เปิดทำเนียบให้นั่งเก้าอี้นายกฯ
วันเด็กคึกคัก
‘อุ๊งอิ๊งค์’สอนเยาวชน
เรียนรู้ปรับตัวสู่อนาคต
พ่อแม่ต้องดูแลใกล้ชิด
พ้อเหนื่อยวันหยุดน้อย
ทำเนียบฯคึกคัก! วันเด็กแห่งชาติ เปิดให้นั่งเก้าอี้นายกฯ “อิ๊งค์” เปิดงานแนะเด็กไทยเรียนรู้จากทุกโอกาสให้กำลังใจ คนเป็นพ่อแม่ที่ดีต้องมีความสุข ล้อมวงเปิดอก ตอบคำถามเด็กๆ นายกฯอาจเหนื่อยเพราะวันหยุดน้อย ขณะที่ท่าเรือจุกเสม็ด ประชาชนทั่วประเทศพาลูกหลานเที่ยวชมเรือหลวงจักรีนฤเบศรวันเด็กแห่งชาติคึกคัก
วันที่ 11 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งได้งานวันเด็กแห่งชาติปี 2568 ภายใต้ธีม “ร่วมคิด ร่วมสร้าง ร่วมวางอนาคต“ โดยตั้งแต่ช่วงเช้ามืดของวันเดียวกันนี้มีเด็ก ๆ และผู้ปกครองมาต่อแถวรอเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งประตูเปิดตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 15.00 น.
ไฮไลท์สำคัญวันนี้ คือ เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้นั่งเก้าอี้ทำงานของนายกรัฐมนตรี และเข้าเยี่ยมชมตึกไทยคู่ฟ้า ที่ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงจะได้ทดสอบการอ่านข่าวภาคภาษาไทย และภาคภาษาอังกฤษ สวมบทบาท “โฆษกรัฐบาล ..นิวส์จิ๋ว” ที่ห้องแถลงข่าวทำเนียบรัฐบาล ตึกนารีสโมสรและบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า ที่มีการจำลองสวนสัตว์เปิดเขาเขียวมาไว้ที่ทำเนียบฯพร้อมนำสแตนดี้หมูเด้ง สูง 2.5 เมตร มาให้เด็ก ๆ ได้ถ่ายรูปด้วย นอกจากนี้ยังมีบูทกิจกรรมทั้งของภาครัฐ และภาคเอกชน ที่มาร่วมจัดกิจกรรมภายในทำเนียบฯ ซึ่งมีของรางวัลแจกมากมาย
ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี
สำหรับเด็กที่เข้าทำเนียบฯ คนแรก และจะได้นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรก คือ เด็กชายพศุจน์ เปาอินทร์ 3 ขวบ หรือ น้องพอร์ช ที่มากับคุณแม่ณัฏฐา เปาอินทร์ และคุณพ่อ รวมไปถึงน้องชายวัย 3 เดือน น้องพอตเตอร์มาด้วย ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน ก่อนที่จะมาถึงประตูทำเนียบฯ ในเวลา 03.30 น. ซึ่งคุณแม่บอกดีใจมาก และปีนี้มาเป็นปีที่ 2 ที่มาทำเนียบฯ ซึ่งปีนี้ตั้งใจเดินทางมา เพราะอยากให้ลูกชายได้นั่งเก้าอี้นายกฯ คนแรก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมางานวันเด็กที่ทำเนียบฯ สมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขณะนั้นอายุ 1 ขวบ
เมื่อเวลา 08.30 น. ที่กระทรวงศึกษาธิการ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด ”เรียนดี มีความสุข Smart Kids ,Happy Future“ โดยมี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และคณะผู้บริหารเข้าร่วม
เมื่อมาถึงตัวแทนเด็กและเยาวชนมอบพวงมาลัยให้นายกฯ จากนั้นนายกฯสักการะพระบรมราชานุเสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 ก่อนเดินมาที่เวทีจัดงาน โดยนายกฯมอบของขวัญให้กับเด็กซึ่งเป็นตัวแทนจากทั่วประเทศ ของขวัญเช่น ตุ๊กตาหมี ลูกฟุตบอล
ชมศธ.เตรียมงานไว้เยี่ยม
จากนั้นนายกฯ กล่าวเปิดงานว่า วันนี้ถือว่าเป็นปีแรกของตนในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ได้มีโอกาสมาร่วมงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก รมว.ศึกษาธิการ เตรียมงานไว้ดีมาก และเมื่อสักครู่ได้เห็นน้องๆมาแสดงบนเวที เป็นเด็กตัวเล็กๆรู้สึกว่าน่ารักมาก เก่งมากจำบทได้และสามารถพูดได้ ตนประทับใจ ถือเป็นการเริ่มวันเด็กที่สดชื่นและสดใส ลีลาการเต้น สไตล์การเต้นต้องผ่านการฝึกฝน ความชอบ ความตั้งใจ และความสามัคคีในหมู่คณะ รวมถึงต้องอาศัยทุกอย่างให้โชว์ออกมาได้ดี และน่าประทับใจ ซึ่งพี่ขอชื่นชมและขอสนับสนุนให้น้องๆไปทางด้านนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะมันไม่ใช่การที่เราซ้อมวันสองวันแล้วได้เลยน้องๆต้องซ้อมเป็นเดือนหรือเป็นปีไปชิงแชมป์โลก นำชื่อเสียงกลับมาให้กับประเทศได้มากขนาดนี้ ก็ขอชื่นชมจากใจจริง
นายกฯ กล่าวต่อว่า เรามีครอบครัวมีพ่อ แม่ พี่ น้อง เราเปิดโอกาสให้เด็กๆสมัยใหม่ได้เรียนรู้ด้วยตัวของเขาเอง โดยมีผู้ใหญ่คอยอยู่ข้างๆคอยแนะนำและบอกเล่าประสบการณ์ที่ผู้ใหญ่เจอมาเพื่อให้เด็กมีความรู้ มีข้อมูลที่มากพอ พร้อมที่จะตัดสินใจ และทำไมคำขวัญปีนี้ถึงพูดว่า ทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง
ซึ่งทุกโอกาส คือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตเราสามารถเรียนรู้ได้ทุกรุ่น ทุกวัยไม่จำเป็นว่าผู้ใหญ่โตแล้วไม่ต้องเรียนรู้ ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ ทุกคนหันหน้าเข้าหากันเปิดใจ พร้อมเรียนรู้พร้อมรับฟังซึ่งกันและกัน นั่นคือโอกาสแห่งการเรียนรู้ นี่คือที่มาของคำขวัญวันเด็กในปีนี้ และแน่นอนว่าอยากให้น้องๆได้รู้ว่าโลกเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว วันนี้เทคโนโลยีเข้ามามาก แต่ทุกคนต้องพร้อมที่จะปรับตัวให้เข้ากับโลก และยุคสมัยให้เรารู้คุณค่าของตัวเรา พร้อมที่จะปรับตัวสู่อนาคต
ขอให้เด็กเรียนรู้เยอะๆ
“ในโอกาสวันเด็กปีนี้ ขอให้น้องๆทุกคนได้มีโอกาสในการเรียนรู้เยอะๆ วันนี้กระทรวงศึกษาธิการ สร้างสิ่งน่าเรียนรู้ไว้รอบตัวเราและสร้างสิ่งที่สนุก ต้องขอขอบคุณทางกระทรวงศึกษาธิการมาก วันนี้น้องๆเรียนรู้ให้เต็มที่มีอนาคตที่สดใส เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต” นายกฯ กล่าว
จากนั้นนายกฯเดินทักทายเด็กๆ เยาวชน และเยี่ยมชมบูธภาครัฐและเอกชนภายในกระทรวงศึกษาธิการ โดยได้เยี่ยมบูธของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้ถ่ายภาพเซลฟี่กับเด็กๆพร้อมแจกลายเซ็นข้อความว่า “เป็นกำลังใจให้น้องต้องตา” นายกฯยังได้อุ้มเด็กน้อย ซึ่งเด็กได้ร้องไห้หลังนายกฯอุ้ม จากนั้นนายกฯเดินมายังซุ้มของคิงพาวเวอร์เพื่อแจกลูกบอลให้กับเด็กๆ และได้ถ่ายภาพร่วมกับลูกเสือเนตรนารี
ทั้งนี้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเด็กๆและผู้ปกครองสนใจขอถ่ายภาพร่วมกับนายกฯเป็นจำนวนมาก
เปิดงานวันเด็กทำเนียบ
เมื่อเวลา 09.20 น. ภายหลังน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 ที่กระทรวงศึกษาธิการแล้ว นายกฯ เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล โดยขบวนรถนายกฯ ได้จอดอยู่บริเวณประตู 1 จากนั้นนายกฯ ได้เดินลงจากรถ และเดินเข้าไปยังตึกไทยคู่ฟ้า และได้ถ่ายรูปกับเด็ก ๆ ระหว่างทาง โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต. ประจำสำนักงานนายกรัฐมนตรีมารอต้อนรับ
ก่อนที่นายกฯ จะไปยังห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบฯ โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำเด็กนักเรียนและเยาวชน ที่มีความสามารถ และเป็นเยาวชนผู้ด้อยโอกาสจากบ้านเฟื่องฟ้า มานั่งเก้าอี้นายกฯ พร้อมถ่ายภาพร่วมกับนายกฯ และรับของที่ระลึก จำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.เด็กชายภูผา มะเปลี่ยนสี 2.เด็กหญิงศันสนีย์ ดวงบุตร 3.เด็กชายธวัฒชัย นาคส่องแสง 4.เด็กชายนพดล ประชุม 5.เด็กหญิงฉัตรสุดา พุ่มดอกไม้ 6.นางสาวภัทรานิษฐ์ จัยวัฒน์ 7.นางสาวพิมพาพร กว้านสกุล 8.นายภากร ตีนทอง 9.เด็กหญิงนิธิศา สุขบินทรีย์ และ 10.เด็กชายนนทกร ท่านำ
จากนั้นเวลา 10.00 น. นายกฯ เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี โดยมีขบวนกลองยาวจากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายประถม) นำขบวนนายกฯ ทันทีที่นายกฯ ถึงตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ได้ชมการแสดงฟ้อนบายศรีหลวง จากเด็กและเยาวชนจากบ้านเฟื่องฟ้า บ้านนนทภูมิ บ้านราชาวดีหญิง และบ้านราชาวดีชายและการแสดงชุด Under The sea จินตลีลาประกอบเพลงโดยสมาคม เยาวชนจิตอาสาพัฒนา และบทเพลง Part of Your World ขับร้องโดย ด.ญ.อัยย์ ธรรมวาริน
อิ๊งค์บอกเป็นนายกฯอายุน้อยที่สุด
โดยนายกฯ ได้กล่าวให้โอวาทว่า วันนี้ เป็นปีแรกของตนในฐานะนายกฯที่ได้มีโอกาสมาเปิดงานวันเด็กวัน คำขวัญวันเด็กปีนี้ คือ “ทุกโอกาสคือการเรียนรู้ พร้อมปรับตัวสู่อนาคตที่เลือกเอง” ตนเป็นนายกฯที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ประเทศไทย จริงๆแล้วทุกโอกาสถ้าเราสามารถเรียนรู้ได้จากเหตุการต่างๆ คนต่างๆที่มีหลายอาชีพหลายประสบการณ์ โอกาสเหล่านั้นจะสามารถเพิ่มความรู้ให้เราได้อันนั้นเป็นกำไรกับชีวิต เราสามารถหาความรู้ได้จากทุกภาคส่วน การที่เราเป็นคนที่รับฟังเปิดกว้างเราสามารถเรียนรู้ได้จากทุกคน โลกที่ปรับตัวอย่างรวดเร็วเราต้องปรับตัวด้วยเช่นกัน การที่เรารู้ตัวและพร้อมปรับตัวเสมออันนั้นคืดสิ่งดี อยากให้น้องๆมีสิทธิเลือกอนาคตของตัวเอง ชอบอะไร อยากทำอะไรเพื่อสังคมเพื่ออนาคตของตัวเองก็ขอให้มีสิทธิเลือก แต่ก็อยากมีผู้ใหญ่ที่มีมีประสบการณ์ มีความรู้ คอยให้คำปรึกษาอยู่ข้างๆ เราก็จะดำเนินชีวิตได้อย่างมีสติมีข้อมูล และเลือกอนาคตที่เราชอบได้ในส่วนของรัฐบาล ก็มีนโยบายโครงการ ODOS (โอดอส) 1 อำเภอ 1 ทุน ไม่น้อยกว่า 1,000 ทุนต่อรุ่น รวมถึงอยากให้เด็กไทยได้มีโอกาสเปิดประสบการต่างประเทศก็จะมีนโยบาย โอดอส ซัมเมอร์แคมป์ มีระยะเวลา 5-6 สัปดาห์ เดินทางไปทั่วโลกครอบคลุมทั้ง 878 อำเภอและ 50 เขตในกทม. รวมแล้ว 928 พื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อให้เด็กไทยได้เปิดโลกกว้าง นำวัฒนธรรมต่างๆมาปรับใช้ นอกจากนี้เรายังเดินหน้าต่อ มาตรการ “Thailand Zero Dropout” ให้เด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาเข้าสู่ระบบ ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่สมัย นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ เราก็ดำเนินการต่อ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เด็กได้กลับมาศึกษาและเพิ่มโอกาสทำงานในอนาคต
ผู้ปกครองต้องดูแลใกล้ชิด
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ”เด็กทุกคนมีวัยเด็กที่แตกต่างกันไป อย่างพี่เอก็มีวัยเด็กที่แตกต่างจากน้องๆ สมัยก่อนไม่มีไอแพท โทรศัพย์ ไลน์ก็ไม่มี เรามีเทคโนโลยีแล้วก็จริงแต่อยากให้ใช้เวลากับคนที่อยู่ข้างหน้าด้วยจะได้เรียนรู้ความแตกต่างของเพื่อนๆได้นั้นคือสิ่งสำคัญของวัยเด็ก สำหรับผู้ปกครองที่อยู่ในที่นี้ มีคำพูดที่ว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีเป็นอย่างไรตนมีลูกสองคน ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นแม่ที่ดีแล้วหรือยัง เอ๊ะเราให้เวลาลูกน้อยไปหรือเปล่า เอ๊ะหลายๆอย่าง เอ๊ะเราสอนลูกถูกมั้ย เราตามใจไปหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่อาจมีคำถามเหล่านั้นในใจเข้าใจได้ แต่ได้ยินมาคำหนึ่งแล้วรู้สึกชอบ เป็นกำลังใจให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ เป็นคำว่า “พ่อแม่ที่ดีคือพ่อแม่ที่มีความสุข” ตนมั่นใจว่าพ่อแม่ในห้องนี้เป็นพ่อแม่ที่มีความสุข ซึ่งจะสะท้อนมาถึงลูก และเราเป็นพ่อเป็นแม่ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง แต่พ่อแม่ที่มีความสุขที่ซัพพอร์ตและให้กำลังใจลูกอยู่เสมอ นั้นคือพ่อแม่ที่ลูกของเราต้องการ ขอให้กำลังใจพ่อแม่ทุกท่านเลี้ยงลูกให้เป็นความสุขของเขาและเป็นความภูมิใจที่เราได้เห็นพวกเขาเติบโตขึ้นทุกวันอย่างสมวัย วันเด็กปีนี้ขออวยพรทุกท่านเติบโตมีสุขภาพแข็งแรงเป็นเด็กๆที่สดใส มีคุณพ่อคุณแม่ ญาติพี่น้องที่ห่วงใยดูแล มีเพื่อนที่ดี เรียนเก่งเก่ง อยากได้อะไรขอให้ได้ตามนั้น และเป็นกำลังของประเทศชาติต่อไปในอนาคต”
จากนั้นนายกฯ ร่วมกับตัวแทนเด็กและเยาวชน 4 คนวางตัวต่อเลขาคณิต โดยนายกฯ วางตัวต่อทรงกลมสีแดงเป็นลำดับสุดท้าย (ตัวต่อเรขาคณิต 1 ตัวปรากฏภาพที่ละส่วนจนครบ5 ส่วน ซึ่งภาพวาดแนว Doodle Art โดยศิลปินเยาวชน วุฒิภัทร วงศ์ดีและถ่ายรูปร่วมกับเยาวชน
ทอ.บินโชว์ F-16 , GRIPEN
กองทัพอากาศ จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยมีการบินแสดงสมรรถนะเครื่องบิน F-16 , GRIPEN นอกจากนี้ ยังมีการแสดงยุทโธปกรณ์ทางทหาร พบกับนักบินตัวจริง และสนุกกับเกมส์และกิจกรรมชิงรางวัลมากมาย จนถึงเวลา15.00 น. ที่ฝูงบิน 601 กองบิน 6 พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ โดยมีผู้ปกครองที่พาลูกหลาน เข้าร่วมกิจกรรมวันเด็กในปีนี้อย่างคึกคัก
ทร.โชว์”จักรีนฤเบศร”
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังท่าเรือจุกเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นท่าจอดเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงสิมิลัน เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช และเรือหลวงช้าง ได้จัดกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนนำบุตรหลาน ขึ้นชมเรือรบกันอย่างใกล้ชิด
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีเยาวชน และเด็ก ๆ หลั่งไหลเดินทางเข้ามาเที่ยวชมกันอย่างไม่ขาดสาย ทำให้รถติดยาวหลายกิโลเมตร แต่ทางทหารเรือได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือไว้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่มีอุปสรรคประการใด รวมถึงมีกำลังสารวัตรทหารเรือ คุมเข้มด้านความปลอดภัย
โดยในปีนี้ พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ได้จัดให้มีกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีกิจกรรมมากมาย อาทิ เช่น การแสดงแฟนซีดิว ของนักเรียนจ่าทหารเรือ การจัดแสดงโชว์อาวุธยุทโธปกรณ์ อันประกอบด้วย รถสะเทือนน้ำสะเทือนบก รถถัง ปืนใหญ่ และปืนต่อสู้อากาศยาน การแสดงบนเวทีให่เด็กๆได้ร่วมกิจกรรม การแจกของขวัญของรางวัล และการละเล่นอีกมากมาย ซึ่ง งานในปีนี้จัดเต็มกิจกรรมที่สนุกสนานและสร้างสรรค์
นั่งเก้าอี้ผวจ.สมุทรสาคร
นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนางสุพิณญา นิรามัยวงศ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติจังหวัดสมุทรสาคร ประจำปี 2568 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด บริษัทห้างร้าน ร่วมพิธีเปิดและออกบูทแจกของขวัญให้กับเด็กๆ เป็นจำนวนมาก
บรรยากาศงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 จังหวัดสมุทรสาคร ผู้ปกครองต่างจูงลูกจูงหลานมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ซึ่งภายในงานก็มีการออกบูทจากทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความสุข ความสนุก สร้างรอยยิ้มให้กับเด็กๆ ที่ได้มาร่วมงาน เช่น การจับสลาก การเล่นเกมส์ ของแจกของขวัญให้แก่เด็กๆ เช่น จักรยาน ตุ๊กตา ของเล่น อุปกรณ์การเรียน กระปุกออมสิน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีการแจกอาหาร น้ำดื่น ขนม ไอศกรีม อีกมากมาย ซึ่งบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสุข ความน่ารักและรอยยิ้มของเด็กๆ ซึ่งในปีนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครยังได้เปิดห้องทำงานของท่านให้เด็กได้นั่งโต๊ะทำงานของท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมถ่ายรูปคู่กับท่าน เป็นที่ระลึกที่โต๊ะทำงานของท่านผู้ว่าฯ ซึ่ง ผู้ว่าฯ ยังได้มอบกระเป๋านักเรียนและอวยพรให้แก่เด็กๆ อีกด้วย
เทศบาลน่านจัดกิจกรรมใหญ่
ที่สนามหญ้าภายในเขตสำนักงานเทศบาลเมืองน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 พร้อมอ่านสาร นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาส “วันเด็กแห่งชาติ” ประจำปีพุทธศักราช 2568 โดยมี นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คณะผู้บริหารสมาชิกสภาเทศบาลเมืองน่าน เจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ผู้ปกครองเด็กและเยาวชน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก
โดยบรรยากาศ วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 มีกิจกรรมต่างๆ มากมาย โดยมีหน่วยงานร่วมจัดซุ้มกิจกรรม มอบความสุข สนุกสนาน และของรางวัลให้กับเด็กๆ ที่มาร่วมกิจรรม บรรยากาศเป็นไปด้วยคึกคัก ซึ่งในปีนี้เทศบาลเมืองน่าน ได้จัดสรรงบประมาณ จำวน 100,000 บาท และได้รับการสนับสนุนจากบริษัทไฟฟ้าหงสา จำกัด อีกจำนวน 10,000 บาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น จำนวน 110,000 บาท สำหรับจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิเช่น การแสดงบนเวทีของเด็กๆ เกมส์การละเล่น และซุ้มกิจกรรมประลองความสามารถต่างๆ พร้อมรับของขวัญของรางวัลต่างๆ และอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มตามซุ้มกิจกรรมอย่างหลากหลาย เป็นต้น โดยจัดให้มีเฉพาะภาคเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00 น. - 12.00 น. เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนพัฒนาตนเองให้มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ ทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา มีความรู้คู่ปัญญา มีคุณธรรม มีความสามัคคี และมีจิตอาสาเพื่อสังคม รวมถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ เพื่อปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เห็นความสำคัญและอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่นให้คงไว้สืบไป ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชน ได้ตระหนักถึงหน้าที่ความสำคัญและเห็นคุณค่าของตนเอง มีความกล้าแสดงออกถึงความสามารถของตนในทางที่ถูกต้องและถูกวิธี และเป็นการกระตุ้นให้ผู้ปกครองให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการเลี้ยงดูบุตรหลาน การเอาใจใส่ การให้ความรัก การพัฒนาให้เป็นพลเมืองที่ดีมีคุณภาพ และห่างไกลจากสิ่งเสพติดทั้งปวง ตลอดจนสร้างทัศนคดีให้กับหน่วยงาน หรือผู้มีส่วนร่วมในการรับผิดชอบได้สำนึกในบทบาทหน้าที่ และภารกิจในการพัฒนาเด็กและเยาวชน ให้เจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ เป็นบุคลากรที่ดี และเป็นกำลังสำคัญ ที่จะพัฒนาประเทศชาติต่อไปในอนาคต
เอกชนร่วมงานคึกคัก
ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าว นอกเหนือจากงบประมาณของเทศบาลเมืองน่านแล้ว ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน สถานศึกษาในสังกัดเทศบาลเมืองน่าน บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด กสิกรไทย เหล่ากาชาดจังหวัดน่าน สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดน่าน ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดน่าน สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดน่าน สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดน่าน สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดน่าน ตำรวจภูธรเมืองน่าน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดน่าน สายการบินแอร์เอเชีย สเวนเซ่นส์กาดน่าน แลคตาซอย สาขาน่าน ฝูงบิน 466 ชมรมขี่ม้าจังหวัดน่าน เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี