‘ชวน’สะบัดมีดโกนกรีด‘ทักษิณ’เลือดสาด
‘ผมคนรุ่นที่ไม่โกง’
เป็นสส.ไม่ได้หวังผลเพื่อธุรกิจ
อัดทำไม่ดีบ้านเมืองจะมีปัญหา
คปท.นัด11ม.ค.ไป‘แพทยสภา’
ทวงถามความจริงเทวดาชั้น14
ผมคนรุ่นเก่าที่ไม่โกง!“ชวน”สะบัด มีดโกนกรีดกลับ“ทักษิณ”ลามเย้ยแซะคนตกยุคผูกปีแค้นแพ้เลือกตั้งยันไม่ได้อาฆาตแค้น“แม้ว”ลั่นเล่นการเมืองไม่ได้หวังปกป้องธุรกิจหรือเอาประโยชน์ให้ครอบครัวย้อนเคย
ทำนาย”ทำประเทศเป็นธุรกิจ ระวังไม่มีแผ่นดินอยู่”ก็เป็นจริงย้ำทำไม่ดีกับบ้านเมืองจะมีปัญหา‘จตุพร’ซัด‘ทักษิณ’พูดมากอยากดัน‘เพื่อไทย’ยิ่งใหญ่เท่า‘ทรท.’ย้อนจะถูกยึดอำนาจปิดฉากซ้ำอีกลั่น‘โรงละครลวงโลก’จวนจบ ด้าน‘สมชัย’อดีตกกต.ซัดปากพาจน‘ผู้ช่วย’หาเสียง‘ก้ำกึ่ง’ผิดกม.ชี้โม้ก็ผิด ไม่โม้ทำได้จริงก็ผิด‘คปท.’นัด11ม.ค.เตรียมรองเท้าผ้าใบ!ไป‘แพทยสภา’ส่งเสียงดังๆถึงเวลาทวงถามความจริงเทวดาชั้น14
เมื่อวันที่ 9มกราคม2568 ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) อดีตประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทยพูดพาดพิงในการปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงราย ที่ จ.เชียงรายว่ามีอยู่คนหนึ่งหาว่าเราสร้างความวุ่นวาย ตั้งแต่แพ้การเลือกตั้งเมื่อปี 2544 ก็แค้นจนถึงทุกวันนี้เขตเลือกตั้งมี 450 คน เลือกเขาแค่ 47 คน แก่แล้วยังลงเลือกตั้งอยู่ว่าตนแก่แล้วแต่ยังเป็นผู้แทนฯอยู่ และเป็น สส.มา17 สมัย เป็นผู้แทนตั้งแต่สมัยบิดานายทักษิณ และเป็นต่อเนื่องมาทุกสมัยจนถึงปัจจุบันไม่ได้เข้ามาเพื่อธุรกิจ สมัยที่ตัดสินใจเลือกมาเป็นผู้แทน มีทางเลือกว่าจะเป็นผู้พิพากษาหรืออัยการหรือไม่ซึ่งในเพื่อนรุ่นเดียวกันเกือบทั้งหมดเป็นผู้พิพากษา อัยการ ประธานศาล องคมนตรี มีตนเองเพียงคนเดียวที่ตั้งใจเป็นนักการเมือง เพื่อจะได้ทำงานเป็นปากเสียงให้ประชาชน
‘ชวน’กรีด‘ทักษิณ’เลือดสาด
“ดังนั้นการเข้าการเมืองจึงไม่ได้หวังผลเพื่อดูแลธุรกิจ เพราะไม่ได้มีธุรกิจที่จะต้องปกป้องหรือเอาประโยชน์ให้ครอบครัวเมื่อผมเป็นผู้แทนมาต่อเนื่อง ความคิดว่าอายุมากแล้วให้เลิก ไม่ได้คิด คิดแค่ว่ายังทำงานได้อยู่ ถ้าผมทำธุรกิจแล้วได้กำไรแล้วเลิกนั้นก็เรื่องหนึ่ง แต่นี่อายุมากแล้วยังทำงานได้อยู่”นายชวน ย้ำ
พร้อมระบุว่า“ในสภานี้คนที่อายุมากที่สุดไม่ใช่ผม คนที่อายุมากที่สุดคือพล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและรองมาคือ นายไพโรจน์ โล่สุนทร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพทั้งคู่ ท่านอาจไม่ได้ทำงานเท่าผม แต่เป็นผู้ใหญ่ที่อายุมากแล้วยังสมัครอยู่ ผมก็อยากจะบอกว่ามีคนอีกสองคนซึ่งอยู่ในพรรคของท่านอายุมากกว่าผม แต่คนเหล่านั้นก็ทำประโยชน์ให้บ้านเมือง”นายชวนระบุ
ลั่นเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง
นายชวนกล่าวอีกว่าอยู่เป็นผู้แทนก็มีประโยชน์ตรงที่บางเรื่องคนรุ่นใหม่ไม่ทราบ นายทักษิณก็บอกว่าเขาคือนักการเมืองรุ่นใหม่ แต่ตนเองเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง ไม่ซื้อเสียง ยึดมั่นหลักระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและระบบรัฐสภา ซื่อสัตย์สุจริต ยึดถือหลักกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างที่ให้สัมภาษณ์ไป ไม่เคยอาฆาตแค้นนายทักษิณ เคยพูดครั้งหนึ่งว่าถ้านายทักษิณทำประเทศเหมือนธุรกิจตัวเอง ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ เคยพูดเมื่อ 17-18 ปีที่แล้วก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แน่นอนที่สุดใครก็ตามทำอะไรไม่ถูกต้องกับบ้านเมืองจะมีปัญหา
ยืนยันว่ายังอยู่ ยังทำหน้าที่ปกติ
นอกจากนี้ นายชวนกล่าวด้วยว่าขอยืนยันว่ายังอยู่ ยังทำหน้าที่ปกติ ยังพอมีความจำอยู่ ยังไม่ถึงขั้นความจำเลอะเลือนหรือจำอดีตไม่ได้ อาจไม่ปราดเปรื่องเหมือนคนรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่รู้ในอดีตยังจำได้เช่นเรื่องภาคใต้ บางเรื่องกองทัพไม่มีข้อมูล ถ้าอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายใช้วิธีจัดการให้ได้เดือนละ 10 คนก็ให้ไปถามพล.ท.เรวัตรรัตนผ่องใส อดีตรองแม่ทัพภาคที่ 4 เป็นคนเดียวที่บอกว่าเป็นเรื่องแบ่งแยกดินแดนทำได้ยาก วันนี้ พล.ท.เรวัตรไม่มีโอกาสได้เป็นแม่ทัพภาค ทหารควรยกย่องคนเช่นนี้เป็นวีรบุรุษ เพราะกล้าคัดค้านสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
‘ตู่’ซัด‘แม้ว’ชูดันพท.ยิ่งใหญ่เท่าทรท.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์เมื่อวันที่ 8 ม.ค.68 ว่า นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษคดีทุจริตคอรร์รัปชั่นถูกศาลตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิต ประกาศสร้างพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ใหญ่เหมือนสมัยพรรคไทยรักไทย(ทรท.)เมื่อปี 2544-2549 แต่ปัญหาคือจะนำบ้านเมืองเดินไปสู่การถูกล้มกระดานประชาธิปไตยอีกครั้งหรือไม่ทั้งนี้ เพราะพรรคเพื่อไทย ถูกสังคมครหาการใช้งบประมาณแผ่นดินแจกเงินหมื่นเพื่อประโยชน์คะแนนเสียงที่จะเลือกตั้งนายก อบจ.1ก.พ.ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องอธิบายสังคมให้ชัดว่าการแจกเงินหมื่นเฟส 2 ไม่เกี่ยวกับประโยชน์คะแนนเสียงที่จะได้รับอีกทั้งเงินหมื่นมาจากงบประมาณขาดดุลและต้องกู้มาชดเชยให้สมดุลจึงทำให้ทุกคนเป็นหนี้ แต่นักการเมืองได้ประโยชน์จากคะแนนเสียงเลือกตั้ง แล้วยังจะมีโครงการบ้านเพื่อคนไทย ที่เลียนแบบบ้านเอื้ออาทรในยุคพรรคเพื่อไทยเช่นกันแต่เกิดการทุจริตถูกศาลพิพากษาจำคุกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบ
ดักคอจะถูกยึดอำนาจปิดฉากซ้ำอีก
“ในสมัยทรท.ยุคทักษิณ อ้างเป็นพรรคยิ่งใหญ่ กลับทำให้สภาอ่อนแอ โดยดึงพรรคเล็กพรรคน้อยมาควบรวมทำให้เสียงฝ่ายค้านในสภาไม่สามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีในกรณีทุจริตจึงเป็นแรงเหวี่ยงเกิดการชุมนุมบนถนนไล่รัฐบาลและนำไปสู่การยึดอำนาจปิดฉาก ทรท. ดังนั้น ถ้าทักษิณอยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมายิ่งใหญ่แล้ว โอกาสเสี่ยงนำพาให้ประชาธิปไตยถูกปิดฉากเหมือนเดิมอีกเช่นกันหรือไม่”นายจตุพรย้ำและว่า“คุณทักษิณ ผมไม่ทราบว่าคนไทยเป็นหนี้อะไรพวกคุณนักหนา วันนี้เราจึงต้องวิพากษ์วิจารณ์เพราะหลายเรื่องมันชักจะมากไปที่พยายามพาประเทศไปสู่จุดจบเหมือนเดิมเพราะการขยับทำเรื่องบ่อน เรื่องMOU44ที่ต้องการแบ่งผลประโยชน์พลังงาน และเรื่องอื่นๆนั้น เมื่อคนทนไม่ไหวก็ลงถนนมาไล่คุณอีก”
ลั่น‘โรงละครลวงโลก’จวนจบ
นายจตุพรกล่าวว่าเมื่อประชาชนถูกหลอกกันทุกฝ่าย แต่สถานการณ์ข้างหน้ารอกันไม่ได้เพราะการแก้ไขเรื่องพลังงานภายใต้ทุกผูกขาดและการเมืองแบบนี้ ย่อมเล่นละครกันไป แต่แก้ไขไม่ได้ ส่วนประชาชนกลายเป็นเหยื่อถูกหลอกกันซ้ำซากมาต่อเนื่อง
“ถ้าประชาชนไม่ติดตามละครการเมืองกันทุกเรื่องแล้ว จะถูก ทักษิณ เสือกหลอกกันทุกเรื่องเพื่อเอาประโยชน์ให้กลุ่มทุน ทั้งกรณีตั้งบ่อนซ่อนพนันออนไลน์มอมเมาคนไทย อย่างไรก็ตาม สักวันหนึ่งเมื่อทักษิณไป แต่ประเทศยังอยู่จะทำกันอย่างไร ดังนั้น คนรุ่นนี้ต้องทำในสิ่งที่ดี หรือจะทำอัปรีย์ไว้ให้คนรุ่นลูกหลาน”
ประเทศจะเต็มไปด้วยปัญหา
นายจตุพรเชื่อว่าถัดจากนี้ไปประเทศจะเต็มไปด้วยปัญหา ยิ่งขณะนี้ประเทศมีปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างรุนแรง โรงงานปิดคนตกงานมากขึ้น สินค้าแพงแต่แรงงานถูก ราคาผลผลิตโดยส่วนใหญ่ตกต่ำ ดังนั้นชะตากรรมของประเทศจึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของนายทักษิณ ที่โหมอ้างชวนเชื่อกันอยู่ ความสำเร็จเพียงอย่างเดียวจะมาอ้างสำเร็จทุกอย่างไม่ได้ เมื่อคำพูดได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ไม่รับผิดชอบคำมั่นสัญญากับประชาชน ค่าน้ำมัน ค่าแก๊ส ค่าไฟฟ้าเป็นตัวอย่างการลวงโลกได้เป็นอย่างดี เพราะเคยประกาศหาเสียงจะลดลงทันที แต่เป็นรัฐบาลเมื่อ 2566 ถึงบัดนี้นโยบายที่ประกาศทันทียังไม่บังเกิดอะไรทั้งสิ้น
“ถ้าไล่เรียงทุกเรื่องตั้งแต่ทักษิณขออนุญาตกลับไทยมาเลี้ยงหลานแต่จนถึงขณะนี้ไม่ได้เป็นไปตามพูด เอาแต่อ้างสทร. เสือกทุกเรื่อง เดินสายปากไวหาเสียง ดังนั้นขอให้คิดกันดีๆอีกไม่นานประเทศนี้ใครจะยอมให้ปู้ยี่ปู้ยำนำพาไปสู่ความเสียหายชนิดกลับหลังหันไม่ได้ ผมเชื่อคนมีหน้าที่และคนรักชาติบ้านเมือง ไม่มีใครยอม และสถานการณ์ดูเหมือนกำลังใกล้จบกันเต็มทีแล้ว”นายจตุพร กล่าว
‘สมชัย’ซัด‘ผู้ช่วย’หาเสียงปากพาจน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์เฟซบุ๊ก“ปั่นไปไหน - สมชัย ศรีสุทธิยากร” แสดงความคิดเห็นกรณี นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุการหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ก้ำกึ่งผิดกฎหมาย ว่า..ปากพาจนผู้ช่วยหาเสียงผู้สมัครนายก อบจ. ที่ถนัดปราศรัยด้วยถ้อยคำและลีลาที่ดุเดือดจนสื่อมวลชนต้องติดตามทำข่าวอย่างใกล้ชิดตลอด อาจกำลังเกิดปัญหาว่า จะทำผิด กม.เลือกตั้งหรือไม่เมื่อวันนี้ ประธาน กกต. ให้สัมภาษณ์ว่า “ก้ำกึ่ง” และให้สำนักงานติดตามอยู่
“การโม้ว่า สั่งโน่น สั่งนี่ได้ หากทำไม่ได้ หรือ ไม่มีศักยภาพที่จะทำได้จริง ก็เข้าข่ายหลอกลวงให้ได้มาซึ่งคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง ผิด กม.เลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 65(5) โทษอาญา และใบเหลืองหรือใบแดงหากบอกว่า ไม่ได้โม้ แปลว่าทำได้จริง ในการสั่งรัฐมนตรี สั่ง ครม. ชี้นำได้ ก็มีโทษครอบงำพรรค ผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง มาตรา 28 และ 29 มีโทษอาญา และ ยุบพรรคโม้ก็ผิด ไม่โม้ทำได้จริงก็ผิด เลือกเอาอย่างนึงครับ”นายสมชัยระบุ
คปท.นัด11ม.ค.ไป‘แพทยสภา’
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กPichitChaimongkolหัวข้อ “แพทยสภา” มีเนื้อหาดังนี้...แพทยสภา มีหนังสือไปตามเอกสารทางการแพทย์ในการรักษาตัวการป่วยทิพย์ของเทวดาชั้น 14 ว่าให้ส่งเอกสารทางการแพทย์มายังแพทยสภาภายในวันที่ 15 ม.ค.68 ป.ป.ช.เดินหน้า แพทยสภาเดินหน้า
ประชาชนก็ต้องเดินเคียงข้างให้ความจริงปรากฏวันเสาร์ที่ 11 มกราคม 2568 เชิญชวนพี่น้องมาส่งเสียงให้ดังๆถึงแพทยสภาว่า “ถึงเวลาที่แพทย์ต้องรักษาความยุติธรรม”เพื่อให้แพทยสภา เดินหน้ารักษาความจริงของนิติรัฐเมืองไทย นิติรัฐ ของไทยป่วยหนัก ถึงเวลาฉีดยาความจริงให้ประเทศ เพื่อรักษาไว้ซึ่ง นิติธรรม ใส่รองเท้าผ้าใบ มาเจอกันครับ
ศาลฯแจงปมสั่งไต่สวน‘กรมคุก’
ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีปรากฏเพจเฟซบุ๊คข่าวออนไลน์เเห่งหนึ่งได้ลงข้อความข่าวในเพจมีข้อความว่า ประธานศาลฎีกาสั่งไต่สวนปม’ทักษิณ’ เหตุพบราชทัณฑ์ผิดกฎกระทรวงโดยอ้างว่าก่อนสิ้นปี 2567มีคำสั่งจากนางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกาเมื่อ 30 ธันวาคม2567ให้มี #การไต่สวนกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ประเด็นการดำเนินตามกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องชี้ว่ากรมราชทัณฑ์ อาจดำเนินการผิดขั้นตอนตามกฎหมาย ซึ่งในการปฏิบัติที่ขัดกับมาตรฐานการคุมขังรวมถึงการอ้างและเพจดังกล่าวยังมีการระบุว่าศาลกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมและเตรียมเปิดกระบวนการพิจารณาอย่างโปร่งใสนั้น
สำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกเอกสารเพรสข่าวชี้แจงกรณีสื่อสังคมออนไลน์อ้างประธานศาลฎีกาสั่งไต่สวนการปฏิบัติตามกฎกระทรวงการคุมขัง ความว่าตามที่ปรากฏข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ทำนองว่าประธานศาลฎีกา มีคำสั่งให้ไต่สวนกรณีการปฏิบัติตามกฎกระทรวงของกรมราชทัณฑ์ ที่อาจดำเนินการผิดขั้นตอนและมาตรฐานการคุมขังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรมตรวจสอบแล้วปรากฏว่าข้อมูลที่อ้างไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นายกฯ’นำคณะตรวจราชการภูเก็ต
วันเดียวกัน ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงคมนาคม ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางจากไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ตำบลไม้ขาว อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจราชการ จ.ภูเก็ต โดยระหว่างอยู่บนเครื่องบิน น.ส.แพทองธาร และคณะได้หารือเตรียมข้อมูลก่อนลงพื้นที่
จากนั้นที่ห้องประชุมท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ต.ไม้ขาว อ.ถลาง นายกฯเป็นประธานการประชุม บูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่ภูเก็ต รองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว แนวทางการแก้ปัญหาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน และการผลักดันภูเก็ตเป็น Premium Destination และการรองรับกิจกรรมขนาดใหญ่ (Big Event) โดยนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสรุป
โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่าวันนี้มาติดตามงาน ปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทย 35 ล้านคน ก่อนช่วงโควิดมีนักท่องเที่ยวเกือบ 40 ล้านคน ถือว่าใกล้เคียงแล้ว และ 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างมาที่ภูเก็ต ซึ่งในส่วนของภูเก็ตนั้นปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวมากกว่าช่วงก่อนโควิดแล้ว ถือว่ามีการปรับตัวที่ดี ก็อยากให้โฟกัสเรื่องพรีเมียมการท่องเที่ยว เราอยากสนับสนุนชาวบ้านที่ค้าขายหรือมีธุรกิจส่วนตัว อย่างโบลท์แท็กซี่ หากเอกชนเข้ามาช่วย และรัฐบาลสนับสนุน ก็จะเกิดธุรกิจขนาดใหญ่กลายเป็นธุรกิจหลักได้อีกอันหนึ่ง
สั่งเร่งสร้างถนนเส้นทางสายหลัก
สำหรับการเดินทางในพื้นที่ภูเก็ตที่กระทรวงคมนาคมมีแผนงานและอนุมัติงบประมาณไปแล้วขอสั่งการให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ ในส่วนของถนนเส้นหลักสาย 402ที่ระบุว่าระยะทาง 25 กม.มีจุดตัดถึง 19 จุด ถ้าปรับปรุงก็อยากให้สื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องส่วนรวมหากปรับแล้วการจราจรดีขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวมาก็จะแฮปปี้และอยู่นานขึ้นรวมไปถึงระบบขนส่งสาธารณะจากสนามบินเข้าเมือง ก็ต้องสื่อสารว่าเมื่อเราปรับตรงนี้ไม่ได้ทำลายอาชีพของใคร แต่เป็นการปรับตัวให้เกิดอาชีพใหม่
ส่วนที่เสนอว่าอยากให้มีรถอีวีบัสเข้ามานั้นก็อยากให้ศึกษาและทำความเข้าใจ เพราะไม่ได้หมายความว่าเมื่อเพิ่มตรงนี้แล้วประชาชนที่มีรถส่วนตัวจะเลิกใช้รถ อยากให้พิจารณาให้รอบครอบ
ดึงน้ำจากสุราษฎร์ฯมาใช้ภูเก็ต
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า สำหรับเรื่องบริหารจัดการน้ำอยากเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าโครงการใดได้รับอนุมัติงบประมาณแล้วก็ขอให้เร่งดำเนินการและฝากกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้ศึกษาการนำน้ำมาจาก เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานีและโครงการอ่างเก็บน้ำลำรูใหญ่ จ.พังงา มาใช้ในภูเก็ตด้วย สำหรับการท่องเที่ยวเราเน้นย้ำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางของเฟสติวัลขนาดใหญ่ซึ่งตำรวจท่องเที่ยวเรารู้ว่าดูแลประชาชนอย่างดีอยู่แล้ว แต่อยากให้มีการประชุมเฉพาะส่วนกันอีกครั้งเพื่อดูว่ามีอะไรที่ส่วนกลางสามารถสนับสนุนเพิ่มเติมได้ เพราะอยากรับฟังความคิดเห็นและรีเซ็ตระบบใหม่ว่าอะไรที่ใช้มาแล้วต้องปรับเปลี่ยนบ้าง อย่างเช่นการพัฒนาบุคลากร และการนำระบบเอไอมาช่วยงานเพิ่มขึ้น เพราะรายได้ของเราอยู่ที่การท่องเที่ยว เราต้องดูแลตรงนี้
ย้ำปราบผู้มีอิทธิพลให้ปชช.ปลอดภัย
ในส่วนของการปราบผู้มีอิทธิพล เรื่องนี้สำคัญมากสิ่งผิดกฎหมายที่เกิดขึ้น อยากให้ตำรวจโฟกัสอย่างจริงจังไม่อยากให้ประชาชนรู้สึกไม่ปลอดภัยและไปพูดว่าคนมีเงินคนมีอิทธิพลพอมีปัญหาทุกอย่างก็จบประชาชนไม่ได้รับการดูแล ผู้ที่ไม่มีอิทธิพลถูกไล่บี้โดนต่างๆ นานา เรื่องนี้เป็นปัญหาต่อชีวิตประชาชน ตนอยากเน้นย้ำเรื่องกฎหมายให้ใช้อย่างเด็ดขาด ไม่อยากให้ละเว้น ถ้าเราเอากฎหมายมาใช้อย่างจริงจังประชาชนปลอดภัยและประเทศชาติมีระเบียบยิ่งขึ้น
ลุยงตรวจอ่างเก็บน้ำฝีมือ’ทักษิณ’
จากนั้นนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจติดตามการป้องกัน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ที่อ่างเก็บน้ำบางเหนียวดำ ต.ศรีสุนทร อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ทันทีที่เดินทางมาถึงได้พบปะทักทายประชาชนที่นำดอกกุหลาบแดงมารอต้อนรับ
จากนั้นนายกฯรับฟังการบรรยายจากนายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีกรมชลประทานรายงานการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำและแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บกักน้ำของจ.ภูเก็ตจำนวน 3 อ่าง คือ อ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ อ่างเก็บน้ำบางวาดและโครงการอ่างเก็บน้ำคลองกะทะ ทั้งนี้ อ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ เป็นอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นในสมัยที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ เมื่อปี 2546 ใช้งบประมาณจำนวน 600 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอ่างเก็บน้ำทั้ง 3 อ่าง ได้เก็บน้ำเต็มประสิทธิภาพทั้งหมดแล้ว และ จ.ภูเก็ตไม่สามารถสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มได้อีก เมื่อเกิดเหตุน้ำแล้ง จะต้องมีการดึงน้ำจากอ่างเก็บน้ำลำรูใหญ่ จ.พังงา และเขื่อนรัชประภา จ.สุราษฎร์ธานีพร้อมให้แนวทางจัดหาที่เพิ่มพื้นที่เก็บน้ำให้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี