‘จุลพันธ์’แจงรายละเอียดร่าง‘พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์’ ชงสภา 1-2 เดือน ตั้งเป้าลงทุนแห่งละแสนล้าน ดึง‘มวยไทย-ไก่ชน’ร่วมดวล
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 13 มกราคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ พร้อมรับความเห็นของทุกหน่วยงานไปพิจารณา ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะตรวจร่างและปรับร่างกฎหมายก่อนเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ภายใน 1-2 เดือนนี้
สำหรับร่าง พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฉบับนี้ ถือว่าเป็นไปตามแนวนโยบายแห่งรัฐ ข้อที่ 7 คือ เพื่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made Destination) เช่น สวนน้ำ สวนสนุก ศูนย์การค้า สถานบันเทิงครบวงจร นำคอนเสิร์ต เทศกาล และการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย โดยการผลักดันเรื่องนี้ รัฐบาลยอมรับว่าจะไม่ใช่การผลักดันการตั้งกาสิโนถูกกฎหมายขึ้นเพียงอย่างเดียว เพราะจะเป็นแค่ส่วนน้อยเท่านั้น
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โมเดลการผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ครั้งนี้ ถือเป็นโมเดลทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศสิงคโปร์ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยปรับโฉมการท่องเที่ยวได้เป็นรูปธรรม ช่วยสร้างรายได้ประชาชน และสร้างรายได้เข้ารัฐ พร้อมทั้งมีรูปแบบการบริหารจัดการที่เหมาะสม
“ในการประชุมครม.ยังมีข้อคิดเห็นเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่าง ๆในที่ประชุมด้วย เช่น ต้องการให้ผลักดันกีฬาพื้นถิ่นเข้าไปในเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ด้วย ทั้ง มวยไทย หรือไก่ชน ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบข้อคิดเห็นทั้งหมดก่อนนำไปปรับในร่างกฎหมายต่อไป” นายจุลพันธ์ กล่าว
รมช.คลัง กล่าวยอมรับว่า ในส่วนของการลงทุนจริงแต่ละจุดที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ จะมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 1.2 - 2.4 แสนล้านบาทต่อปี ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 5-10% โดยเฉพาะการกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวได้อย่างน้อย 13% สามารถลดช่องว่างทางรายได้ระหว่างช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวและนอกฤดูกาลได้แคบลงกว่าเดิม รวมทั้งเพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2 หมื่นบาทต่อราย สร้างการจ้างงาน 9,000 - 15,000 ตำแหน่ง
“การลงทุนแต่ละจุดจะช่วยสร้างรายได้ให้กับรัฐไม่ต่ำกว่า 1.2 - 4 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากธุรกิจที่เป็นโรงแรม สวนสนุก สถานที่ท่องเที่ยว อีกส่วนคือรายได้จากการพนัน โดยรายได้ทั้งหมดนั้น จะนำไปพัฒนาประเทศ และนำกลับไปเยียวยา กำกับและบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการพนันต่อไป” รมช.คลัง กล่าว
รมช.คลัง กล่าวว่า ขั้นตอนสุดท้ายอำนาจจะไปอยู่ที่รัฐสภาในการวินิจฉัยกฎหมายว่าจะต้องมีการปรับแก้ หรือปรับเพิ่มเติมตรงไหน เพื่อให้ตรงกับสภาวะแวดล้อมของประเทศไทย หรือถูกกับจริตของคนไทย ก่อนจะบังคับใช้กฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุวัตถุประสงค์ในการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ สร้างรายได้ให้กับรัฐ รวมทั้งลดปัญหาการพนันผิดกฎหมายต่อไป
นายจุลพันธ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามในส่วนของการกำหนดพื้นที่ หรือกิจการ จำนวนของผู้ที่จะเข้ามาลงทุนนั้น ยอมรับว่ากระทรวงการคลัง ไม่ได้มีอำนาจเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะการพิจารณารายละเอียดต่างๆจะเป็นอำนาจของสำนักงาน และกรรมการบริหารเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายฉบับนี้ จะเป็นผู้พิจารณาทั้งหมด
“กระทรวงการคลัง ไม่ได้มีเป้าหมายว่าจะมีการสร้างกี่แห่ง และไม่มีหน้าที่กำกับ อีกทั้งในคณะกรรมการก็ไม่มี รมช.คลัง เพราะที่ผ่านมาได้รับมอบหมายให้ไปยกร่างกฎหมาย ก็ทำไปแค่นั้น ไม่ได้ระบุว่าต้องมีจำนวนเท่าไร หนักที่สุดคือมีการบอกว่าใครจะมาทำตรงไหน ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีการพูดคุย ต้องโปร่งใส และตรวจสอบได้ โดยการลงทุนก็ต้องออกทีโออาร์ ผู้ลงทุนต้องเสนอเข้ามาแข่งขันกัน แต่ทั้งหมดนี้คณะกรรมการจะเป็นผู้กำหนดและพิจารณารายละเอียดต่อไป” นายจุลพันธ์ กล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในส่วนของการจัดเก็บรายได้นั้น จะมีการกำหนดให้ชัดเจนในคณะกรรมการว่าจะจัดสรรไปที่ไหนบ้าง เช่น สัดส่วนหลักๆจะนำส่งคืนรัฐ เพื่อเป็นรายได้ตามกลไกของงบประมาณ อีกส่วนเป็นการจัดสรรคืนไปยังพื้นที่ หรือภาคการศึกษาและการเยียวยาต่าง ๆ ในมิติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่ทำการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี