนายกฯเลยกลายเป็นว่านายทักษิณพูดอย่างนี้แล้วรัฐบาลต้องทำตาม จึงขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย เพราะพ่อลูกก็ปรึกษากันเป็นธรรมดา อยากให้โฟกัสการทำงานที่นายกฯ และครม.ชุดนี้
อิ๊งค์หาเสียงนครพนมอาทิตย์นี้
นายสรวงศ์เปิดเผยด้วยว่าในวันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค.นี้นายกฯจะลงพื้นที่ไปช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.นครพนม หาเสียง และนายทักษิณจะออนทัวร์ลงพื้นที่หาเสียงในพื้นที่ภาคอีสาน ช่วงวันที่ 18-25 ม.ค.นี้ โดยนายทักษิณจะได้ค่าจ้างในฐานะผู้ช่วยหาเสียง
หน.อิ๊งค์ลุยวันเดียว3เวทีรวด
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยมีรายงานว่า วันอาทิตย์ที่ 12 ม.ค.นี้ น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.นครพนม ซึ่งเป็นการลงในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วย นายอนุชิต หงษาดี ผู้สมัครนายก อบจ.ของพรรคเพื่อไทย หาเสียง 3 เวที เริ่มเวทีแรกตั้งแต่ เวลา 09.00 น.ที่สนามกีฬาเทศบาล ต.นาแก อ.นาแก เวทีที่ 2 เวลา 11.00 น.ที่ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม หนองญาติ และเวทีที่ 3 เวลา 12.00 น.ที่อาคารโดมเทศบาล ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม โดยมี นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคมในฐานะเจ้าของพื้นที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงร่วมด้วยจากนั้นอีก6วัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะมาหาเสียงสำทับต่อในวันที่ 18 ม.ค.
‘อนุทิน’รับควง‘เนวิน’อวยพร‘ทักษิณ’
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินสายอวยพรผู้หลักผู้ใหญ่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ว่าต้องทยอยไปสวัสดีปีใหม่ผู้ใหญ่ที่เราเคารพนับถือ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำเป็นปกติทุกปีอยู่แล้วตนไปอวยพรปีใหม่ทุกคน ไม่ใช่ท่านทักษิณคนเดียวรวมถึงอดีตผู้บังคับบัญชา ท่านองคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชาก็พยายามนัดเข้าไปกราบอวยพรปีใหม่อยู่ส่วนนายทักษิณได้ไปกราบอวยพรไปเจอมาแล้ว เมื่อวานนี้(6ม.ค.)พร้อมยืนยันไม่ได้พูดคุยเรื่องการเมืองและเรื่องการทำงาน ไปสวัสดีปีใหม่เพียงอย่างเดียวและไปกินบะหมี่ไม่ได้กินมาม่า ตอนนี้นายทักษิณมาอยู่ประเทศไทย เราก็อวยพรสวัสดีปีใหม่ท่านผู้ใหญ่ ซึ่งท่านไม่ได้ถามเรื่องสถานการณ์การเมืองปีนี้โดยท่านบอกว่านายกฯแพทองธารชมตนในเรื่องการทำงานว่าสนับสนุนนายกฯอย่างดี ซึ่งตนก็ฟังและยิ้ม
เมื่อถามอีกว่าได้พานายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ไปด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า”ก็ไปด้วยกัน” เมื่อถามอีกว่านายทักษิณกับนายเนวินได้คุยกันอย่างเเฮปปี้หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่านั่งกินข้าวกลางวันกัน ซึ่งตนกับนายเนวินก็เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายทักษิณ ตั้งแต่ปี 46 เมื่อถามอีกว่าความสัมพันธ์ดีอย่างนี้ภูมิใจไทยจะไม่ถูกเขี่ยออกจากครม.แน่นอนใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ ก่อนตอบว่า”ทำไมถามนำอย่างนี้ ทำอะไรผิดล่ะ ก็บอกแล้วไงว่าน่ารักอย่างนี้”
ฝ่ายค้านคาดยื่นซักฟอกรบช่วงก.พ.
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน)กล่าวถึงความคืบหน้าการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าอยู่ในกรอบที่จะยื่นช่วงกุมภาพันธ์ ส่วนการอภิปรายที่จะเกิดขึ้นจริงหลังการยื่นต้องไปเจรจากับวิปร่วมเพื่อกำหนดวันให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้ล็อควันที่จะมาชี้แจงซึ่งกรอบกว้างๆน่าจะอยู่ที่ราวปลายกุมภาพันธ์ หรือต้นมีนาคม หรืออาจจะขยับไปสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมีนาคมโดยจะไม่ช้าไปกว่านั้น ส่วนประเด็นอภิปรายจะเป็นเชิงนโยบายหรือพฤติกรรมของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงอย่างไรบ้าง นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จะมีหลายเรื่องทั้งระดับนโยบายหรือการบริหารราชการที่ล้มเหลวรวมไปถึงกรณีต่อการทุจริตคอรัปชั่น คิดว่าหลายเรื่องเคยรับฟังและเห็นจากข่าวว่าพรรคประชาชนได้ตรวจสอบมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเอื้อกลุ่มทุนผูกขาด การเอื้อตัวบุคคลบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เรื่องนโยบายที่ล้มเหลวเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ซึ่งทุกเรื่อง เราก็ตรวจสอบต่อเนื่องตลอดเวลาให้ได้เห็นอยู่แล้ว แต่อาจจะมีบางเรื่องที่ยังไม่เคยพูดและมีข้อมูลที่ได้มาจากทางหลังบ้านที่จะเห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้
โวมี‘ไม้เด็ด’เซอร์ไพรส์รัฐบาล
เมื่อถามถึงไม้เด็ดในการอภิปรายที่จะน็อครัฐบาลได้ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในทุกครั้งก็จะมีเรื่องที่สื่อให้ความสนใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว ทุกครั้งคงจะพอทราบอยู่ว่า ตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล มาจนถึงพรรคประชาชน จะมีไม้เด็ดที่เราไม่เปิดเผยก่อน บางครั้งก็ไม่ได้เปิดเผยกับคนในพรรคเสียด้วยซ้ำ มีเซอร์ไพรส์บางเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่ ยังไม่เคยมีใครรับรู้มาก่อน ซึ่งช่วงนี้อยู่ในช่วงเช็คความถูกต้องของข้อมูล ถ้าเป็นเรื่องจริงและมั่นใจว่าเป็นข้อมูลจริง ก็จะได้เห็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
หวังปชช.รับข้อมูลตรวจสอบรบ.
นายปกรณ์วุฒิ ยอมรับว่าตนผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาถึง4 ครั้ง การเป็นเสียงส่วนน้อยกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจคงจะหวังได้ยากที่การลงมติจะทำให้น็อครัฐมนตรีได้แต่ก็ไม่แน่เพราะพรรครัฐบาลนั้นง่อนแง่นกันอยู่ หากสมมติมีใครเปลี่ยนข้างขึ้นมาแล้วไปโหวตส่วนในญัตติอภิปรายก็ไม่แน่เหมือนกันแต่ทุกครั้งการน็อคกลางสภาของการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นน้อยมากเพราะโดยสภาวะไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อมูลเป็นหลักแต่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองและสถานการณ์ความร้าวฉานของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นหลัก แต่สิ่งที่เราต้องการจริงๆคือหวังว่าจะมีการโหวตไปตามเหตุผลและข้อมูล แต่ถ้าไม่ได้สิ่งที่เราหวังจริงๆคือให้ข้อมูลกับประชาชนรับทราบว่ารัฐบาลที่ทำงานอยู่มีข้อบกพร่องหรือข้อทุจริตใดๆที่ปกปิดเอาไว้บ้างและทำให้สังคมหันมาสนใจการเมือง และสนใจการใช้อำนาจตรวจสอบอำนาจบริหารของสภาฯ เป็นเรื่องที่สำคัญ
ย้ำนายกฯมาไม่กี่เดือนไม่ใช่ข้ออ้าง
เมื่อถามถึง มีข้อมูลเพียงพอหรือไม่ที่จะซักฟอกนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้3-4เดือน และเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่สังคมจับตาว่าพรรคประชาชนจะหยิบยกมาอภิปรายในครั้งนี้ด้วย และอาจถูกดักทางว่าเป็นคนนอกไม่เกี่ยวข้องนั้นนายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า เวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจจะอภิปรายเป็นรายบุคคลจะมีทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆและขอย้ำอีกรอบว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา แต่เป็นรัฐบาลที่ทำงานมาแล้ว1ปีกว่าๆหน้าตาเหมือนเดิม เปลี่ยนขยับนิดหน่อยแค่เพียงพรรคเดียว ดังนั้น 1 ปีกว่าควรต้องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีผลงานอะไรที่เป็นรูปธรรม ข้ออ้างที่ว่าเพิ่งมาเป็นนายกฯไม่กี่เดือน ไม่ใช่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผล
จ้องถล่มบิดเบือนเอื้อ‘ทักษิณ’
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของนายทักษิณจะมีหรือไม่นั้นคงไม่ใช่เป็นเรื่องของนายทักษิณโดยตรง อาจจะมีเรื่องพฤติกรรมของฝ่ายบริหารที่บิดเบือนกระบวนการยุติธรรมเพื่อเอื้อให้บุคคลบางกลุ่มซึ่งคนทั้งประเทศก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเรื่องอะไร
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ที่ประชาชนมองว่าพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลไม่เข้มข้น นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่กังวล และไม่คิดว่าเราตรวจสอบไม่เข้มข้น หลายเรื่องที่ได้ฟังในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นเรื่องที่เคยฟังมาโดยตลอด ถ้าไปถึงตอนนั้นแล้วบอกว่าตรวจสอบไม่เข้มข้น พูดเรื่องเดิมๆ ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นเต็มที่ตลอดเวลาเหมือนกัน ดังนั้น ไม่กังวล เชื่อมั่นและมั่นใจว่าเราทำงานตรวจสอบเต็มที่ตลอด อย่างเรื่องชั้น 14 เราอภิปรายไปตั้งแต่การอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา152รอบแรกก็โดนประท้วงหนัก นอกจากนั้นนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนก็ได้นำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการจนเป็นข่าวและเกิดความขัดแย้งกันในกรรมาธิการ เกิดการต่อว่ามีบรรยากาศที่ดุเด็ดพอสมควร
จองกฐินทุกพรรคร่วมฯย้ำชั้น14มีแน่
ประธานวิปฝ่ายค้านย้ำอีกว่าจึงได้ยืนยันว่าทำงานเต็มที่ไม่เคยออมมือใดๆทั้งสิ้น และการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่าเราทำการตรวจสอบเข้มข้นแน่นอน ยืนยันว่าเราเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานอยู่บนหลักเหตุผล เราอาจจะเห็นด้วยกับหลายเรื่องที่รัฐบาลเสนอมา รวมถึงร่างกฎหมายที่รัฐบาลส่งมาก็มีร่างของพรรคประชาชนที่เสนออยู่แล้ว จึงเห็นด้วยเพราะเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคประชาชน ดังนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปคัดค้านเสียทุกเรื่อง เรื่องไหนไม่ถูกต้องตรวจสอบเต็มที่ เมื่อถามว่าเปิดเผยได้หรือไม่ว่าจะมีรัฐมนตรีที่ถูกล็อกเป้าอภิปรายเกิน 10 คนหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจ แต่น่าจะเกือบครบทุกพรรคร่วมรัฐบาลแน่ๆ แต่จะมีบางพรรคที่เพิ่งเข้าร่วม ยังไม่แน่ใจ ต้องรอดู และย้ำว่าเรื่องชั้น 14 มีแน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี