ม็อบคปท.เปิดเวทีถล่มไม่ยั้ง
หยุดระบอบชินวัตร!
กางแผนเขย่าแม้วทั้งเดือน
นัดบุกทำเนียบฯทุกอังคาร
พร้อมดาวกระจายกดดัน
ลุยเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น14
คปท.เปิดเวทีดุเดือด ประกาศหยุดระบอบชินวัตร “พิชิต ชัยมงคล” เปิดแผนเขย่าทักษิณ“ลุยเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น 14” ประกาศชุมนุมเสาร์เว้นเสาร์ตลอดเดือน ไล่บี้ทวงความคืบหน้า สตช. 13 มกราคม ส่งหนังสือ ขอหลักฐานเวชระเบียน-หนังสือแจ้งอาการป่วย“ทักษิณ” ครบเส้นตาย 15 มกราคมนี้ หากยังนิ่งไร้คำตอบ จ่อบุกทำเนียบฯทุกอังคาร ลั่นอย่าให้มวยล้มต้มคนดู นำความจริงมาปรากฏกับสังคม พร้อมเตรียมเดินเท้า
ดาวกระจายกดดันกระบวนการยุติธรรม
เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2568 นายวรชัย เหมะ อดีตสส.สมุทรปราการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำนองว่า ตัวเองเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าที่ไม่โกง และทุกอย่างที่ให้สัมภาษณ์ไม่เคยอาฆาตนายทักษิณ เคยพูดว่านายทักษิณทำประเทศเหมือนธุรกิจ ทำอะไรไม่ถูกต้อง ระวังไม่มีแผ่นดินจะอยู่ ซึ่งพูดไปเมื่อ 17-18 ปีที่แล้ว ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นนั้น
โดยนายวรชัยกล่าวว่า เรื่องนี้นายชวน ต้องกลับมาดูตัวเองว่าเมื่อก่อนนายชวนนำพรรคประชาธิปัตย์อย่างไร แล้ววันนี้ในพรรคประชาธิปัตย์ นายชวนมีพวกกี่คน แสดงให้เห็นว่านายชวน ที่เคยบอกว่าต้องมีคนคอยปิดทองให้ แต่พฤติกรรมที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า เป็นทองเก๊ วันนี้ได้หายละลายจนดำไปหมดแล้ว เพราะพรรคตัวเองวันนี้คนยังไม่ให้ความเคารพและเชื่อถือแล้วจะไปว่าคนอื่นได้อย่างไร
“ที่สำคัญที่บอกว่าไม่โกง นายชวน ควรหันไปดูคนในครอบครัว ที่มีเรื่องมีราวคาอยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ว่าทำตัวดีหรือไม่ ดังนั้น การออกมาพูดแบบนี้ไม่ละอายใจบ้างหรือที่คนในบ้านเป็นแบบนั้นแล้วไปว่าคนอื่น นายชวน ไม่ควรออกมาพูดเช่นนี้หากคนในบ้านตัวเองยังมีเรื่องด่างพร้อย ยังกวาดไม่สะอาดให้คนเขาว่าตามหลังได้”นายวรชัย กล่าวย้ำ
‘เจ๊เจี๊ยบ’อ้วกรูป’แม้ว-พิธา’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดกระแสถูกจับตาทางการเมืองกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลไปร่วมเป็นประธานงานเลี้ยงฉลองแต่งงานระหว่าง น.ส.วรภัสสรณ์ นิยะโมสถ สส. ลำปาง พรรคประชาชน และ นายธนาธร โล่ห์สุนทร สส.ลำปาง พรรคเพื่อไทยที่โรงแรมอัศวินแกรนด์คอนเวนชั่นโดยมีภาพทั้งคู่พบทักมายและจับมือกันสร้างบรรยากาศภายในงานอย่างชื่นมื่นนั้น
นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.ก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก”Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ระบุว่า “เห็นแค่ภาพร่วมเฟรมยังรู้สึกอยากอาเจียนเลย ขอบคุณที่อยู่ในจุดที่เลือกได้และเลือกไม่พาตัวเองไปจุดนั้น”
ขณะที่ได้มีประชาชนที่เล่นโซเซียลเข้าไปคอมเมนต์ว่าเป็นเพราะเขาไม่เชิญหรือไม่ ด้านนางอมรัตน์โพสต์ตอบว่า”เจ้าสาวเค้าเรียนเชิญแต่ไม่ไป เพราะรู้ว่าต้องเจออะไร จบนะ”
‘จุรินทร์’ชี้การเมืองมีปัญหา
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองไทยในปี 2568 ว่าการเมืองในปี 68 จะมีความเข้มข้นขึ้น และอะไรก็เกิดขึ้นได้ โดยมีปัจจัย 8 ข้อ ที่จะส่งผลกระทบต่อการเมืองในปีนี้ นั่นคือ 1.ปี 2568 เข้าสู่ปีที่สามของการเลือกตั้ง ถือเป็นครึ่งหลังของวาระ 4 ปีแล้ว 2.ปีนี้เป็นปีเลือกตั้งนายก อบจ. ซึ่งมีความสำคัญกับการเมืองใหญ่ เพราะการเลือกนายก อบจ. คือการชิงธงการเมืองใหญ่ในอนาคต ใครได้ นายก อบจ. มาครอบครองก็จะมีผลต่อการได้อำนาจ และเงินมาช่วยสนับสนุนการเมืองใหญ่
3.ปี 2568 จะเป็นปีแห่งการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองที่เข้มข้นขึ้น ตัวอย่างเห็นได้ชัด เช่น เรื่องค่าไฟฟ้า ฝ่ายหนึ่งลดค่าไฟจาก 4.18 บาท เหลือ 4.15 บาท ลดไป 3 สตางค์ เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แต่อีกฝ่ายยังเกทับจะลดเหลือ 3.70 บาท เป็นต้น 4.การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เป็นนโยบายหาเสียงของหลายพรรคการเมือง และรัฐบาลชุดที่แล้วได้ประกาศไว้ในนโยบายเร่งด่วนว่าจะแก้ แต่เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล เป็นรัฐบาลชุดปัจจุบัน ก็ถอยจากนโยบายเร่งด่วน กลายเป็นนโยบายธรรมดา ที่สำคัญคือการแก้ ทั้งฉบับที่นำไปสู่การตั้งสสร.เพื่อยกร่าง รธน.ใหม่ จะมีความขัดแย้งกัน ทั้งในระหว่างพรรคการเมืองและวุฒิสภาว่าจะต้องทำประชามติสองครั้ง หรือสามครั้งกันแน่
อะไรก็เกิดขึ้นได้/ปมคดีถูกร้อง
นายจุรินทร์ระบุอีกว่า 5.ปี 2568 จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งสมควรแก่เวลาแล้วที่จะดำเนินการ แต่ขึ้นอยู่กับข้อมูลของฝ่ายค้าน สิ่งที่ประชาชนอยากเห็นคือฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลแทนประชาชนมากกว่าการตรวจสอบองค์กรอิสระ หรือกลไกอื่นๆ พราะจะทำให้ภาพการอภิปรายเบลอออกไปไม่ตรงเป้า6.เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงเป้า การปรับ ครม.ก็อาจเกิดขึ้นได้ แม้แพ้เสียงในสภา 7.ส่วนเรื่องการยุบสภานั้น ตนเชื่อว่าไม่มีรัฐบาลใดอยากยุบสภา จะยุบสภาก็ต่อเมื่อไม่มีทางไปแล้วเท่านั้น และ8.ที่บอกอะไรก็เกิดขึ้นได้ ก็คือเรื่องคดีความที่มีผู้ร้องไปยื่นร้องนายกและผู้เกี่ยวข้องไว้ที่ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระต่างๆ ซึ่งปัจจุบันมีเรื่องที่ค้างอยู่อย่างน้อย 13 เรื่อง ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่อาจนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในทางการเมือง ถ้าคดีเหล่านี้ถูกวินิจฉัยในทางลบกับรัฐบาล
‘ดิเรกฤทธิ์’เปิด2ปมร้อนเขย่ารบ.
ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) โพสต์เฟซบุ๊กว่าปัญหาประชาธิปไตยสุจริตวันนี้ ระบุว่า ปัญหากรณีชั้น 14 1.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่(เป็นการไปพักนอกที่คุมขังที่ต้องขอความเห็นชอบ หรือรายงานศาลหรือไม่) 2.ข้อเท็จจริงเป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดหรือไม่(เจ็บป่วยรุนแรงจริงหรือป่วยทิพย์) 3.หากผิดตาม 1.และหรือ 2.ใครต้องรับผิดบ้าง? 4..หากผิดตาม 1.และหรือ 2.ต้องแก้ไขการบังคับโทษและการบริหารโทษใหม่หรือไม่
*ปัญหาการแก้ไข รธน. 1.นักการเมืองอยากให้ประชามติทำได้ง่าย 2.ยกร่างแก้ รธน.ทั้งฉบับแบบทางด่วน (ปลดล็อคการแก้แบบรายมาตราและมอบอำนาจการแก้ รธน.ของสถาและ ของปชช.ให้ สสร.ไปทำคลอด รธน.ฉบับใหม่ได้เลย 3.เกิดปัญหาร่างชุดPackage ตาม 2.เข้าสภาไม่ได้ เพราะขัด รธน.และคำวินิจฉัย ศรธน.รวมทั้งการรวบตั้งคำถามประชามติให้เหลือน้อยครั้ง
,ม็อบบี้‘แม้ว’ทยอยรวมพลตามนัด
วันเดียวกัน เวลา12.00น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม.กลุ่มเครือข่ายการเมืองภาคประชาชน นำโดย คปท.พร้อมด้วยแนวร่วมกองทัพธรรม ศปปส. ได้นัดรวมตัวจัดกิจกรรม ในหัวข้อ “ ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ ชั้น 14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-MOU 44 หยุด-บ่อนคาสิโน” ขณะที่บรรยากาศบริเวณโดยรอบได้มีประชาชนที่เป็นแนวร่วมทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ไฮไลท์สำคัญ อยู่ที่การรอประกาศสำคัญเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่มาร่วมเตรียมรองเท้าผ้าใบ แบกเป้สะพายหลัง เตรียมเดินเท้าดาวกระจายไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมเพื่อแสดงพลังเรียกร้องกรณีการรักษาอาการป่วยก่อนหน้านี้ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังมีข้อครหาหลายประการ รวมถึงประเด็นอื่นๆ ทั้งนี้ สำหรับกิจกรรมดังกล่าวในวันนี้จะจัดตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืน
คปท.เปิดแผนเขย่า’ทักษิณ’ทั้งมค.
จากนั้น ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว ถนนราชดำเนิน กทม. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ(คปท.)เปิดเผยถึงแนวทางการเคลื่อนไหวในกิจกรรม“ปีเช็คบิลป่วยทิพย์ชั้น14 แพทยสภาถึงเวลารักษาความยุติธรรม หยุด-ระบอบชินวัตร หยุด-MOU44 หยุด-บ่อนคาสิโน ว่าวันนี้เป็นการจัดกิจกรรมครั้งแรกของคปท.ซึ่งครบรอบ1 ปีของการชุมนุมคปท.ในปีที่แล้วด้วย เบื้องต้นจะมีการกิจกรรมไปตลอดทั้งเดือนมกราคม แบบเสาร์เว้นเสาร์ หรืออาจจะมีการนัดจัดกิจกรรมพิเศษ หากมีกรณีทางการเมืองเกิดขึ้น
13มค.บุกสตช.ทวงคืบหน้าชั้น14
นายพิชิตกล่าวว่า นอกจากนี้ ในวันที่ 13 มกราคมนี้ ทางกลุ่มฯจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เพื่อไปสอบถามกรณีที่แพทยสภาได้ทำหนังสือถึงโรงพยาบาลตำรวจ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2567 เพื่อขอหนังสือ แจ้งอาการป่วยและเวชระเบียนของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่เข้า ยันออกจากโรงพยาบาลตำรวจที่ขณะนั้น เป็นผู้ป่วยรักษาตัวที่ ชั้น 14 โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาการสูงสุดก็ยังให้คำตอบกับสังคมไม่ได้ว่า จะสั่งให้ส่งเวชระเบียนไปตามที่แพทยสภาขอมาหรือไม่
นอกจากนี้ในวันที่ 15 มกราคม ซึ่งจะเป็นวันที่ครบกำหนดในการทำคำชี้แจงพร้อมให้ส่งพยานหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร กลับมายังคณะอนุกรรมการสอบสวนชุดเฉพาะกิจของแพทยสภา เราก็จะเดินทางไปให้กำลังใจแพทยสภาด้วยเพื่อให้ยืนหยัดบนความถูกต้อง
“ต้องไม่เป็นมวยล้มต้มคนดู เอาความจริงมาปรากฎกับสังคมให้ได้ในกรณีชั้น 14 และจะมีการดูท่าทีของรัฐบาลว่าจะตอบรับอย่างไร ถ้าไม่ตอบรับเรื่องนี้ หรือรพ.ตำรวจ ไม่ให้เวชระเบียน ในสัปดาห์ต่อๆไปที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีก็จะเดินทางไปเรียกร้องยังทำเนียบรัฐบาล”แกนนำคปท.กล่าว
ไร้คำตอบ-จ่อบุกทำเนียบทุกอังคาร
นายพิชิตกล่าวด้วยว่าในส่วนของการนัดเดินเท้าลงถนนนั้น ยังไม่มีการวางแผน ขณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดกิจกรรมเดินทางไปยังหน่วยงานต่างๆก่อน ซึ่งที่ทางแพทยสภาได้มีการขีดเส้นเอาไว้ในวันที่ 15 มกราคม หากถ้ายังไม่ได้รับเอกสารจากโรงพยาบาลตำรวจ เราก็จะไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลตอบคำถาม
เมื่อถามว่าหากยังไม่ได้รับคำตอบ จะมียกระดับการเคลื่อนไหวอย่างไรนั้น นายพิชิต กล่าวว่า ก็จะมีการจัดกิจกรรมเช่นเคยหรืออาจจะเดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล ทุกวันอังคาร ที่มีการประชุมครม.ทุกสัปดาห์ก็ขอให้รอดูความชัดเจน ในวันที่ 14 มกราคมนี้ว่าจะมีท่าทีอย่างไร ส่วนประเด็น MOU44 รวมถึงเรื่อง บ่อนกาสิโน เราจะร่วมมือกับ ทางนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถ้าหากมีการเคลื่อนไหวเราก็จะเข้าร่วม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี