ปัดนิติกรรมอำพรางหนี4พันล้าน
‘อิ๊งค์’โต้พัลวัล
อ้างกู้ยืมในเครือญาติ-ทำถูกกม.
‘เรืองไกร’ร้องปปช.สอบนายกฯ
เงินกู้ยืมคู่สมรสยึดม.114หรือไม่
นายกฯชี้ขอพรปีใหม่ประธานองคมนตรี ได้คำแนะนำดีๆ ประเทศได้ประโยชน์ วอนทุกฝ่าย“มูฟออน”ย้ำไม่เคยคิดเรื่องส่วนตัว ไม่เคยไม่ชอบใครแจงหนี้ 4 พันล้าน ปัด“นิติกรรมอำพราง”เป็นหนี้ระหว่างเครือญาติ แจ้ง“ป.ป.ช.”ไปหมดแล้ว ทำถูกกฎหมายทุกอย่าง ด้าน“เรืองไกร”ร้อง ป.ป.ช.สอบนายกฯแจงเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส เป็นไปตามม.114 หรือไม่ขณะที่“ภูมิธรรม”แจง“แม้ว”ประกาศ“พท.”ยึด“อบจ.”ทุกจังหวัดเป็นความเห็นส่วนตัว ไม่เกี่ยว“เพื่อไทย”ลั่นไม่ปรับวิธีหาเสียง แต่’นักร้อง’ควรปรับ
เมื่อวันที่ 13ม.ค.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศว่าเพื่อไทยจะทวงคืนนายก อบจ.ให้หมด ว่า เป็นเรื่องของความคิดเห็นแต่ละท่าน เมื่อท่านผู้เสนอความเห็นมาก็ต้องไปถามรายละเอียดจากท่าน ว่าท่านคิดอะไร เพราะยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยโดยตรง เมื่อถามว่า ในทางปฏิบัติสิ่งที่นายทักษิณพูดเป็นไปได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ระหว่างนี้เราต้องดูรายละเอียด ทุกคนในทางการเมืองก็ตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ได้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นพรรคไหนก็ตาม ก็ถือเป็นความมั่นใจของแต่ละพรรคว่า พรรคตัวเองจะทำได้เท่านั้นเท่านี้ แต่จะได้สักเท่าไหร่ก็ต้องดูความเป็นจริงและรอดูผลว่าจะเป็นอย่างไร ขณะนี้พรรคเพื่อไทยส่งเฉพาะบางส่วน และที่ผ่านมาก็ชนะเกือบทุกพื้นที่ที่เราส่ง
พท.ไม่ปรับหาเสียง-แต่นักร้องควรปรับ
เมื่อถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยจะมีการปรับรูปแบบหาเสียงนายก อบจ.หรือไม่ หลังกกต. ระบุนายทักษิณ ปราศรัยหาเสียงก้ำกึ่งขัดต่อกฎหมาย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม และนายทักษิณก็มาตามกฎหมาย ไม่ได้อยู่ๆ มาขึ้นหาเสียง ก็เป็นความรับผิดชอบของตัวท่านเอง ท่านมาคราวนี้ในฐานะเป็นลูกจ้างที่จ้างมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงก็เป็นเหมือนที่ต่างๆ “ส่วนท่านจะทำผิดหรือไม่อย่างไรก็ให้กระบวนการยุติธรรมตัดสินว่าขอบเขตที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงนั้น ทำได้สักแค่ไหนอย่างไร เรื่องนี้ยังไม่ควรสรุป ถ้าจะมีคนร้องก็ไปร้องในพื้นที่ที่เขารับผิดชอบ ร้องเสร็จแล้วก็ดำเนินการไปตามนั้น ไม่ควรไปคาดการณ์ไม่ควรไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่กังวลใช่หรือไม่ ว่าการปราศรัยมีการพูดถึงนโยบายระดับประเทศ ที่ในระดับท้องถิ่นไม่สามารถทำได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะถ้าเราคิดดีแล้วว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน แต่ละส่วนเราก็พยามกำกับให้เป็นไปตามกฎหมายอยู่แล้ว หลายเรื่องเป็นเรื่องดุลยพินิจของคน เป็นดุลยพินิจของผู้ฟัง คิดและตัดสินใจไปเอง แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น หรือแม้กระทั่งผู้ร้อง ที่ร้องแล้วได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการมีสิทธิร้องก็ร้องได้ เพียงแต่ในอนาคตควรจะร้องบนฐานของเหตุผล ไม่เช่นนั้นมัวแต่จะมาร้องแบบนี้ทำให้การทำงานลำบากขึ้น แต่ตนไม่ปฏิเสธกระบวนการร้อง หรือหาความถูกต้องชอบธรรม ให้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทำหน้าที่ไป
เมื่อถามอีกว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้กลัวพังใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราทำตามกฎหมายอยู่แล้ว ถ้าเรากลัวก็ไม่ทำ เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า มีนักร้องเยอะพรรคเพื่อไทยจะต้องปรับวิธีหาเสียงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ แต่ควรไปปรับที่นักร้อง เราทำหน้าที่เต็มที่ ไม่มีใครคิดทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่จะผิดหรือพลาดไปก็อยู่ที่ดุลยพินิจว่าคุณทำอย่างนี้ คุณทำผิดเกินเลยไปหรือไม่ คนที่ตัดสินสุดท้ายคือศาล หรือผู้ที่มีอำนาจหน้าที่
ขอพรปธ.องคมนตรีได้คำแนะนำที่ดี
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเข้าขอพรปีใหม่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนน์ ประธานองคมนตรี จะเป็นภาพประวัติศาสตร์ครั้งใหม่หรือไม่ เพราะตระกูลชินวัตรกับบ้านสี่เสาเทเวศร์ เดิมเหมือนจะเป็นขั้วตรงข้ามกัน ว่า ทุกคนต้องมูฟออน เวลามันไม่หยุดอยู่กับที่ เวลามันผ่านไปเรื่อยๆ ถามว่าเราจะนั่งถือทุกเรื่องไว้ในใจของเราทั้งหมดมันหนัก อย่างที่เคยบอกว่าไม่ค่อยเกลียดใคร ไม่ค่อยได้ไม่ชอบใคร คิดว่าบางเรื่องที่มันจัดการได้ก็จัดการได้
“ดิฉันเข้าไปพบท่านองคมนตรีก็ให้คำแนะนำดีๆมาเยอะ ท่านเคยถวายงานรับใช้รัชกาลที่ 9 ในเรื่องของน้ำเยอะมาก ท่านก็แนะนำในเรื่องของน้ำมา เรื่องน้ำท่วมต่างๆว่า ต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เรื่องนี้ถามว่าประโยชน์อยู่ที่ใคร ไม่ได้อยู่ที่ดิฉัน ไม่ได้อยู่ที่องคมนตรี แต่อยู่ที่ประเทศชาติ ฉะนั้นการเข้ามาคุยร่วมกันแบบนี้เราต้องมองภาพนั้น ถ้าเราจะมามองว่าเรื่องส่วนตัวอะไรยังไง ดิฉันไม่ได้คิดเลย ดิฉันไปก็สวัสดีปีใหม่ท่านและนั่งพูดคุยก็เป็นอย่างนั้นไป ทำงานกันต่อ ดรามาให้น้อยหน่อย” น.ส.แพทองธาร กล่าว
หนี้4พันล้านปัด‘นิติกรรมอำพราง’
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีหนี้สิน 4,000ล้านบาท ของนายกฯที่เป็นการกู้ยืมกันในครอบครัว มีการตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการทำนิติกรรมอำพราง ว่า มันเป็นหนี้ระหว่างเครือญาติกัน ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย แถลงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปหมดทุกอย่างแล้ว “ฉะนั้นมันจะอำพรางอะไรได้จุดนี้ ยืนยันว่าเป็นหนี้ระหว่างเครือญาติ มีตั๋วมีอะไรเรียบร้อยหมด” น.ส.แพทองธาร กล่าว เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่ากรณีนี้จะเป็นการซ้ำรอย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีซุกหุ้นภาค 2 นายกฯ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย
ไม่กังวล’สามี’ให้บริษัทเอกชนกู้เงิน
เมื่อถามถึงกรณี นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี ให้บริษัท วินน์แคปปิตอล จำกัด กู้เงินโดยที่ไม่เป็นกรรมการบริษัทจะมีปัญหาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆเราแจ้งรายละเอียดแบบละเอียดยิบสามารถตรวจสอบได้ทุกอย่าง เพราะมาถึงจุดนี้ต้องแจ้งให้ละเอียดที่สุด แล้วคำถามอะไรถ้า ปปช.มีเรื่องที่จะถามมาก็ยินดีพร้อมตอบอยู่แล้ว ฉะนั้นไม่ต้องกังวลอะไร จะตีความอะไรอย่างไรทางที่บ้าน ทางทนายก็แจ้งทุกอย่างหมดเกลี้ยง เมื่อถามว่า นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ จะไปร้องเรื่องนี้ กังวลหรือไม่ นายกฯ หัวเราะในลำคอก่อนกล่าวว่า “เรืองไกร อ๋อ แล้วสมมติว่าตัวดิฉันเองก็ไม่ได้แม่นกฎหมาย ถ้ามีการข่มขู่ว่าจะต้องจ่ายนั่นนี่ เพื่อจะไม่ฟ้อง เพื่อจะอะไร อ้างลูกเรียนต่างประเทศผิดกฎหมายข้อไหนบ้างละ เผอิญไม่ค่อยแม่นเรื่องกฎหมายเท่าไร ต้องช่วยกันแจ้งนิดหนึ่ง ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังไง ผิดกฎหมายข้อไหนไหมคะ ดิฉันไม่ค่อยแม่นเท่าไรเรื่องนี้”
แจงเงินเฟส2ไม่เกี่ยวเลือกตั้งอบจ.
น.ส.แพทองธาร ยังให้สัมภาษณ์กรณี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ออกมาระบุ การเป็นผู้ช่วยหาเสียงของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีบางข้อความที่ก่ำกึ่งผิดกฎหมายเนื่องจากการพูดนโยบายส่วนกลางแต่ท้องถิ่นไม่มีอำนาจดำเนินการ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคิดอย่างไรกังวลจะมีปัญหาตามมาหรือไม่ ว่า นายทักษิณ เป็นผู้ช่วยหาเสียง การพูดถึงนโยบายท้องถิ่นแล้วบอกว่าจะซัดพอร์ตนโยบายภาพรวมอันนี้เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว จริงๆไม่ได้กังวลอะไร หากมีอะไรมาก็พร้อมชี้แจงตามกระบวนการไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง เมื่อถามว่า การแจกเงินหมื่นเฟส 2ใกล้วันเลือกตั้งนายกฯอบจ.ที่จะมีขึ้นวันที่ 1ก.พ.อาจทำให้คนมองว่า เป็นความหมิ่นเหม่เรื่องเอื้อต่อการเลือกตั้งหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรากำหนดเรื่องเฟส 2 นานแล้ว ประชาชนถามว่าจะมากี่โมง เราตอบเรื่องนี้มาเป็นระยะว่า จะให้หลังวันตรุษจีน เราดูเรื่องงบประมาณเรื่องการจ่ายเงินด้วยไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่นอยู่แล้ว ยืนยันไม่เกี่ยวแน่นอน
‘เรืองไกร’ร้องปปช.สอบสามีนายกฯ
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เว็บไซต์ ปปช.เปิดเผยพบว่า มีหลายหลายการที่ควรตรวจสอบ ซึ่งวันนี้เป็นการขอให้ปปช.ตรวจสอบเงินให้กู้ยืมของคู่สมรสที่ให้บริษัทวินน์ แคปปิตอล จำกัด กู้ยืม8รายการ(ลำดับที่ 2 - 9) โดยเกิดขึ้นระหว่างปี 2564-2565 รวมเป็นเงิน 12,770,000บาทและมีการแจ้งรายได้ดอกเบี้ย 383,100 บาท ถูกต้องสัมพันธ์กันกับข้อมูลของบริษัทวินน์ฯหรือไม่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ข้อ 1.กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แจ้ง ปปช.ว่า คู่สมรส ชื่อ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ อยู่กินกันฉันสามีภรรยา ตามที่คณะกรรมการ ปปช.กำหนด ปัจจุบันเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มงานการลงทุนและการเงินบริษัทเรนด์ดีเวล ลอปเมท์ จำกัด
ข้อ 2.น.ส.แพทองธาร แจ้ง ป.ป.ช.ว่า คู่สมรส มีรายได้หลายรายการ รายการหนึ่งคือดอกเบี้ยจำนวน 383,100บาท ข้อ 3.น.ส.แพทองธาร ได้แจ้งบัญชีรายการเงินให้กู้ยืมแก่บริษัท วินน์ฯของคู่สมรส 8รายการ (ลำดับที่2-9) โดยเกิดขึ้นระหว่างปี2564-2565 รวมเป็นเงิน 12,770,000 บาท ข้อ4 จากการขอคัดหนังสือรับรองบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด ณ วันที่ 6มกราคม2568 พบว่า กรรมการของบริษัทมี 5คน คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์, น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์, นายฤภพ ชินวัตร , ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิชและนายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์
ข้อ5 จากการขอคัดสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น (แบบ บอจ.5) ณ วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 30/04/2567 พบว่า บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 10,000,000 บาท แบ่งออกเป็น 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท มีผู้ถือหุ้นคนไทยรวม 14คน คือ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ถืออยู่ 7,000 หุ้น น.ส.สุทิษา ประทุมกุล ถืออยู่ 7,000หุ้น นายพงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิสกุล ถืออยู่ 7,000หุ้น นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายวิม รุ่งวัฒนจินดา ถืออยู่ 7,000หุ้น นายพงศ์เกษม สัตยาประเสริฐ นายต้น ณ ระนอง ถืออยู่ 7,000 หุ้น ถืออยู่ 7,000 หุ้น นายมิตติ ติยะไพรัช ถืออยู่7,000หุ้น นายฤภพ ชินวัตร ถืออยู่ 7,000 หุ้น ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ถืออยู่ 9,000 หุ้น นายพยุงศักดิ์ ชาญด้วยวิทย์ ถืออยู่ 7,000 หุ้น และ น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร ถืออยู่ 7,000หุ้น
แจ้งเงินกู้ยืมคู่สมรสตามม.114หรือไม่
ข้อ 6.จากหมายเหตุประกอบงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของบริษัทฯ ข้อ 9 เงินกู้ยืมระยะสั้นจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน ระบุว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 บริษัทฯ มีเงินกู้ยืมจากกรรมการ จำนวน 12.77 ล้านบาท (2565 : 12.77 ล้านบาท) คิดดดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี และมีกำหนดชำระคืนเมื่อมีการทวงถาม ข้อ 7.งบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ของบริษัทฯ ได้แสดงรายการค่าใช้จ่ายทางการเงินของปี 2566 เป็นเงิน 383,100 บาท และของปี 2565 เป็นเงิน 379,680.81บาท ข้อ8 จากการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แจ้ง ปปช.ว่า คู่สมรส มีรายได้อดอกเบี้ย 383,100 บาท จึงสอดคล้องกับรายการดอกเบี้ยร้อยละ3ของยอดเงินกู้ 12,770,000 บาท แต่มีข้อสังเกตที่ต่างกันคือ นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ไม่มีชื่อเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด แต่อย่างใด ทั้งที่หมายเหตุ
ข้อ 9 ระบุว่ายอดเงินกู้ 12,770,000 บาทของบริษัทฯ เป็นเงินกู้ยืมจากกรรมการข้อ9 ดังนั้นจึงมีเหตุอันควรขอให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส จำนวน 12,770,000 บาท ถูกต้องหรือไม่ คู่สมรสเป็นกรรมการบริษัท วินน์ แคปปิตอล จำกัด หรือไม่ มีการนำดอกเบี้ยไปเสียภาษีรวมกับรายได้อื่นครบถ้วน หรือไม่ บริษัทฯ ผู้จ่ายดอกเบี้ยมีการหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือไม่ และดอกเบี้ยดังกล่าวต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือไม่ การแจ้งรายการดังกล่าวถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
นายเรืองไกร กล่าวสรุปว่า วันนี้จึงได้ยื่นหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช.ทำการตรวจสอบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 ว่า การแจ้งบัญชีรายการเงินให้กู้ยืมของคู่สมรส เป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา114หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี