"ภูมิธรรม" ร่วมงานวันเด็ก ทอ.ชม สมรรถภาพเครื่องบินรบ ไฟเขียว กองทัพอากาศเลือกกริพเพนฝูงใหม่
วันที่ 11 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ฝูงบิน 601 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เยี่ยมชม กิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ของกองทัพอากาศ พร้อมทั้งร่วมรับชมการแสดงภาคอากาศ และกิจกรรมต่างๆ ของกองทัพอากาศ
โดยมี พลอากาศเอก พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ
นายภูมิธรรม ตรวจเยี่ยมพื้นที่จัดแสดงจุดจอดเครื่องบินขับไล่ และเครื่องบินลำเลียง (Static show)- เครื่องบินขับไล่ประกอบด้วย F-16, Gripen, F-5 (ALPHA JET) เครื่องบินลำเลียงประกอบด้วย C-130, AIRBUS และ ATR.
ก่อนแจกของรางวัล ให้กับน้องๆ และเยาวชนที่เข้ามาร่วมงาน พร้อมกับร่วมแจกรางวัลและถ่ายรูปร่วมกับน้องๆ เยาวชนในบริเวณฯ ดังกล่าว
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ร่วมทอดไข่เจียวกับน้องๆ เยาวชน พร้อมกับดูการแสดงสาธิตการแสดงการบินของเครื่องบินกริบเพน (Gripen)
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่าการเรียนรู้ของเด็ก เรียนรู้ได้ทุกอย่างรอบตัว เหมือนคำขวัญของท่านนายกรัฐมนตรี ที่ว่า “การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แล้วจะทำให้เราสามารถรับรู้โลกต่างๆได้รอบด้านขึ้น” เพราะฉะนั้นการตัดสินใจในอนาคตตัวเองเด็กๆจะได้ดูในรอบด้าน ในการช่วยตัดสินใจ
ซึ่งในวันนี้กองทัพอากาศ ก็เป็นหน่วยงานหนึ่ง ที่เปิดให้เรียนรู้ในเรื่องของการบิน เครื่องบินและสมรรถนะของเครื่องบิน ว่านักบินมีการฝึกฝนกันมาอย่างไร ซึ่งในวันนี้เป็นการแสดงบินโชว์ให้เห็นถึงสมรรถนะของเครื่องบิน และตัวนักบิน ขับไล่ของกองทัพอากาศ ว่าสามารถขับเคลื่อนและบังคับได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในส่วนของสนามจริงหรือสนามรบ ก็ต้องใช้เทคนิคและความสามารถของนักบิน ซึ่งในวันนี้ เราให้เด็กๆได้เรียนรู้ว่าอาวุธยุทโธปกรณ์ ของกองทัพอากาศไทยมีอะไร ที่สามารถปกป้องอธิปไตยของชาติได้ และได้เรียนรู้ในสมรรถนะของเครื่องบินกริพเพน ซึ่งกองทัพอากาศ กำลังจะเลือกแบบของเครื่องบินขับไล่กริพเพน มาประจำไว้อีก 1 ฝูงบิน
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศ นั้นมี 2 แบบคือฝูงบิน กริพเพน และ ฝูงบิน เอฟ-16 ซึ่งการหามาเพิ่มเติมนั้น ทางเราก็อยากให้มีทั้งสองส่วน เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในวันนี้ตนได้เห็นสมรรถนะการบินของทั้งสองแบบแล้ว
“ผมได้ให้ทางกองทัพอากาศได้คัดเลือกแบบเครื่องบินขับไล่ที่จะนำเข้ามาเพิ่มเติมในกองทัพอากาศ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งเครื่องบินขับไล่แบบกริพเพน นั้นทางบริษัทที่จัดขายให้เราสามารถ มีสิ่งใดที่จะให้กองทัพอากาศได้บ้าง เช่น ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านต่างๆ เป็นต้น ผมคิดว่าภายในปี 68 นี้ น่าจะจบเรียบร้อย ซึ่งขณะนี้เราก็ต้องการเพิ่มสมรรถนะให้กับกองทัพอากาศได้อีก 1 ฝูงบิน”นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่าได้ดูสมรรถนะเครื่องบินขับไล่กริบเพน ในการแสดงโชว์ในครั้งนี้แล้วมั่นใจในการตัดสินใจของกองทัพอากาศหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเครื่องบินขับไล่ที่สามารถ ทำได้เหมือนเครื่องบินรุ่นอื่นๆ ที่เรามีซึ่งเมื่อสักครู่ตนไม่ถามกับนักบินขับไล่กริบเพน ซึ่งได้รับคำตอบว่าได้บินมาทั้งสองแบบซึ่งสมรรถนะทั้งสองส่วนนี้ใกล้เคียงกัน การใช้ทักษะในการบิน ก็ใกล้เคียงกันซึ่งกริบเพนก็มีสมรรถนะสำคัญส่วนหนึ่งส่วนเอฟ 16 ก็เป็นเครื่องที่เราเคยใช้มาแล้ว ขณะนี้ตนก็ให้ทางกองทัพอากาศได้เป็นคนคัดเลือกแบบ และเสนอแนะมา เพราะว่าผู้ใช้ควรจะเป็นคนที่ดู ว่าเครื่องบินรบแบบไหนเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด
เมื่อถามว่าในขั้นตอนสุดท้ายในการ อนุมัติผ่านทางรมว.กลาโหม จะต้องเป็นคนเซ็นอนุมัติ มั่นใจในสมรรถนะในเครื่องกริบเพนหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมั่นใจในกองทัพ เพียงแต่ขอดูรายละเอียดว่า ว่าสิ่งที่ได้มาและส่วนต่างๆที่จะได้ความมั่นใจในสมรรถนะต่างๆถ้าผู้ชายรู้สึกมั่นใจราคาไม่เกินที่เรามีและสมเหตุสมผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆตนก็ได้หารือกับผู้บัญชาการทหารอากาศอยู่เรื่อยเรื่อยและได้รายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะ
"ส่วนเอฟ 16 ผมได้พูดคุยกับทางทูตสหรัฐฯ แล้วก็ได้อธิบายในนโยบายของเราให้ทางทูตสหรัฐฯ ได้เข้าใจว่าทางเราจะไม่มีนโยบายที่จะกู้เงินเพื่อไปซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ เราพยายามใช้เงินที่มีอยู่ ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผมก็มั่นใจว่าจะตัดสินใจได้ในเร็ววันนี้" นายภูมิธรรม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี