หวั่นกดดันพม่า

กต.ขวางกมธ.เยี่ยม 4 ประมง

ผู้ช่วยรมต.กต.ฉะ “วิโรจน์” ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง “4 ลูกเรือประมงไทย” ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว หวั่นถูกเมียนมามอง กดดัน-แทรกแซง เตือนอย่าเอาชีวิตคนมาเป็นเรื่องการเมือง ด้านปธ.กมธ.ความมั่นคงฯ ’ข้องใจน้ำยารัฐบาลช่วย‘4ลูกเรือประมงไทย’มีหรือไม่ เตรียมเรียกหน่วยเกี่ยวข้องเกาะติดคืบหน้า3ปมร้อน 9 ม.ค.นี้

เมื่อวันที่ 7มกราคม 2568 นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร จะขอประธานสภาผู้แทนราษฎร อนุมัติการเดินทางไปศึกษา และตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีลูกเรือประมงไทย 4คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เมียนมา ว่า หาก นายวิโรจน์และกมธ.ทหารฯจะเดินทางไปในกรณีดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศคงไม่สามารถห้ามได้ แต่ก็จะต้องขออนุญาตผ่านช่องทางการทูต แต่การไปพบผู้คุมเรือนจำนั้น ก็ไม่มีอำนาจปล่อยตัว และอาจทำให้เมียนมามองว่า ไปกดดันและแทรกแซง ทำให้การแก้ปัญหายากขึ้น ดังนั้น จึงขอให้นายวิโรจน์ ควรใคร่ครวญดี ๆ นึกถึงผลที่ตามมาด้วย เพราะผู้ที่ถูกขังคือลูกเรือไทย ดังนั้น จึงอย่าเอาชีวิตคนมาเป็นเรื่องการเมือง

ด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีการช่วยเหลือ 4 ลูกเรือประมงไทยที่ถูกตัดสินจำคุกที่เมียนมาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเมียนมาที่รัฐบาลระบุว่าดีนั้น ขณะนี้เต็มไปด้วยคำถาม ทั้งนี้ตนมองว่ารัฐบาลไทยมีอำนาจต่อรอง แต่รัฐบาลขาดประสิทธิภาพ โดยตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุจนถึงการนำตัวคนไทยไปดำเนินคดีนั้น รัฐบาลไทยไม่ประท้วงใดๆ ส่วนที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ระบุว่ารัฐบาลไทยประท้วงแล้วนั้นถือเป็นการหลอกลวงประชาชน“ที่รัฐบาลบอกว่า 4 ลูกเรือไทยจะได้กลับเมื่อ 4 ม.ค. เป็นการสำคัญผิดในข้อมูลหรือไม่ หรือต้องการลดแรงเสียดทานจึงหลอกลวงประชาชน ทั้งนี้ในวันที่ 9 กมธ. กมธ.มั่นคงจะพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆ” นายรังสิมันต์ กล่าว นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า

ทั้งนี้ ในการประชุม กมธ.ฯวันที่ 9 ม.ค.นอกจากจะพิจารณากรณีการติดตามปัญหาลูกเรือประมงไทยแล้ว ยังจะพิจารณาติดตามปัญหาการตั้งฐานทัพว้าที่ล้ำแดนไทย และ การแก้ปัญหาเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และธุรกิจสแกมเมอร์ตามชายแดนด้วย วันที่ 10มกราคมนี้ เดิมกมธ.ฯได้นัดพบผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่กองบัญชาการกองทัพบกแต่ ผบ.ทบ.ไม่พร้อมดังนั้นต้องหาวันอีกรอบ โดยกมธ.ฯต้องการพบโดยเร็ว เพราะมีเรื่องต้องหารือหลายเรื่อง อีกทั้งมีหลายปัญหาต้องหาทางแก้ไข ซึ่งยอมรับว่าหลายเรื่อง กมธ.ไม่สามารถทำได้ด้วยตนเองต้องคุยกับหน่วยงานมั่นคงเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมืองต่อไป โดยไม่สามารถพึ่งพารัฐบาลได้อย่างเต็มที่