วันที่ 13 มกราคม 2568 นายธวัชชัย ไทยเขียว คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ระบบโควต้า(Quota)กับระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจได้แต่ต้องพึงระวัง” เนื้อหาระบุ

จากบทบัญญัติของพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕ มาตรา 82 และมาตรา 88 ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติที่กล่าวถึง ระบบโควต้าในกระบวนการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจนั้น มีการกำหนดให้พิจารณาตำแหน่งว่างโดยให้ความสำคัญกับ ลำดับอาวุโสและความรู้ความสามารถ เป็นหลัก ซึ่งตามมาตรา 82(2) และ (3) กำหนดให้พิจารณาจากบัญชีรายชื่อและเรียงตามลำดับอาวุโส ไม่น้อยกว่า 50% (ระดับผู้บังคับการขึ้นไป) และ 33% (ระดับรองผู้บังคับการลงมา) ของตำแหน่งว่างในแต่ละระดับ และมาตรา 82(4) บัญญัติว่า ให้พิจารณาตำแหน่งว่างที่เหลือโดยคำนึงถึง อาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน

มีประเด็นต้องพิจารณาว่า การใช้ระบบโควต้าในตำแหน่งว่างที่เหลือจากกฎหมายที่กล่าวถึงข้างต้นได้หรือไม่ มาตรา 82(4) ระบุให้คำนึงถึงทั้ง อาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน แต่ไม่ได้ระบุว่าระบบโควต้า (Quota) จะถูกนำมาใช้ในส่วนนี้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม หากการใช้โควต้าดังกล่าวมีความสอดคล้องกับหลักการพิจารณา อาวุโสและความรู้ความสามารถ และไม่ได้ขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมาย ก็อาจพิจารณานำมาปรับใช้ได้ ตราบใดที่การจัดสรรโควต้าไม่ละเมิดข้อกำหนดในมาตรา 88

ฉะนั้น การกำหนดโควต้าต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบและสอดคล้องกับหลักการที่ระบุในกฎหมายเพื่อความโปร่งใสและยุติธรรมในบริหารงานบุคคลของข้าราชการตำรวจให้เป็นไปตามระบบคุณธรรม เพราะหากไม่รอบคอบผู้มีอำนาจออกในการออกคำสั่งอาจเข้าข่ายกระทำผิดวินัยโดยไม่ต้องสอบสวนอีกตามมาตรา ๘๗ วรรคสี่ หรือหากมีหลักฐานว่ามีผู้ใดขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือแอบอ้างอำนาจของบุคคลใด หรือเรียก รับ ยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด หรือกระทำการใดอันมิชอบ เพื่อให้มีการแต่งตั้ง หรือไม่แต่งตั้งผู้ใดให้ดำรงตำแหน่งใด ไม่ว่าการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งนั้นจะชอบด้วยหลักเกณฑ์ ตามพระราชบัญญัตินี้หรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีตามมาตรา ๘๗ วรรคห้าได้อีกด้วย